ทรูประกาศความเป็นผู้นำ Telecom-Tech Company จับมือองค์กรระดับโลก “สมาคมจีเอสเอ็ม” (GSM Association หรือ GSMA) พัฒนา “Mobile Network Open APIs” ขึ้นแท่นผู้ให้บริการรายแรกของประเทศไทย พลิกโฉมระบบเชื่อมต่อข้อมูลผ่านเครือข่ายมือถือ ยกระดับประสบการณ์ทั้งในระดับคอนซูเมอร์และภาคอุตสาหกรรม รวมถึงเป็นแนวทางสร้างรายได้ใหม่ของสตาร์ทอัพ และธุรกิจโทรคมนาคม
ทั้งนี้ต้องยอมรับว่า การเป็นพันธมิตรกับสมาคมจีเอสเอ็ม ถือเป็นการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ของทรูจากที่เคยเป็นผู้นำบริการ 3G และ 4G รายแรกมาแล้ว เมื่อมาถึงยุค 5G อาจต้องยอมรับว่า วงการโทรคมนาคมไทยกำลังเจอกับความท้าทายที่แตกต่างไปจากเดิม เนื่องจาก 5G เป็นเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพสูง การใช้งานเครือข่าย 5G ให้เต็มความสามารถจำเป็นต้องมีผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนาเทคโนโลยีให้ตอบโจทย์อุตสาหกรรมต่าง ๆ ซึ่งปัจจุบัน ทั่วโลกกำลังเผชิญปัญหาขาดแคลนคนทำงานที่มีทักษะเหล่านี้
ในขณะเดียวกัน การใช้งานเครือข่ายที่ก้าวล้ำมากขึ้นอย่าง 5G ทำให้เกิดความท้าทายในประเด็นความปลอดภัยทางไซเบอร์เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะการโจมตีของแฮกเกอร์ที่รุนแรงและรวดเร็วขึ้น ซึ่งในจุดนี้ หากไม่มีการเตรียมการรับมือ จะทำให้ค่าใช้จ่ายที่องค์กรต้องแบกรับในด้านซีเคียวริตี้เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
หนึ่งในข้อมูลที่ชี้ชัดก็คือรายงานของการ์ทเนอร์* ที่ระบุว่า การใช้จ่ายด้านความปลอดภัยของข้อมูลและการบริหารความเสี่ยงในผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ ของประเทศไทยมีแนวโน้มจะเติบโตขึ้น 11.8% หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 16.7 พันล้านบาทในปี 2023
ขณะที่บริการรักษาความปลอดภัย (Security Services) จะมียอดการใช้จ่ายมากที่สุดขององค์กรธุรกิจในประเทศไทย โดยการรักษาความปลอดภัยบนคลาวด์ (Cloud Security) และการจัดการความเสี่ยงแบบบูรณาการ (Integrated Risk Management หรือ IRM) จะเป็นกลุ่มตลาดที่เติบโตรวดเร็วที่สุดในปี 2022 และ 2023
แม้ว่าทรูจะเตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง เช่น การจับมือกับภาคธุรกิจในการนำเทคโนโลยีอัตโนมัติมาปรับใช้กับเครือข่าย 5G การผนึกกำลังกับผู้ให้บริการด้านการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ระดับโลกนำโซลูชันอัจฉริยะมาใช้ดูแลปกป้องเครือข่าย ตลอดจนการให้ความรู้ด้านซีเคียวริตี้กับผู้ใช้งานในวงกว้าง ฯลฯ แต่การตั้งรับอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ ซึ่งการจับมือกับสมาคมจีเอสเอ็ม เป็นพันธมิตร GSMA Open Gateway APIs รายแรกของประเทศไทยนั้น มองได้ว่าเป็นการเตรียมปลดล็อกกับความท้าทายรูปแบบใหม่ที่จะเกิดขึ้น และยังเป็นการยกระดับความสามารถของเครือข่าย 5G ให้เหนือชั้นขึ้นกว่าเดิมด้วยนั่นเอง
การเป็นพันธมิตร GSMA Open Gateway APIs สำคัญอย่างไร
สำหรับ GSMA Open Gateway APIs เป็นแนวคิดของสมาคมจีเอสเอ็มที่ต้องการสร้าง API ที่มีมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก และเปิดให้กับผู้ให้บริการเครือข่ายที่เป็นพันธมิตรได้ใช้งาน โดยความสำคัญของการร่วมมือกับทางสมาคมจีเอสเอ็มในครั้งนี้ของทรู คือการเปิดโอกาสให้นักพัฒนา หรือองค์กรต่าง ๆ ได้เข้าถึง และโต้ตอบกับฟังก์ชัน – ข้อมูลของเครือข่ายด้วย API เดียวกัน โดยคุณมนัสส์ มานะวุฒิเวช ประธานคณะผู้บริหาร บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า การเป็นพันธมิตรกับสมาคมจีเอสเอ็ม พัฒนานวัตกรรม Mobile Network Open APIs นั้น จะเป็นก้าวที่สำคัญที่จะสะท้อนวิสัยทัศน์ของทรู ผู้นำเทเลคอม-เทคคอมปานี ที่จะเป็นมากกว่าผู้ให้บริการเครือข่าย อีกทั้งเป็นการยกระดับระบบนิเวศดิจิทัลไปสู่อีกขั้นหนึ่งของบริการ เพราะจะทำให้เกิดความร่วมมือกันในระดับโลกระหว่างทรูกับบริษัทเครือข่ายอื่น ๆ สนับสนุนให้นักพัฒนาทั้งไทยและต่างประเทศ สามารถเชื่อมต่อฟังก์ชัน แอปพลิเคชัน และแพลตฟอร์มต่าง ๆ ด้วยมาตรฐานเดียวกันกับผู้ให้บริการเครือข่ายอื่น ๆ ทั่วโลก ซึ่งเอื้อต่อการขยายธุรกิจไปยังประเทศต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วนั่นเอง
