จะดีแค่ไหนหากวันใดที่คุณเหนื่อยล้าหรือมีจุดเปลี่ยน (พลิก) ในชีวิต พบกับปัญหาหรือเรื่องท้อแท้เพียงข้ามคืน แต่ยังมีคนที่เข้าใจคุณและพร้อมอยู่เคียงข้างเสมอ “บาร์บีคิวพลาซ่า” เข้าใจ Insight นี้ดี จึงเลือกต่อยอดกลยุทธ์การตลาด โดยดึงเรื่องของ Emotional Campaign เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการสร้าง Brand Love อย่างต่อเนื่อง
ตลอด 10 ปีที่ผ่านมาคือการสื่อสารผ่าน Emotional Campaign ของบาร์บีคิวพลาซ่า จึงดึง Insight ของลูกค้านำมาถ่ายทอดเป็นแคมเปญแบบฟีลกู๊ด จนมีคำติดหู “ทำมื้อนี้ให้ดีที่สุด” ที่เมื่อพูดถึงก็จำได้ทันทีว่านี่คือแคมเปญของ “บาร์บีคิวพลาซ่า” ที่ต้องการโฟกัสกับปัจจุบันขณะ อยู่กับคนตรงหน้าให้มีช่วงเวลาที่ดีที่สุด ที่สื่อสารให้ผู้บริโภคเข้าใจได้ง่าย ไม่สลับซับซ้อน และแฝงความ Emotional ให้ความรู้สึกอบอุ่นหัวใจจนเกิดการสื่อสารร่วมกันระหว่างแบรนด์กับลูกค้า
เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป “ทำมื้อนี้ให้ดีที่สุด” หรือ Moment of NOW ความเป็น Brand Thinking ยังคงอยู่ แต่บริบท เหตุการณ์อาจไม่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่อีกต่อไป การรีเฟรชแนวคิด โดยเปลี่ยนมุมมองใหม่ ปัดฝุ่น ใส่เสื้อผ้าใหม่ แต่ยังเป็นคนเดิม ทำให้กลายเป็นอีกหลาย ๆ แคมเปญคลอดออกมาจากบาร์บีคิวพลาซ่าอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น ‘ถึงต่างเจน ก็ BLEND เข้ากันได้บนโต๊ะนี้’ ที่เล่าความต่างระหว่างเจนเนอเรชั่น ไลฟ์สไตล์ แต่ยังเข้ากันและมีความสุขร่วมกันได้บนโต๊ะอาหาร หรืออย่างล่าสุด ‘อยู่ด้วยกันก๊อนนน’ แคมเปญอบอุ่นที่ดึงให้ทุกคนกลับมาเอนจอยกับ Moment of NOW
จะเห็นว่าเส้นหลักในการคิดแคมเปญทุก ๆ ชิ้นที่ผ่านมา ก็ยังเป็น Moment of NOW แต่เล่าในบริบท Insight ที่แตกต่างกันในแต่ละช่วง และล่าสุดกับแคมเปญ‘พลิก พลิก ให้ชีวิตอร่อย’ ก็เช่นกัน ที่หยิบอินไซต์ และไลฟ์สไตล์ของคนในยุคนี้มาบิดให้เป็นมุมมองของบาร์บีคิวพลาซ่า ใส่ความตั้งใจที่จะทำให้มื้อนี้ของคุณดีที่สุด ประกอบไปกับการส่งมอบประสบการณ์แบบใหม่ ให้มื้ออาหารและคนตรงหน้าที่อยู่กับเรา มีช่วงเวลาที่ดีที่สุด แม้ในยามทุกข์ สนุก หรือ สุข
คุณรัฐ ตระกูลไทย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาด บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด กล่าวว่า “แคมเปญ พลิก พลิก ให้ชีวิตอร่อย ตั้งใจทำเพื่อสะท้อนภาพที่บาร์บีคิวพลาซ่าเข้าใจคนยุคนี้ โดยเฉพาะช่วงปีที่ผ่านมาชีวิตเรา สังคมเรา จะพลิกไปในทุกวัน วันนี้ดี พรุ่งนี้ก็อาจจะไม่ดี แบรนด์เองก็เช่นกัน มันมีหลากอารมณ์ หลายมิติ เราในฐานะแบรนด์ที่เคยอยู่กับคุณในช่วงมีความสุข วันที่คุณไม่สุขเท่าไหร่ เราก็อยากอยู่เคียงข้างคุณ ในส่วนทำมื้อนี้ให้ดีที่สุด ทำให้คำนี้เป็น Brand Promise & Thinking หลัก ๆ ของแบรนด์ ซึ่งมีการสื่อสารถึงเรื่องของ Moment of Now อยู่ตลอด การหยิบอินไซต์ และไลฟ์สไตล์ตามพฤติกรรมที่น่าสนใจมาก ๆ ของคนยุคนี้ ไม่ว่าจะเป็นสายมูที่เจาะกลุ่มแมส หรือสายคนรักศิลปินเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่
สำหรับแคมเปญพลิกๆ มาจาก Insight ง่าย ๆ ของคนที่ชีวิตต้องมีพลิกผันอยู่เสมอ โดยบาร์บีคิวพลาซ่าเข้าใจจุดเปลี่ยนแปลงในชีวิต เพราะจริงๆ โลกที่หมุนไว มีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเสมอ แต่ท้ายที่สุดเหตุการณ์นั้นก็จะเป็นเรื่องเล่าในวันถัดไป”
สะท้อนบทสรุปในทุก ๆ ครั้ง อาจจะไม่ได้ Happy Ending แต่นี่แหละคือ “รสชาติของชีวิต” ที่ บาร์บีคิวพลาซ่าอยากสื่อสารกับทุก ๆ คน รวมถึงอีกหนึ่งความหมายที่ต้องการสื่อสาร ตีความให้ตรงกับแบรนด์ให้มากที่สุด
ถ่ายทอดผ่านภาพยนตร์โฆษณาความยาว 2 นาทีนี้ กับ 2 เรื่องราวพลิกพลิกที่แตกต่างกัน
“ชีวิตพลิกพลิกของสาวสายมู” และ “ชีวิตพลิกพลิกของติ่งชายแท้ในกรม” ถ่ายทอดในสไตล์บาร์บีคิวพลาซ่า ให้เข้าใจและเข้าถึงได้ง่าย ซึ่งชุดภาพยนตร์โฆษณาชวนให้ทุกคนลองมองโลกในมุมที่เปลี่ยนไปกับเรื่องใกล้ตัว ให้กลายเป็นเรื่องสุข ได้ง่าย ๆ จนกลายเป็นเรื่องเล่าในโต๊ะอาหารวันถัดไป คือ การพลิกหมูบนเตา ถ้าไม่พลิก มันจะไหม้นะ มา พลิก พลิก เดี๋ยวก็อร่อย ที่ก็ยังสื่อสารไปยัง Brand Thinking แรก คือ การอยู่กับปัจจุบัน อยู่กับคนตรงหน้า การอยู่กับโมเม้นท์หน้าเตาและมีความสุขกับชีวิตให้มากที่สุด
ไม่ใช่แค่แนวคิดในการสื่อสาร แต่เป็นการทำแคมเปญผ่านมื้ออาหารที่ตอบโจทย์ Emotional ที่ดีที่สุด
เมื่อ Emotional Marketing คือคีย์ซัคเซสหลักของแบรนด์ ที่ไม่ใช่แค่แนวคิดการสื่อสารเพื่อถ่ายทอดกำลังใจ ความรู้สึกดี ๆ เท่านั้น หากแต่ยังสร้างความสนุนสนาน และครีเอทีฟการทำแคมเปญผ่านมื้ออาหาร ที่คิดชื่อชุดมาแบบน่ารัก ให้เรียกเสียงหัวเราะกัน โดยเฉพาะ ชุดเล็ก “พลิก Pork คิกคิก” ราคาเบา ๆ 480 บาท หรือจะเป็นชุดใหญ่ “พลิก Peak คักคัก”ราคา 999 บาท ให้ได้เลือกลิ้มลอง
โดยความพิเศษของ แคมเปญ “พลิก พลิก ให้ชีวิตอร่อย” ในครั้งนี้คือการดึงเพื่อนรักของ GON อย่าง “คามะจัง” ตัวแทนของการให้ พร้อมให้ทุกคนมีความสุข เป็นตัวแทนแคมเปญ CSR ของทางแบรนด์ มา “พลิก” คาแร็คเตอร์ใหม่เฉพาะแคมเปญนี้ ที่แม้จะมีความสุขก็หน้าบึ้งได้
ภายใต้โจทย์ที่ว่า “น้องคามะจัง” นางเอกของมื้ออาหารในบาร์บีคิวพลาซ่า ก็มีวันที่เศร้า Bad Day บ้าง เป็นโจทย์ขึ้นมา และถ้าเขาไม่ยิ้มจะทำอย่างไร
