ด้วยความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าของ LPN (แอลพีเอ็น) ที่มีความมุ่งมั่นจะทำให้คน ๆ หนึ่งได้มีบ้านเป็นของตัวเอง ซึ่งเป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่มาก และเป็นพื้นฐานที่จะทำให้สังคมดีขึ้น จึงนำมาซึ่งแนวคิดในการดำเนินธุรกิจที่ยืนหยัดอย่างแข็งแกร่งตลอดระยะเวลา 34 ปีที่ผ่านมาในฐานะผู้พัฒนาที่พักอาศัยคุณภาพที่มาพร้อมกับความ “น่าอยู่” ในทุกมิติ เพื่อยกระดับรูปแบบการใช้ชีวิตที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าทุกคน
ในปี 2566 นี้ LPN จึงตอกย้ำจุดยืนดังกล่าวด้วยการสร้างสรรค์ไอเดียเพื่อบอกเล่าเรื่องราวของการอยู่อาศัยที่ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ ทุกเจนเนอเรชันในทุกโครงการของ LPN ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม ผ่านแคมเปญการสื่อสารโดนใจ #สารภาพว่าติดบ้าน พร้อมเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ที่ถ่ายทอดเรื่องราวของแคมเปญได้อย่างลงตัว
จุดเด่นชัดเจน + Consumer Insight = “น่าอยู่” จนต้อง #สารภาพว่าติดบ้าน
ชัดเจนว่าจุดเด่นของ LPN ที่ผู้คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึง คือโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีคุณภาพมาตรฐาน ฟังก์ชันต่าง ๆ ก็ตอบโจทย์ทั้งลูกค้าที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองหรือซื้อเพื่อลงทุน ด้วยเหตุผลที่ว่าราคาคุ้มค่า เข้าถึงง่าย ขายคล่อง ขายต่อยังได้กำไร รวมถึงการบริหารชุมชนหรือนิติบุคคลที่มีความเป็นมืออาชีพ จนมีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง และปัจจุบัน LPN ยังให้ความสำคัญกับสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าหลากหลายช่วงวัยที่มีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน ซึ่งพัฒนามาจาก Consumer Insight ของลูกค้าจริงเป็นหลัก ทั้งในเรื่องของการออกแบบดีไซน์พื้นที่สีเขียว และพื้นที่ส่วนกลางต่าง ๆ เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์ความ “น่าอยู่” ที่ LPN ตั้งใจนำเสนอและส่งมอบให้กับลูกค้าทุกคน
ตั้งแต่ต้นปี 2566 นับเป็นปีแห่งการสร้างการรับรู้ และสร้างประสบการณ์ใหม่ของ LPN ทั้งกลุ่มเป้าหมายเดิม และขยายสู่กลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ จากจุดเริ่มต้นที่ LPN ต้องการส่งมอบความ “น่าอยู่” ให้กับลูกค้าทุกคน จึงเป็นที่มาของการสื่อสาร Corporate Campaign ใหม่ที่เข้าใจง่าย ภายใต้ชื่อ #สารภาพว่าติดบ้าน ที่ถ่ายทอดความสุขและความอิ่มเอมที่เกิดขึ้นภายใต้การอยู่อาศัยในทุกโครงการคุณภาพของ LPN และส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดี ด้วยวิถีที่ยั่งยืนในราคาที่เหมาะสม เพื่อก่อให้เกิด “Livable Living Experience” ให้เป็นบ้านที่ “น่าอยู่” สำหรับทุกไลฟ์สไตล์ ทุกเจนเนอเรชั่น โดยมาพร้อมกับดีไซน์ที่ทันสมัย บ่งบอกความเป็นตัวเองที่เรียบง่ายแต่มีสไตล์ และเป็นที่ที่สามารถแบ่งปันประสบการณ์ความสุขร่วมกับผู้อื่นได้ด้วยCorporate Campaign ใหม่ของ LPN สร้างขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ “ติดธุระที่บ้าน” คำพูดสุดฮิตของหลายคนนำมาสื่อสารถึงหัวใจสำคัญของแบรนด์ในเรื่องความ “น่าอยู่” เป็นสำคัญ และถ่ายทอดเรื่องราวที่สะท้อนความ “น่าอยู่” ในรูปแบบของภาพยนต์โฆษณาถึง 3 เรื่อง ตามไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในโครงการที่อยู่อาศัยต่าง ๆ ของ LPN ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม ที่ไม่ว่าจะมุมไหนของบ้านก็เต็มไปด้วยความน่าอยู่ จนไม่อยากออกไปไหน ต่อให้เจ้านายชวนไปดินเนอร์ก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ติดธุระที่บ้าน” ภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้นำเสนอผ่านการใช้ชีวิตและไลฟ์สไตล์ของกลุ่มคนในหลากหลายเจนเนอเรชั่นในปัจจุบันทั้งวัยรุ่น วัยทำงาน และวัยที่กำลังสร้างครอบครัว ซึ่งบทสนทนาและบทบาทของตัวแสดงในแต่ละเรื่องทำให้คนดูเกิดความรู้สึกร่วม และเผลออมยิ้มไม่รู้ตัว
คุณมนพัทธ์ ศุภกิจจานุสันติ์ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาแบรนด์ บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพยนตร์โฆษณาชุด #สารภาพว่าติดบ้าน ผลงานสร้างสรรค์โดย Youngster BKK ประกอบด้วยภาพยนตร์โฆษณา 3 เรื่อง ได้แก่ เจ้านายที่รัก เพื่อนที่รัก และแฟนที่รัก ผ่านไลฟ์สไตล์ของตัวละคร ประกอบกับบทเพลง Sunday ที่มีเนื้อหาสอดคล้องกับเรื่องราวต่าง ๆ ซึ่งขับร้องโดย มอร์-วสุพล เกรียงประภากิจ ศิลปินนักร้องและผู้กำกับภาพยนตร์โฆษณาชื่อดัง ผ่านการสื่อสารที่ครอบคลุมทั้ง Above The Line และ Below The Line เน้นกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ที่ใช้งานผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลัก รวมถึงการวางแผนการสื่อสารอย่างต่อเนื่องทุกรูปแบบ ซึ่งหนังเรื่องแรก “เจ้านายที่รัก”
ลุยพัฒนาที่อยู่อาศัยที่ “น่าอยู่” ผ่านแกนหลัก “5 C”
คุณโอภาส ศรีพยัคฆ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการแอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า “แคมเปญนี้คือภาคต่อของ LPN ที่ประกาศตั้งแต่ต้นปีว่าจะรุกโครงการบ้านเดี่ยวมากขึ้น มีการเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวใหม่ ๆ ในปี 2567 รวมมูลค่าเกือบ 10,000 ล้านบาท พร้อมปรับปรุงวิธีการออกแบบ การสื่อสารและแบรนด์ให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกเจนเนอเรชัน โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีมุมมองและพฤติกรรมแตกต่างไปจากคนรุ่นก่อนหน้า จากลุมพินี “ชุมชนน่าอยู่” เราตัดคำว่าชุมชนออกไป เพราะทำให้ผู้บริโภคมักคิดถึงแต่คอนโดมิเนียม แต่คงความ “น่าอยู่” ซึ่งเป็นจุดแข็งของเราไว้ เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาที่อยู่อาศัยของ LPN ที่มีหลากหลายประเภท นอกเหนือไปจากคอนโดมิเนียม และทำให้คำว่าน่าอยู่ซึ่งฟังดูแล้วเป็นนามธรรมมาก ๆ เป็นรูปธรรม จับต้องและสัมผัสได้จริง ๆ”
“นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท เราไม่ได้มองว่า LPN เป็นบริษัทที่จะสร้างที่อยู่อาศัยและขายเพียงอย่างเดียวแล้วจบ เพราะภารกิจของเรายังคำนึงถึงคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยด้วย เราคาดหวังที่จะเห็นสังคมที่ดีไม่ได้เลย ตราบใดที่คนในสังคมนั้นยังเช่าบ้านอยู่ เพราะจะขาดความรู้สึกเป็นเจ้าของ ด้วยเหตุนี้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา LPN จึงยึดมั่นในแนวทางการพัฒนาที่พักอาศัยคุณภาพที่น่าอยู่ ตั้งแต่ความพิถีพิถันในการออกแบบพื้นที่พักอาศัยให้อยู่อาศัยได้จริง ในราคาที่สมเหตุสมผล จากจุดเริ่มต้นจนผ่านมากว่า 3 ทศวรรษ จนสามารถปลุกปั้นแบรนด์ LPN จนแข็งแกร่ง และทำให้ลูกค้ามั่นใจในคุณภาพได้อย่างยาวนาน ซึ่งในฐานะคนทำงานที่อยู่กับ LPN มาตั้งแต่ยุคบุกเบิก จากพนักงานมาสู่การเป็นผู้บริหาร และวันนี้ที่ LPN กำลังจะก้าวเข้าสู่ปีที่ 35 สิ่งหนึ่งที่ยึดมั่นไม่เปลี่ยนแปลง คือ แก่นแท้ของ LPN นั่นคือ ความเชื่อมั่นว่าการทำให้คนคนหนึ่งได้มีโอกาสอาศัยอยู่ในบ้านที่มีคุณภาพ เพราะเป็นหนึ่งในองค์ประกอบของความสุขและเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในชีวิตของทุกคน ขณะเดียวกันก็เป็นความสุขอันยิ่งใหญ่ของคนทำงาน LPN ด้วยเช่นกัน และเราพร้อมที่จะพัฒนาที่อยู่อาศัยที่ “น่าอยู่” ยิ่งขึ้นในแบบฉบับของ LPN ต่อไป ผ่านแกนหลัก “5 C” ที่ตอบโจทย์ครบถ้วนทั้งในแง่ความต้องการส่วนบุคคล สิ่งแวดล้อม สังคมและชุมชน ดังนี้
1. Comfort = การอยู่อาศัยที่สบายกาย สบายใจ
2. Convenience = ความสะดวกในการเดินทางเพื่อการอยู่อาศัย
3. Care for well-being = สุขภาวะที่ดีทั้งกายและใจ
4. Care the planet = ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม เพื่อโลกที่น่าอยู่มากขึ้น
5. Community & Social = ให้ความสำคัญกับสังคมที่น่าอยู่
โดยทั้งหมดนับเป็นองค์ประกอบหลักในการทำงานของ LPN เพื่อสร้างที่อยู่อาศัยทุกรูปแบบที่ตอบรับกับความน่าอยู่ของทุกคน และตลอดไป ผมเชื่อว่าแคมเปญใหม่ จะสะท้อนโมเม้นท์ของคนติดบ้านได้อย่างสนุกสนาน และเห็นภาพความสุขของลูกบ้าน LPN พร้อมสัมผัสความเป็น Livable Living Experience ได้เป็นอย่างดีครับ”
เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้ทำความรู้จักและเข้าถึงความ “น่าอยู่” ของ LPN มากขึ้น มาพบกับงานขายครั้งใหญ่แห่งปี LPN Moredinary Home Expo ยกขบวนโครงการบ้าน ทาวน์โฮม และคอนโดพร้อมอยู่คุณภาพ ที่มาพร้อมกับความน่าอยู่อย่างแท้จริง และความคุ้มค่าที่มากกว่า พิเศษ! รับโปรโมชั่น 3 ต่อ Hot Deal เฉพาะในงานนี้เท่านั้น! ณ เซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น 1 โซน C ในระหว่างวันที่ 26 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน 2566