HomeSponsoredเทรนด์แรง “สินค้ายั่งยืน” สำหรับสายรักษ์โลก โอกาสมหาศาลแบรนด์ไทยบุก “ตลาดญี่ปุ่น”

เทรนด์แรง “สินค้ายั่งยืน” สำหรับสายรักษ์โลก โอกาสมหาศาลแบรนด์ไทยบุก “ตลาดญี่ปุ่น”

ส่องเทรนด์ “สินค้ายั่งยืน” ในประเทศญี่ปุ่น โอกาสมหาศาลของแบรนด์ไทย

แชร์ :

หนึ่งในเทรนด์ธุรกิจที่มาแรงที่สุดในตอนนี้ คงหนีไม่พ้นประเด็น ‘สิ่งแวดล้อม’ จากปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและปัญหาขยะที่เกิดขึ้นทำให้ผู้คนทั่วโลกเปิดใจรับกับ “สินค้ายั่งยืน” หรือแนว Eco-friendly มากขึ้นทันตาเห็น โดยจากการสำรวจในปี 2021 พบว่าคนกว่า 32% ทั่วโลกที่เริ่มหันมาใช้ชีวิตอย่างยั่งยืนมากขึ้น

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

จากเทรนด์ธุรกิจสีเขียวทั่วโลก ประเทศญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในตลาดสิ่งแวดล้อมที่กำลังเติบโตและน่าสนใจมากขึ้น โดยปัจจุบันแบรนด์ต่าง ๆ ที่หันมาจับสินค้ายั่งยืนกันถ้วนหน้า รวมถึงพัฒนานวัตกรรมล้ำสมัย ฉบับ Green Innovation ต่าง ๆ เช่น เม็ดพลาสติกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ พัฒนาพลังงานหมุนเวียน ไปจนถึงอุตสาหกรรมแฟชั่นที่ปรับตัวเป็น Slow Fashion กันถ้วนหน้า หรือแม้แต่ร้านสะดวกซื้อชื่อดังอย่าง Lawson ยังปรับนโยบายลดราคาให้ลูกค้าที่นำภาชนะมาเอง

ตลาดสินค้ายั่งยืนในญี่ปุ่นน่าสนใจยังไง?

ตลาดสิ่งแวดล้อมในญี่ปุ่นเติบโตอย่างรวดเร็วจากไลฟ์สไตล์ของคนที่ให้ความสนใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้นจนกลายเป็น Sustainable Lifestyle ที่ชาวญี่ปุ่นปรับตัวจนคุ้นเคยอย่างที่เราเห็นวัฒนธรรมการแยกขยะที่พร้อมใจทำอย่างแข็งขัน

สิ่งสำคัญอย่างมากคือนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมระดับชาติของญี่ปุ่นที่ตั้งใจลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 50% ของปัจจุบันภายในปี 2030 ทำให้เกิดนโยบายที่ส่งเสริมทั้งผู้คนและธุรกิจต่าง ๆ ให้ดีกับสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นการจัดสรรงบประมาณด้านนวัตกรรมสีเขียว 2 ล้านล้านเยน (ประมาณ 5.1 แสนล้านบาท) หรือนโยบายมอบสิทธิประโยชน์ทางภาษีสนับสนุนการลงทุนในประเทศมูลค่า 1.7 ล้านล้านเยน (ประมาณ 4.34 แสนล้านบาท)

ทั้งเทรนด์รักษ์โลกและการสนับสนุนเชิงนโยบาย ทำให้ญี่ปุ่นเป็นตลาดที่น่าสนใจอย่างมากสำหรับแบรนด์และธุรกิจไทยสีเขียวที่ต้องการรุกตลาดต่างประเทศ

รุกตลาดญี่ปุ่นผ่านโมเดล BCG (Bio-Circular-Green Economy)

เชื่อว่าหลายคนคงได้เห็นแบรนด์ไทยที่พัฒนาสินค้าสีเขียวในด้านต่าง ๆ มากขึ้นในช่วงที่ผ่านมาเพื่อตอบโจทย์เทรนด์โลก และสินค้าเองก็มีศักยภาพที่สามารถไปแข่งขันในตลาดสากลได้เช่นกัน แต่เรายังไม่ค่อยเห็นแบรนด์ไทยด้านสิ่งแวดล้อมในแง่การส่งออกมากนัก

ดังนั้นตอนนี้อาจเป็นโอกาสที่ดีสำหรับแบรนด์รักษ์โลกของไทย รุกตลาดส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่นที่กำลังเปิดรับอยู่ โดยเฉพาะช่วงเวลานี้นโยบายเศรษฐกิจของไทยกำลังส่งเสริมธุรกิจสีเขียว ผ่านนโยบายส่งเสริมเศรษฐกิจและการพัฒนาอย่างยั่งยืนระหว่างไทยและญี่ปุ่น ด้วยแนวคิด The Future is Circular ที่รัฐบาลไทยได้พัฒนาโมเดลเศรษฐกิจแบบ BCG (Bio-Circular-Green Economy)

โมเดล BCG (Bio-Circular-Green Economy) หรือโมเดลการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนผ่านการพัฒนานวัตกรรมและการสนับสนุนผู้ผลิต-ประกอบการ เพื่อลดการเกิดก๊าซเรือนกระจกและลดการเกิดของเสียในกระบวนการ ไปจนถึงการส่งเสริมการแข่งขันในตลาดโลก ซึ่งจะช่วยให้แบรนด์ไทยมีโอกาสแข่งขันในตลาดโลกได้ และส่งเสริมศักยภาพธุรกิจสิ่งแวดล้อมโลกได้อย่างยั่งยืน

สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจรุกตลาดส่งออกทั้งในญี่ปุ่นและระดับสากล แต่ยังกล้า ๆ กลัว ๆ ทาง DITP หรือกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ยังพร้อมสนับสนุนในฐานะพาร์ทเนอร์ธุรกิจที่มีความเชียวชาญ ที่สามารถเข้ามาช่วยผู้ประกอบการได้ใน ‘ทุกกระบวนการ’ ตั้งแต่การให้คำปรึกษา แก้ไขจุดอ่อน สร้างจุดแข็ง พัฒนาความรู้ด้านการส่งออก ไปจนถึงการสร้างแบรนด์

เรียกได้ว่า DITP ให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการตั้งแต่ต้นจนจบเพื่อให้ผู้ประกอบการไทยส่งออกสินค้าระดับสากลได้อย่างยั่งยืนและมั่นคง สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ditp.go.th/ หรือโทรสายด่วน 1169

ปัจจุบันนับว่าเป็นโอกาสที่ดีสำหรับเจ้าของธุรกิจ BCG ในทุก ๆ สายธุรกิจที่ต้องการขยายตลาดและไปเติบโตในประเทศญี่ปุ่น ที่นอกจากจะได้รับความสนใจในระดับสากลแล้วยังเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้เกิดความยั่งยืนอย่างแท้จริงด้วย

ใครที่สนใจเทรนด์ธุรกิจในญี่ปุ่นมาติดตามความน่าสนใจของตลาดและเทรนด์ในประเทศญี่ปุ่นได้ในคลิปนี้เลย : https://www.youtube.com/watch?v=Ixksh6O-8iQ

อ้างอิง

BCG (Bio-Circular-Green) economy in Thailand (jri.co.jp)

download (dtn.go.th)

What Does Sustainability Mean to Japanese Consumers? – Humble Bunny


แชร์ :

You may also like