HomeBrand Move !!นักการตลาดเฮ Meta ปล่อยฟีเจอร์ Gen AI ช่วยสร้างโฆษณาในไทยแล้ว

นักการตลาดเฮ Meta ปล่อยฟีเจอร์ Gen AI ช่วยสร้างโฆษณาในไทยแล้ว

ผลวิจัยชี้ Gen AI ช่วยนักการตลาดได้พักมากขึ้น 5 ชั่วโมงต่อสัปดาห์

แชร์ :

Meta เปิดตัวแล้ว ฟีเจอร์ “Gen AI” ช่วยสร้างชิ้นงานโฆษณาอัตโนมัติให้กับ Ads Manager ของแพลตฟอร์ม โดย 3 ฟีเจอร์แรกที่เปิดให้ใช้งานประกอบด้วย การสร้างพื้นหลังให้ชิ้นงาน การขยายพื้นที่ภาพ ตลอดจนการผสมข้อความรูปแบบต่าง ๆ  หวังช่วยนักโฆษณาเจาะกลุ่มเป้าหมายได้แบบเฉพาะเจาะจง และเพิ่มประสิทธิภาพของโฆษณาได้มากขึ้น

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

สำหรับการทำงานของทั้ง 3 ฟีเจอร์ที่กล่าวมาด้านบนนั้น พบว่ามีความพิเศษดังนี้

  • การสร้างพื้นหลังให้ชิ้นงาน (Background Generation): สำหรับสร้างพื้นหลังหลายรูปแบบเพื่อให้สอดรับกับภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ที่โฆษณา โดยสามารถสร้างชิ้นงานที่สร้างสรรค์ให้แตกต่างกันตามกลุ่มเป้าหมายได้
  • การขยายพื้นที่ภาพ (Image Expansion): ช่วยปรับขนาดของชิ้นงานให้อยู่ในหลายอัตราส่วนทั้งแนวตั้ง และแนวนอน เพื่อให้ใช้ได้ในหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น Feed หรือ Reels เพื่อให้ประหยัดเวลาและทรัพยากรในการปรับชิ้นงาน
  • การผสมข้อความรูปแบบต่าง ๆ (Text Variation): สำหรับสร้างข้อความโฆษณาหลากหลายรูปแบบ โดยอ้างอิงจากข้อความดั้งเดิมของผู้ลงโฆษณา

การประกาศดึงความสามารถของ AI มาใช้ขับเคลื่อนวงการโฆษณาของ Meta บริษัทแม่ของ Facebook และ Instagram มาจากการเปิดตัว AI Sandbox ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับทีมงานเพื่อทดสอบฟีเจอร์ Generative AI ร่วมกับนักโฆษณากลุ่มเล็ก ๆ ซึ่งมีนักโฆษณาจากไทยร่วมด้วยซึ่งในการวิจัยร่วมกับกลุ่มนักโฆษณา Meta พบว่า Generative AI ช่วยประหยัดเวลาและทรัพยากรในการทำงานได้

 

คาด Gen AI ลดเวลางาน 5 ชั่วโมงต่อสัปดาห์

Meta เผยว่า นักโฆษณาส่วนใหญ่คาดว่า Generative AI จะช่วยลดเวลาการทำงานได้ถึง 5 ชั่วโมงขึ้นไปต่อสัปดาห์การทำงาน คิดเป็นการประหยัดเวลาถึง 1 เดือนต่อปี โดยพวกเขาจะสามารถสร้างชิ้นงานได้หลายชิ้นจากการคลิกเพียงครั้งเดียว ลดระยะเวลาการทำงานระหว่างทีมครีเอทีฟ กับทีมสื่อสารในการแก้ไขงานที่ใช้เวลานาน ทำให้มีโอกาสพัฒนากลยุทธ์การสร้างงานโฆษณาได้มากขึ้น นอกจากนั้นยังพบว่า Generative AI ช่วยลดความเหนื่อยล้าในการสร้างสรรค์ชิ้นงานด้วย 

ทั้งนี้ การสำรวจของ Meta ระบุว่า Generative AI ช่วยให้นักโฆษณาสามารถปล่อยและทดสอบโฆษณาได้เร็วขึ้น พร้อมอำนวยความสะดวกให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น อีกทั้งความหลากหลายของชิ้นงาน ทำให้โฆษณานั้น ๆ สามารถเพิ่มการเข้าถึงได้อีก 9% และส่งผลต่อต้นทุนราคา Cost Per Acquisition (CPA) ที่ดีขึ้นถึง 32% ด้วย


แชร์ :

You may also like