ปฏิเสธไม่ได้ว่า มนุษย์ในปัจจุบันมีปัญหาด้านการนอนหลับมากขึ้น โดยหนึ่งในข้อมูลที่สะท้อนเรื่องดังกล่าวได้ดีก็คือ ประเด็นเรื่องการนอนหลับ วิธีการนอน ฯลฯ ที่เป็นหัวข้อฮิตติดเทรนด์บนเสิร์ชเอนจินอย่าง Google อยู่บ่อยครั้ง
แต่ในมุมของโรงแรม นี่อาจกลายเป็นอีกหนึ่งโอกาสทางธุรกิจ เพราะมีบางโรงแรมตัดสินใจพัฒนาห้องพักแบบใหม่สำหรับรองรับผู้ที่นอนหลับยากเป็นการเฉพาะขึ้นมา หรือไม่ก็จัด Sleep Tourism เพื่อเจาะกลุ่มผู้มีปัญหาทางการนอนเสียเลย
ตัวอย่างของโรงแรมที่ทำโปรแกรมเหล่านี้แล้วได้รับการตอบรับที่ดี เช่น Zedwell Hotel ในกรุงลอนดอน โดยทางโรงแรมได้ออกแบบห้องพักสไตล์มินิมอล และเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ จากธรรมชาติ รวมถึงเลือกใช้โคมไฟที่ให้แสงเย็นนวลตา ส่วนสิ่งรบวนอื่น ๆ เช่น ทีวี โทรศัพท์ หรือแม้แต่หน้าต่าง ก็ถูกตัดออกไปหมดสิ้น
อีกหนึ่งตัวอย่างมาจากนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา กับโรงแรม Park Hyatt ที่นำเตียงอัจฉริยะเข้ามาติดตั้งในห้องพัก โดยเตียงสามารถเล่นเพลง และโยกเบา ๆ เพื่อให้ผู้เข้าพักหลับได้ง่ายขึ้น รวมถึงมีการใช้กลิ่นหอมจากน้ำมันหอมระเหยฉีดสร้างบรรยากาศในห้องพักเพื่อความผ่อนคลาย และการใช้ AI ในการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของร่างกายขณะนอนหลับ เพื่อปรับเตียงให้นอนสบายขึ้นด้วย
ตลาดคนนอนหลับยากใหญ่แค่ไหน
เมื่อถามว่า ตลาดสำหรับคนที่มีปัญหาด้านการนอนนั้น มีขนาดใหญ่แค่ไหน ในปี 2022 มีข้อมูลจาก the Journal of Clinical Sleep Medicine รายงานว่า 40% ของผู้ใหญ่ 2,500 คนที่เข้าร่วมการทดสอบมีปัญหาด้านการนอนหลับ โดยพบว่า คนเหล่านี้เริ่มพบปัญหาในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของ Covid-19 และโรงแรมห้าดาวส่วนหนึ่งก็เริ่มมีการปรับตัวให้เข้ากับเทรนด์ดังกล่าว เช่น การปรับห้องพักให้ทันสมัยขึ้น หรือบางโรงแรมก็มีการทำสมาธิ นวดผ่อนคลาย หรือให้แขกเลือกหมอนที่ชอบเข้ามาเพิ่มเป็นออปชันด้วย
นอกจากนั้น ในงาน CES 2023 ที่จัดขึ้นเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ก็พบว่า มีการจัดแสดงเทคโนโลยีด้านการนอนหลับจากสตาร์ทอัพประเทศต่างๆ ไว้มากมายเช่นกัน ซึ่งนี่อาจทำให้ธุรกิจโรงแรมมองเห็นโอกาสที่จะผนวกบริการด้านการนอนหลับเอาไว้ในห้องพักของพวกเขาได้สะดวกมากขึ้น