ด้วยความมุ่งมั่นในการร่วมเปลี่ยนผ่านรูปแบบการเดินทางของผู้คนในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ มาสู่การใช้ยานยนต์ไฟฟ้าให้มากขึ้น เพื่อลดการสร้างผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับวาระที่ทั่วทั้งโลกกำลังให้ความสำคัญ
ประกอบกับการช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในยุคเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้ผู้คนระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น แต่ค่าใช้จ่ายในเรื่องของการเดินทางซึ่งถือว่ามีความจำเป็นยังคงมีสัดส่วนที่สูงเกินไป โดยพบว่าสัดส่วนค่าใช้จ่ายการเดินทางของคนในภูมิภาคนี้อยู่ที่ราว 30% ของรายได้ขั้นต่ำเลยทีเดียว
รูปแบบการเดินทางด้วยจักรยานยนต์จึงเป็นหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะมีทั้งความสะดวกและประหยัด และยังช่วยลดค่าใช้จ่ายจากการเดินทางให้ลดลงได้มากกว่า 50%
SLEEK EV แบรนด์ชั้นนำในการผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าสัญชาติไทย – สิงคโปร์ ที่เริ่มต้นมาจากการเป็นแพลตฟอร์ม ให้บริการสินเชื่อรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าตั้งแต่ปี 2019 โดยเป็นแพลตฟอร์ม FinTech แห่งแรกของไทยที่ให้บริการสินเชื่อมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ก่อนจะขยายธุรกิจมาสู่การสร้างมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแบรนด์ SLEEK EV ในปี 2022
ทั้งนี้ SLEEK EV มุ่งเน้นสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านไลฟ์สไตล์การเดินทางของผู้คนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้มีความยั่งยืนและทุกคนสามารถเอื้อมถึงได้ง่ายมากขึ้น ภายใต้แนวคิด ‘Sustainability must be affordable’ จึงเดินหน้าส่งเสริมการใช้งานรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะนอกจากเป็นวิธีการเดินทางที่รวดเร็ว สะดวก และประหยัดกว่าแล้ว ยังมีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้นด้วย
โดยหนึ่งในตลาดสำคัญของ SLEEK EV คือตลาดประเทศไทย และถือเป็นเป้าหมายแรกในการบุกตลาดของภูมิภาคนี้ เพราะมีขนาดตลาดรถจักรยานยนต์ที่ค่อนข้างใหญ่ ด้วยมูลค่ามากกว่า 2,600 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี แต่มีสัดส่วนรถจักรยายนยนต์ไฟฟ้าน้อยกว่า 1% ของตลาด ทำให้มีโอกาสในการขยายตลาดได้อีกมาก
และจากการเปิดตัวของ SLEEK EV ในประเทศไทย เมื่อเดือนกันยายน 2022 ก็ได้รับการตอบรับจากตลาดเป็นอย่างดี เพราะเพียง 3 เดือน ภายหลังการเปิดตัว ก็สามารถทำยอดขายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าผ่านเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายชั้นนำทั่วประเทศได้มากกว่า 1,000 คัน
เพิ่มพันธมิตร แนวร่วมหนุนเปลี่ยนผ่าน
ล่าสุด SLEEK EV ประสบความสำเร็จในการระดมทุนรอบ Pre-Series A ที่มีกองทุนให้ความสนใจร่วมลงทุนในโมเดลธุรกิจหลายราย นำโดยกองทุน ORZON Ventures ซึ่งเป็นกองทุนส่วนบุคคลที่ลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพ ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR และ 500 TukTuks พร้อมด้วยผู้ร่วมลงทุนในรอบนี้ ได้แก่ January Capital และ A2D Ventures ที่เข้ามาช่วยสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านการเดินทางให้มีการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้น
นายกันตินันท์ ตันวีนุกูล และ Mr. Zhang Quan Ong (ZQ) ผู้ก่อตั้ง SLEEK EV กล่าวว่า ORZON Ventures และ OR มีวิสัยทัศน์ตรงกับ SLEEK EV ที่ต้องการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านรูปแบบการเดินทางด้วยยานยนต์ไฟฟ้า และขับเคลื่อนภูมิภาคอาเซียนสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ซึ่งนอกจากได้รับสนับสนุนทางการเงินแล้ว การเข้ามาอยู่ภายใต้ Ecosystem เดียวกันยังช่วยปลดล็อกศักยภาพธุรกิจให้เติบโตได้อย่างเต็มที่ เพราะสามารถใช้ Infrastructure ภายในระบบนิเวศขนาดใหญ่และครอบคลุมไลฟ์สไตล์ลูกค้า ตั้งแต่เครือข่าย PTT Station ร้านกาแฟคาเฟ่อเมซอน ศูนย์บริการยานยนต์ Fit Auto และอื่น ๆ ซึ่งจะสามารถผลักดันการเติบโตและสามารถขึ้นสู่ผู้นำในตลาดได้ในอนาคต
ทั้งนี้ อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ช่วยผลักดันให้ตลาดเติบโตและส่งเสริมการใช้งานของลูกค้าให้มากขึ้นได้คือ การที่รัฐบาลให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีและเงินอุดหนุนต่างๆ ซึ่งถือเป็นปัจจัยบวกในการผลักดันให้ตลาดขยายตัวและช่วยเพิ่มความสามารถในการเข้าถึงรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าด้วยราคาที่ถูกลง รวมทั้งยังเป็นการส่งเสริมการขับเคลื่อนธุรกิจที่มีส่วนสนับสนุนเป้าหมายของรัฐบาลในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน และส่งเสริมทางเลือกการเดินทางที่ยั่งยืนในประเทศไทย
“เป้าหมายสำคัญหลังจากการระดมทุนคือ การผลักดันให้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้ามีราคาที่ย่อมเยาลงได้ ผ่านการขยายและพัฒนาสายการผลิตให้เป็นระบบอัตโนมัติ ผ่านเทคโนโลยี Smart Vehicle Controller Unit ที่เชื่อมต่อเข้ากับยานพาหนะได้อย่างราบรื่น ผ่านแอปพลิเคชัน SLEEK เพื่อยกระดับประสบการณ์ให้แก่ผู้ใช้งาน โดยวางเป้าหมายยอดขายในปีหน้าไว้ที่ 20,000 คัน”
ด้าน นายณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ Managing Partner กองทุน ORZON Ventures กล่าวถึงการลงทุนครั้งนี้ว่า ยังมีโอกาสอีกมากในตลาดรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า จากการเกิด Disruption ครั้งสำคัญในตลาด ทำให้เกิดการตื่นตัวในการใช้ EV ทั้งจากลูกค้าองค์กรและรายย่อย ขณะที่ผู้เล่นในตลาดยังไม่มากนัก ประกอบกับ SLEEK EV มีความตั้งใจส่งมอบประสบการณ์ที่ดีทั้งจากคุณภาพและเทคโนโลยีผลิตภัณฑ์ ราคาที่เข้าถึงได้ง่าย และบริการหลังการขายที่ดี รวมทั้งยังมีพันธมิตรเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มสินเชื่อรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าได้มากขึ้น จึงเชื่อว่าจะสามารถตอบโจทย์ลูกค้าในภูมิภาคอาเซียนที่มีดีมานด์ EV ในระดับสูงได้ดี ส่งผลให้ธุรกิจมีโอกาสเติบโตได้ในระดับสูง