Homeไม่มีหมวดหมู่LINE ประกาศยกระดับ “แชท” เปิดโรดแมป 5 ปี เพิ่มฟีเจอร์สำหรับทำงาน-เก็บไฟล์

LINE ประกาศยกระดับ “แชท” เปิดโรดแมป 5 ปี เพิ่มฟีเจอร์สำหรับทำงาน-เก็บไฟล์

แชร์ :

ดร.พิเชษฐ ฤกษ์ปรีชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE ประเทศไทย

LINE ประเทศไทย ประกาศวิสัยทัศน์ จะเป็น Open Platform เพื่อคนไทย – ธุรกิจไทย ให้สามารถพัฒนาปลั๊กอิน หรือส่วนต่อเชื่อมต่าง ๆ เข้ามายังแพลตฟอร์มได้ บริการจัดการข้อมูลลูกค้า – โฆษณาได้ดีขึ้น รวมถึงพัฒนาโซลูชันสำหรับการทำงานให้กับ Group Chat เพื่อเจาะตลาดองค์กรเพิ่ม เช่น การเพิ่มโฟลเดอร์ – ความสามารถในการเก็บไฟล์ – การจัดการนัดหมาย

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

การประกาศดังกล่าวมีขึ้นภายในงาน LINE Conference Thailand 2023 ที่ผู้บริหาร LINE อย่าง ดร.พิเชษฐ ฤกษ์ปรีชา
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE ประเทศไทย และคุณนรสิทธิ์ สิทธิเวชวิจิตร รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (COO) ได้เผยถึงสถิติการใช้งานแพลตฟอร์ม LINE ในปัจจุบันของคนไทย ว่ามีความน่าสนใจดังนี้

  • LINE เปิดตัวในประเทศไทยมาแล้ว 12 ปี ปัจจุบันมีผู้ใช้งาน 54 ล้านคน
  • บริการที่มีการใช้งานมากที่สุดของ LINE ก็คือ Group Chat โดยเติบโตขึ้น 56% ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
  • การส่งไฟล์ รูปภาพ ข้อความเสียง วิดีโอของผู้ใช้งานในไทย ถือว่ามีอัตราการเติบโตสูงกว่าประเทศอื่น ๆ ที่ LINE ให้บริการมาก

เปิดความยิ่งใหญ่ “LINE Group Chat”

เชื่อว่าผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือส่วนใหญ่ต่างคุ้นเคยกับ LINE Group Chat เป็นอย่างดี แต่หากมองในภาพระดับประเทศ ต้องยอมรับว่า LINE Group Chat ยิ่งใหญ่ไม่น้อย เห็นได้จากสิ่งที่ LINE ประเทศไทย เปิดเผยออกมาว่า

การใช้งาน Group Chat ในประเทศไทย แบ่งออกได้เป็น 4 หมวดใหญ่ ๆ นั่นคือ

      • ใช้ด้านการเรียน – สถานศึกษา 27%
      • ใช้ในด้านการทำงาน 77%
      • ใช้ในครอบครัว 80%
      • ใช้สื่อสารระหว่างเพื่อน 82%

ผู้ที่อยู่ใน Group Chat พบว่ามีทุกเจเนอเรชั่น ได้แก่

      • ช่วงอายุ 15- 19 ปี  45%
      • ช่วงอายุ 20 – 29 ปี  31%
      • ช่วงอายุ 30 – 39 ปี 32%
      • ช่วงอายุ 40 – 44 ปี 33%
      • ช่วงอายุ 45 – 49 ปี 34%
      • ช่วงอายุ 50+ ปี 37%

ทั้งนี้ ผู้สูงอายุที่ไม่ได้อาศัยอยู่กับลูกหลาน จะมีปฏิสัมพันธ์กับ Group Chat ในครอบครัวมากกว่าผู้สูงอายุที่อาศัยกับลูกหลาน ราว 24% นอกจากนั้น ค่าเฉลี่ยของผู้ใช้งาน LINE พบว่า จะมี 5 Group Chat สำหรับการเรียน 9 Group Chat สำหรับการทำงาน 4 Group Chat สำหรับครอบครัว และ 7 Group Chat สำหรับเพื่อน โดยกลุ่มคนทำงาน หรือ Digital Worker เป็นกลุ่มที่แอคทีฟสูงสุดใน Group Chat นั่นคือ 83% ของคนกลุ่มนี้ มีปฏิสัมพันธ์กับ Group Chat ทุกวัน

คุณนรสิทธิ์ สิทธิเวชวิจิตร รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (COO)

พัฒนาฟีเจอร์ใหม่ตอบโจทย์คนชอบแชท

คุณนรสิทธิ์ สิทธิเวชวิจิตร กล่าวถึงการพัฒนาฟีเจอร์เพิ่มเติมให้กับ LINE Group Chat ในโรดแมปของบริษัทว่า ต้องการเน้นไปที่ฟีเจอร์ด้านการทำงาน เช่น การจัดเก็บไฟล์ การสร้างโฟลเดอร์ การนัดหมายในปฏิทิน ฯลฯ โดยอาจเป็นฟีเจอร์ที่องค์กรซื้อไปให้พนักงานใช้ (B2B2C)

