HomeDigitalเปิดตัวแล้ว “Adobe Firefly” รับการเติบโต Gen AI เชิงพาณิชย์

เปิดตัวแล้ว “Adobe Firefly” รับการเติบโต Gen AI เชิงพาณิชย์

แชร์ :

firefly adobe

เปิดตัว (ในเชิงพาณิชย์) แล้วอย่างเป็นทางการสำหรับ Adobe Firefly เครื่องมือช่วยสร้างภาพโดยใช้ Generative AI ของ Adobe หลังจากเป็นเบต้าเวอร์ชันให้ทดลองใช้กันมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2023 โดย Adobe เผยว่า ได้มีการเทรน Adobe Firefly ผ่านภาพ – สินทรัพย์ของบริษัทที่อยู่บน Adobe Stock มากกว่า 355 ล้านรายการ และมีค่าตอบแทนให้กับครีเอเตอร์ – ผู้สร้างผลงานที่นำมาเทรน Gen AI เหล่านั้นด้วย

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

รองรับภาษาไทย

หนึ่งในความพิเศษของ Firefly ที่เปิดตัวในการใช้งานเชิงพาณิชย์ก็คือสามารถรองรับ Text Prompt ได้มากกว่า 100 ภาษา ซึ่งรวมถึงภาษาไทย โดยคุณเดวิด วาดห์วานี ประธานฝ่ายธุรกิจสื่อดิจิทัลของอะโดบี เผยว่า ในช่วงเปิดทดลองเบต้าเวอร์ชันนั้น มีการใช้ Adobe Firefly สร้างภาพมากกว่า 2 พันล้านภาพ พร้อมบอกว่า ความสามารถของ Firefly เมื่อทำงานร่วมกับเครื่องมือของ Adobe อย่าง Creative Cloud, Express, เว็บแอป Firefly และ Adobe Experience Cloud จะช่วยสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับครีเอเตอร์ได้อย่างแน่นอน

สำหรับการใช้งาน ผู้ที่สมัครใช้บริการจะได้รับ Generative Credits เพื่อไปใช้งาน Firefly และสามารถซื้อเพิ่มได้หากใช้ Generative Credits ที่ได้รับในแต่ละเดือนหมด

มาพร้อม Content Credentials เพิ่มความโปร่งใส

อีกสิ่งหนึ่งที่มีการกล่าวถึงในการเปิดตัว Firefly เชิงพาณิชย์คือเรื่องของจริยธรรมในการใช้ AI โดยคอนเทนต์ทั้งหมดที่สร้างขึ้นโดยใช้ Firefly จะมีการระบุแหล่งที่มาของงานครีเอทีฟโดยอัตโนมัติ ซึ่งในจุดนี้ Adobe อธิบายว่า Firefly จะรวมข้อมูล Content Credentials ที่สร้างขึ้นโดยใช้ Firefly เพื่อระบุว่ามีการใช้ Generative AI พร้อมมองว่าจะทำให้เกิดความน่าเชื่อถือและความโปร่งใสในดิจิทัลคอนเทนต์มากขึ้น

ทั้งนี้ อาจกล่าวได้ว่า Content Credentials ทำหน้าที่เป็น “ฉลากโภชนาการ” แบบดิจิทัล ที่สามารถแสดงข้อมูลรวมถึงชื่อคอนเทนต์ วันที่สร้าง เครื่องมือที่ใช้ในการสร้าง และการแก้ไขใด ๆ ที่ทำขึ้น โดยข้อมูลนี้ยังคงเชื่อมโยงกับคอนเทนต์ไม่ว่าจะใช้ เผยแพร่ หรือจัดเก็บไว้ที่ใดก็ตาม ซึ่งจะช่วยให้ผู้บริโภคมีข้อมูลในการตัดสินใจเกี่ยวกับดิจิทัลคอนเทนต์นั้น ๆ มากขึ้นนั่นเอง

ด้านคุณชานดร้า ซินนาทามบาย  ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์ดิจิทัลมีเดียสำหรับ B2และ GTM ประจำอะโดบี ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวเสริมว่า ในแง่ของจริยธรรมในการใช้ AI ทาง Adobe มีการทำงานร่วมกับพันธมิตรที่เรียกว่า Content Authenticity Initiative โดยขณะนี้ กลุ่มพันธมิตรดังกล่าวมีสมาชิกมากกว่า 1,800 คนทั่วโลก พร้อมมองว่า ถ้าทำให้การใช้งาน Gen AI ในเชิงพาณิชย์โปร่งใส่ – ตรวจสอบได้มากเท่าไร ก็จะทำให้ตลาดนี้มีการขยายตัวมากขึ้น ซึ่งในท้ายที่สุดแล้ว จะเป็นผลดีต่อวงการครีเอทีฟนั่นเอง

Adobe จ่ายค่าตอบแทนอย่างไร

สำหรับเงินค่าตอบแทนที่ Adobe จะจ่ายให้กับ Contributor ซึ่งเป็นผู้สร้างผลงานนั้น คุณชานดร้า ระบุว่า คิดจากสองส่วน นั่นคือ จำนวน Asset ที่ครีเอเตอร์สร้างและส่งเข้ามาในระบบในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา กับจำนวนครั้งที่ Asset นั้นถูกดาวน์โหลดไปใช้งานโดยผู้ใช้ของ Adobe Stock ซึ่งในจุดนี้ทำให้ครีเอเตอร์แต่ละรายจะได้รับค่าตอบแทนที่แตกต่างกัน


แชร์ :

You may also like