ไม่เพียงเท่านั้น การเข้าถึง API ที่เป็นมาตรฐานสากลได้นั้น ยังทำให้นักพัฒนาสามารถพัฒนาแอปพลิเคชันใหม่ ๆ และทำงานได้อย่างราบรื่นบนเครือข่ายของผู้ให้บริการที่เป็นพันธมิตรของ GSMA Open Gateway APIs ที่มีทั้งสิ้น 32 รายทั่วโลกได้ด้วย (ปัจจุบัน ทรูเป็นพันธมิตรรายล่าสุด) ซึ่งนอกจากจะทำให้การสร้างนวัตกรรมต่าง ๆ ทำได้รวดเร็วขึ้น ยังเป็นการขยายโอกาสให้กับนักพัฒนา และสตาร์ทอัพในไทยในการเติบโตได้อีกมากมายเลยทีเดียว
GSMA Open Gateway APIs ประกอบด้วยอะไรบ้าง
ในเบื้องต้น ทางสมาคมจีเอสเอ็มได้พัฒนา Network Open APIs ภายใต้กรอบความร่วมมือ GSMA Open Gateway APIs ออกมาทั้งสิ้น 8 รายการ ได้แก่
– SIM Swap
– Quality on Demand
– Device Status
– Number Verification
– Simply Edge Discovery
– One Time Password SMS
– Carrier Billing – Check out
– Device Location
ทั้งนี้ ทรูจะร่วมพัฒนา Network Open APIs มาเปิดให้บริการในประเทศไทย เพื่อให้องค์กรธุรกิจ และนักพัฒนาได้เชื่อมต่อและใช้ประโยชน์จากเครือข่ายของทรูได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ขณะที่ทางสมาคมจีเอสเอ็ม เผยว่า อยู่ระหว่างการพัฒนา API เพิ่ม โดยคาดว่าจะเปิดตัว API อีกประมาณ 20 รายการในอนาคตอันใกล้ ซึ่งจะทำให้นักพัฒนาสามารถสร้างสรรค์แอปพลิเคชันใหม่ ๆ จากการเชื่อมต่อ API ได้อีกมาก และมีโอกาสเติบโตได้กว้างกว่าเดิมบนเครือข่ายของบริษัทพันธมิตรทั่วโลก
เพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ใช้งาน
หนึ่งในกรณีศึกษาที่น่าสนใจจากการใช้งาน GSMA Open Gateway APIs เกิดขึ้นที่ประเทศอังกฤษ โดยคุณจูเลียน กอร์แมน ผู้บริหารของสมาคมจีเอสเอ็ม ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เผยว่า ผู้บริโภคในอังกฤษเองก็เผชิญปัญหาด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ไม่ต่างจากที่พบในประเทศไทย พร้อมยกตัวอย่างกรณี SIM Swapping หรือเทคนิคการสลับซิม ที่แฮกเกอร์สามารถสกัดกั้นข้อความ OTP รวมถึงรีเซ็ตรหัสผ่าน – รับรหัสที่อนุญาตให้เข้าถึงบัญชีธนาคารได้
ทั้งนี้ ในปัจจุบันมีนักพัฒนาสามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยการพัฒนาแอปพลิเคชันที่มีการเชื่อมต่อ API กับผู้ให้บริการเครือข่าย และสามารถป้องกันการทำ SIM Swapping ที่ครอบคลุมทั้งกระบวนการ ATP (Account Takeover Protection) ได้แล้ว และหากมีการแฮกซิม ระบบจะสามารถส่งแจ้งเตือน หรือระงับการใช้งานผ่านแอปพลิเคชันได้ทันท่วงที และแอปพลิเคชันนั้นก็ได้ถูกนำมาปรับใช้ในอังกฤษด้วย ซึ่งทำให้ตัวเลขการโจมตีดังกล่าว ลดลงจาก 15 – 20% เหลือเพียง 3% เท่านั้น
ด้านคุณพิชิต ธันโยดม หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านธุรกิจองค์กร บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวเสริมว่า GSMA Open Gateway APIs อาจเป็นอีกหนึ่งทางที่สร้างรายได้ใหม่ให้กับวงการโทรคมนาคม และสตาร์ทอัพไทยอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
“เราเปิดให้นักพัฒนา – สตาร์ทอัพต่อยอด สร้างประโยชน์จากเทคโนโลยีที่เรามีอยู่แล้ว ซึ่งการที่สมาคมจีเอสเอ็มร่วมกับบริษัทพันธมิตรพัฒนา API ที่มีมาตรฐานระดับโลก และเปิดให้เชื่อมต่อกับผู้ให้บริการรายอื่น ๆ ได้นั้น ในอนาคต GSMA Open Gateway APIs อาจไม่เพียงช่วยเราต่อกรกับแฮกเกอร์ – ความท้าทายด้านซีเคียวริตี้ได้ แต่ยังอาจได้เห็นแอปพลิเคชัน ใหม่ๆ นวัตกรรมดีๆ ในแวดวงการศึกษา เฮลท์แคร์ การเงิน ฯลฯ เพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก”
ข้อมูลอ้างอิง