นอกจากนั้น ยังมีการเปิดตัวบริการ Sticker Premium ที่คิดค่าบริการแบบ Subscription ทั้งแบบรายเดือนและรายปีออกมาให้ผู้ใช้งานได้นำไปใช้ใน Group Chat ได้สะดวกขึ้นด้วย โดยคุณนรสิทธิ์กล่าวถึงการคิดค่าบริการ Sticker Premium ที่เริ่มต้นที่ 69 บาทต่อเดือนว่า มาจากราคาของ Sticker ที่เริ่มต้น 65 บาทต่อชุด หากเพิ่มอีก 4 บาทก็ถือเป็นราคาที่หลายคนรับได้

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการ Sticker Premium : ยุคแห่ง Subscription “LINE ประเทศไทย” เปิดตัว “Sticker Premium” ใช้ได้ไม่จำกัด เริ่มต้น 69 บาทต่อเดือน – Brand Buffet

sticker line

เปิดวิสัยทัศน์ด้านเทคโนโลยีแห่งปีครั้งแรกของ LINE ประเทศไทย

ด้านคุณวีระ เกษตรสิน รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ (CPO) กล่าวถึง Roadmap ของ LINE ประเทศไทยด้านเทคโนโลยีว่า ในช่วง 5 ปีจากนี้ LINE จะมุ่งสู่การเป็น “แพลตฟอร์มเปิด” ที่พร้อมเปิดรับการเชื่อมต่อกับหลากหลายเทคโนโลยีนำสมัย นำมาซึ่งผลิตภัณฑ์และบริการที่สอดคล้องกับพฤติกรรมของคนไทย ทั้งในด้านผู้ใช้งาน ธุรกิจ และพันธมิตร โดยอาศัยแนวคิดตั้งต้นจากทีมงาน LINE ประเทศไทย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการสำหรับตลาดไทยโดยเฉพาะ ผ่าน 4 กลยุทธ์​สำคัญ ได้แก่

  • Extensive Plug-Ins เปิดการเชื่อมต่อกับระบบหรือโซลูชั่นอื่น ๆ อย่างหลากหลาย ทั้งโซลูชั่นที่คิดค้นเพิ่มเติมโดย LINE เอง และระบบที่พาร์ทเนอร์หรือนักพัฒนาทั่วไปได้พัฒนาขึ้นมา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสรรค์สร้างผลิตภัณฑ์และบริการให้ตอบโจทย์ผู้ใช้ชาวไทยในมิติที่กว้างและลึกขึ้น
  • Data Utilization ส่งเสริมให้พันธมิตรและนักพัฒนาสามารถเข้าถึงข้อมูลได้มากขึ้น ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพอย่างไร้รอยต่อ นำไปสู่การใช้ข้อมูลเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตได้อย่างแท้จริง
  • Performance Marketing เพิ่มประสิทธิภาพทางการตลาดบนแพลตฟอร์ม ด้วยศักยภาพการจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลที่แข็งแกร่งขึ้น สร้างการเติบโตให้ภาคธุรกิจผ่านโซลูชั่นต่าง ๆ ของ LINE ได้อย่างยั่งยืน
  • Privacy Focused การให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานอย่างเคร่งครัด

ปู 3 โร้ดแมป ยกระดับเทคโนโลยี

คุณวีระยังได้กล่าวต่อไปด้วยว่า LINE จะมีการเพิ่ม Customer Data Tools เพื่อให้แบรนด์สามารถเพิ่มขีดความสามารถในจัดการข้อมูลลูกค้าผ่านเครื่องมือ MyCustomer ในการเก็บรวบรวม 1st Party Data ของผู้บริโภค โดยให้อำนาจร้านค้าในการเข้าถึงและจัดการข้อมูลได้มากกว่าที่เคย ภายใต้ขอบเขตการยินยอมจากผู้บริโภคตามกฎหมาย โดยมีแผนการเปิดตัว MyCustomer สำหรับกลุ่มธุรกิจรายย่อย (SME) และในอนาคต สำหรับกลุ่มธุรกิจที่ต้องการบริหารจัดการข้อมูลเพื่อการทำ CRM โดยเฉพาะ

นอกจากนั้น ในส่วนของโฆษณาบน LINE ก็จะมีการปรับปรุงด้วยเช่นกัน โดยจะสามารถวิเคราะห์ ประยุกต์ใช้ข้อมูลที่แบรนด์ได้มาเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น อาทิ การเพิ่ม Segment ในการหากลุ่มเป้าหมายผ่าน Persona Targeting ให้เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น และการเปิดให้ภาคธุรกิจ ร้านค้า สามารถนำข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคบน LINE SHOPPING มาวิเคราะห์แบ่งกลุ่ม เพื่อการยิงโฆษณาผ่าน LINE ADS ได้แม่นยำและครอบคลุมขึ้นกว่าเดิม เป็นต้น

ส่วนสุดท้ายคือการพัฒนา API & Plug-In ด้วยการเปิดขยายการเชื่อมต่อ API ให้มีความหลากหลายและตอบโจทย์เฉพาะด้านได้อย่างครอบคลุมขึ้น อาทิ LINE SHOPPING API, Messaging API รวมถึงแผนการเปิดตัว LINE OA Plus Plug-in Store แหล่งรวมโซลูชั่นสำหรับนักพัฒนานอกองค์กร LINE ในการนำเสนอโซลูชั่นใหม่ ๆ และยังเป็นโอกาสสำหรับภาคธุรกิจไทย ในการมองหาโซลูชั่นให้ตรงกับความต้องการ โดยภาพทั้งหมดนี้จะได้เห็นอย่างเป็นทางการในช่วงปี 2023 – 2027 นั่นเอง


แชร์ :

You may also like