ถูกจับตามองอย่างต่อเนื่องสำหรับข่าวการต่อสัญญา “เซ็นทรัลลาดพร้าว” ของ “เซ็นทรัลพัฒนา” หลังพื้นที่ดังกล่าวกำลังจะหมดสัญญารฟท.ในอีก 6 ปีข้างหน้า หรือในปี 2571 ขณะที่การเปิดตัวเมกะโปรเจกต์มิกซ์ยูสมูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท อย่าง “เซ็นทรัลพหลฯ” (ชื่อไม่เป็นทางการ) ที่จะมีสเกลระดับ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ยิ่งทำให้ทั้งคู่แข่งและผู้ประกอบการหลายรายต่างจับตามอง
ล่าสุดคุณวัลยา จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวถึงความคืบหน้าและอนาคตของเซ็นทรัล ลาดพร้าว นับจากนี้ว่า “การต่อสัญญาเซ็นทรัลลาดพร้าว เรามุ่งมั่นอยู่แล้วที่จะต่อสัญญา-พร้อมที่จะเจรจา และเรามีความมั่นใจว่าเราจะต่อสัญญาได้ ที่ตรงนั้นเราอยู่มายาวนาน เรารู้ความต้องการ พื้นที่เป็นอย่างไร อีกทั้งยังมีความมั่นใจในความเป็น CBD ที่ดีบนทำเลกรุงเทพโซนเหนือที่ยังเป็น และยังมั่นใจในกำลังซื้อบริเวณรอบๆโดยยังมีแบรนด์อีกมากมายที่ยังขาด ก็ยังรอที่จะเข้าคิวเช่าพื้นที่ของเราอยู่”
คำยืนยันจากปากบิ๊กบอส แห่งอาณาจักร “เซ็นทรัลพัฒนา” แม้จะไม่เป็นที่แปลกใจของใครหลายคนนัก ว่าไม่ว่าจะอย่างไร เซ็นทรัลพัฒนา ก็ต้องสู้สุดใจและไม่ยอมปล่อยทำเลทองคำฝังเพชรแห่งนี้ ที่มีทั้งศูนย์การค้าและ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์แอทเซ็นทรัลพลาซา ที่ให้บริการมานานกว่า 42 ปี แถมยังมีระบบขนส่งมวลชนแบบครบครันทั้ง BTS / MRT รถตู้ รถเมล์ ที่ครอบคลุมแทบทุกเส้นทางไปยังกรุงเทพ-ปริมณฑล ให้หลุดมือไปง่ายๆ
เพราะหากพูดไปแล้ว “เซ็นทรัลลาดพร้าว” ถือเป็นทำเลยุทTศาสตร์อีกหนึ่งแห่งของกรุงเทพโซนเหนือ ที่ไว้ใช้ขยายอาณาจักรค้าปลีกแสนล้านของทางค่ายได้เป็นอย่าง ซึ่งหากสามารถต่อสัญญาได้สำเร็จ นั่นเท่ากับว่าเซ็นทรัลพัฒนาสามารถยึดหัวหาดค้าปลีกกรุงเทพโซนเหนือได้แบบเบ็ดเสร็จ
ไล่เรียงมาตั้งแต่ “เซ็นทรัลลาดพร้าว” ที่กินพื้นที่หากแยกลากพร้าว ลากยาวไปจนถึงเซ็นทรัล พหล เมกะมิกซ์ยูสแห่งใหม่มูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท (ตรงข้ามจ๊อดแฟร์) แถมถัดไปในระยะ 5-6 กิโลเมตรยังมี “เซ็นทรัลรามอินทรา” ที่กินทำเลถนนรามอินทราทั้งเส้น และ “เซ็นทรัล อีสวิลต์” คอยดักในบริเวณ ถ.ประดิษฐ์มนูญธรรม (เลียบด่วนเอกมัย-รามอินทรา) ทั้งหมดล้วนเชื่อมเครือข่ายค้าปลีกให้ครอบคลุม เพื่อรองรับชุมชนเมืองที่ขยายตัวมากขึ้น
เพราะ “เซ็นทรัลลาดพร้าว” คือทำเลยุทธ์ศาสตร์ที่สร้างยอดขายอยู่ในอันดับ Top 3 ในแง่ของรายได้ จากจำนวนสาขาทั้งหมดกว่า 38 ศูนย์การค้าทั่วประเทศ ส่วนฝั่งห้างสรรพสินค้า ที่ดูแลโดยเซ็นทรัล รีเทล ก็มีพื้นที่กว่า 50,000 ตรม. ห้างเซ็นทรัลลาดพร้าว มีลูกค้ากลุ่ม Wealth มากเป็นอันดับที่ 2 รองจากสาขาชิดลม หรือประมาณ 50,000 คน
นอกจากนี้ “ห้าแยกลาดพร้าว” ยังถือเป็นหนึ่งจุดยุทธศาสตร์สำคัญของกรุงเทพโซนเหนือ หรือจะเรียกง่ายๆ ว่า เป็น “เมืองหลวงตอนเหนือ” ก็ไม่แปลกมากนัก เพราะหลายๆโปรเจกต์ยักษ์ของภาครัฐและเอกชน ล้วนแต่จับจ้องพื้นที่นี้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ด้วยทำเลจุดตัดถนนสามเส้นหลัก ได้แก่ ถนนวิภาวดี รังสิต-ถนนพหลโยธิน-ถนนลาดพร้าว ที่ทุกเส้นล้วนแต่มีทราฟฟิกสูงทั้งสิ้น ทำให้ในย่านยังได้รับความนิยมจากนักลงทุน โดยเฉพาะกลุ่มค้าปลีก อสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ตลอดช่วงที่ผ่านมา
อ่านเพิ่มเติม