HomeBrand Move !!เกิดอะไรกับค้าปลีกอินทรี เมื่อ Target ยกเหตุผล “โจรกรรม” ปิดห้าง 9 สาขารวด

เกิดอะไรกับค้าปลีกอินทรี เมื่อ Target ยกเหตุผล “โจรกรรม” ปิดห้าง 9 สาขารวด

แชร์ :

อาจกล่าวได้ว่า ตอนนี้ ธุรกิจค้าปลีกในสหรัฐอเมริกากำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายที่ยากจะรับมือ นั่นคือสถานการณ์การปล้นสะดมที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีผลทำให้ห้างดังอย่าง Target ออกมาประกาศปิดให้บริการ 9 สาขาใน 4 รัฐพร้อมกันรวดเดียว พร้อมประกาศตัวเลขความเสียหายที่คาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 1,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 44,112 ล้านบาท

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

การประกาศปิดให้บริการของ Target ห้างดังของสหรัฐอเมริกา พบว่ามีขึ้นในรัฐนิวยอร์ก ซีแอทเทิล พอร์ทแลนด์ และย่านเบย์แอเรีย รัฐแคลิฟอร์เนีย เนื่องจากมีการปล้นสะดมในห้างเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ซีอีโอ Brian Cornell ยอมรับว่า การปล้นชิงสินค้าที่เกิดขึ้นค่อนข้างถี่นี้ ทำให้บริษัทได้รับความเสียหายด้านสินค้าคงคลังราว 1,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 44,112 ล้านบาท

ส่วนในปีที่แล้ว ข้อมูลจาก Target ในเดือนพฤศจิกายนระบุไว้ว่า ความเสียหายจากการถูกโจรกรรมสร้างความเสียหายให้บริษัท 400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

คาดค้าปลีกอเมริกาสูญเสียรวม 4.11 ล้านล้านบาท

นอกจากตัวเลขความเสียหายที่ห้าง Target นำมาเปิดเผยแล้ว ยังมีผลสำรวจจาก the National Retail Federation ที่เปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ระบุว่า ธุรกิจค้าปลีกของสหรัฐอเมริกาในปีนี้ ได้รับความเสียหายจากการปล้มสะดมรวมกันมากกว่า 112,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 4.11 ล้านล้านบาท

ทั้งนี้ ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นจากปี 2022 ราว 1.6% (ปี 2022 ธุรกิจค้าปลีกของสหรัฐอเมริกาได้รับความเสียหายจากการถูกขโมยของราว 94,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยเป็นตัวเลขรวมการถูกขโมยจากพนักงานของบริษัทเอง และการขโมยของบุคคลภายนอก)

Target ห้างแรกที่ยกเหตุ “โจรกรรม” ในการปิดตัว

สำหรับห้างของ Target ที่จะปิดให้บริการนั้น พบว่าอยู่ในนิวยอร์กหนึ่งแห่ง ซีแอทเทิลสองแห่ง พอร์ทแลนด์สามแห่ง และย่านเบย์แอเรียของซานฟรานซิสโกอีกสามแห่ง โดยจะปิดตัวในวันที่ 12 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป ซึ่งรายงานจาก Business Insider ระบุว่า  Target ถือเป็นธุรกิจค้าปลีกแห่งแรกของสหรัฐอเมริกาที่ยกประเด็นการถูกโจรกรรมสินค้าเป็นเหตุผลในการปิดห้าง

ขณะที่ซีอีโอเผยด้วยว่า การโจรกรรมและการใช้ความรุนแรงในห้าง Target นั้นเพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัวนับตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา แม้ว่าทางบริษัทจะพยายามจ้างพนักงานรักษาความปลอดภัยเพิ่ม หรือติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันการโจรกรรมแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่เป็นผล

ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยของพนักงาน จึงมีความจำเป็นต้องปิดตัวห้างในพื้นที่ที่กล่าวมา และจะมีการเสนอตำแหน่งงานในพื้นที่อื่น ๆ ให้กับพนักงานเหล่านั้นต่อไป

ลดเวลาให้บริการ

เหตุโจรกรรมสินค้าที่มาพร้อมความรุนแรงในสหรัฐอเมริกายังทำให้ 50% ของห้างค้าปลีกที่อยู่ในผลสำรวจตัดสินใจลดเวลาการให้บริการลง และ 28% ยอมรับว่าได้ปิดห้างไปเลยเพื่อความปลอดภัย

ข้อมูลจาก the National Retail Federation ในปี 2022 ชี้ถึงที่มาของการโจรกรรมที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และกระทบต่อธุรกิจค้าปลีกว่ามาจากกลุ่มอาชญากรค้าปลีก หรือ Organized retail crime (ORC) ที่ไม่ได้ขโมยสินค้าเพราะไม่มีทางเลือก แต่ทำเพราะต้องการนำไปขายต่อเพื่อแสวงหากำไร เห็นได้จากสินค้าที่ถูกขโมยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รองเท้ากีฬายี่ห้อดัง และนมผงสำหรับเด็ก

ซีอีโอของ Target ยังเผยทิ้งท้ายด้วยว่า ปัญหานี้ใหญ่เกินกว่าที่ Target จะแก้ได้ตามลำพังแล้ว จึงมองว่า การปิดห้างในพื้นที่ที่เป็นปัญหาน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดในเวลานี้

Source

Source

Source

 


แชร์ :

You may also like