ทำให้แคมเปญนี้ลูกค้าจะได้เห็น “The New คามะจัง” ที่ทุกคนไม่เคยเห็นมาก่อน ในชุดอาหารของเราจะซ่อน The New คามะจัง ที่ คามะจังจะหน้าบึ้ง หน้าใหม่ เพื่อเป็นกิมมิคสนุก ๆ ให้ทุกคนหาน้องเค้ากันซึ่งเป็นไอเท็มลับซ่อนอยู่ในชุดโปรโมชั่น ซึ่งเราต้องการจะบอกลูกค้าแหละว่า เรื่อง พลิกพลิก ในชีวิตเกิดได้เสมอ เศร้าได้ สุขได้ เอ็นจอยกับชีวิต และเรื่องราวที่เกิดขึ้นจะเป็นเพียงเรื่องหนึ่งที่เกิดขึ้นและถูกเล่าบนโต๊ะอาหาร และทุกอย่างจะผ่านพ้นไป
นอกจากนี้ยังมีการต่อยอดกับหนึ่งเครื่องมือทางสื่อสารการตลาดตามแบบฉบับบาร์บีคิวพลาซ่า ด้วยการสร้างประสบการณ์ตรงกับงาน “โคตรพลิก โคตรพีค Stand Up Comedy” ที่แสดงจุดยืนที่ต้องการให้แบรนด์เป็นเพื่อนกับลูกค้าเป็นสถานที่ที่ทำให้ทุกคนมาเจอกัน แล้วสร้างโมเม้นท์ตรงหน้าร่วมกันกับ “แคมเปญ พลิก พลิก ให้ชีวิตอร่อย” โดยมีเป้าหมายเพื่อผลักดันให้เกิด Brand Love ให้ลูกค้ามีส่วนร่วมระหว่างผู้บริโภคกับแบรนด์ในหลากหลายด้าน ตั้งแต่ Online to Offline ด้วยพื้นที่ตรงนี้ และยังได้ทีมยืนเดี่ยวมาสร้างสีสันให้งานวันนี้จะเต็มไปด้วยความสนุกสนานและความพลิกพลิกแบบเต็ม ๆ
ถอดกลยุทธ์ 3E ฟังเสียง Customer Insight ต่อยอดแนวคิดสร้างแบรนด์
โดยทั้งหมดของแคมเปญ “พลิก พลิก ให้ชีวิตอร่อย” มีจุดเริ่มต้นมาจาก Core หลักของแบรนด์อย่าง กลยุทธ์ 3E ที่ต่อยอด Customer Insight แบบจริง ๆ ตั้งแต่ต้นจนจบได้แก่
-Empathize : ความเข้าอกเข้าใจช่วงจังหวะชีวิตของคนเรา ที่มีทั้งช่วงเวลาที่ดีและช่วงเวลาที่ชีวิตพลิกผัน ซึ่งการเปิดตัว แคมเปญ “พลิก พลิก ให้ชีวิตอร่อย” ในครั้งนี้จึงเป็นโปรเจ็กต์ที่สานต่อความ Feel Good ของ “ทำมื้อนี้ให้ดีที่สุด” มาถ่ายทอดเพื่อเป็นการส่งต่อกำลังใจดี ๆ และให้ทุกคนโฟกัสกับปัจจุบันขณะ
-Engagement : นอกจากนี้ยังนำกลยุทธ์ปฏิสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมาย โดยบอกเล่าเรื่องราวผ่านมื้ออาหาร โดยมี “น้องคามะจัง” ที่แม้จะเป็นตัวแทนของความสุขและผู้ให้ก็ยังมีวันที่หน้าบึ้ง มาเป็นกำลังใจแก่คนทั่วไป ว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นย่อมดีเสมอ ทุกคนมีหลายมิติทั้งสุขและทุกข์ เป็นรสชาติชีวิต พลิกมันซะหน่อย พร้อมถ่ายทอดผ่านมื้ออาหาร ผ่านแนวคิด “พลิก พลิก ให้ชีวิตอร่อย”
-Experience : การสร้างประสบการณ์จริง ผ่านงานโคตรพลิก โคตรพีค Stand Up Comedy ก็เป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่ต้องการสื่อสารให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ ถ่ายทอดผ่านเหล่า Speaker ยืนเดี่ยวกว่า 8 ท่าน คุณเฮง โอเวอร์, คุณนิ มาดามดูมี, ไฮโซภีม, Roast Show หมูเติ้ล บุฟเฟ่ต์ โดย : เจ้หลิง, คังโป้ย, แอล ไฟเลี้ยว และคุณเบียร์ บัฟแก๊ก มาแชร์ประสบการณ์ความพลิกให้ฟังกันอย่างสนุกสนาน