HomeSponsoredAIS ผนึก 7 พันธมิตร บุกตลาด Residential SMEs เปิดตัว 4 แพกเกจช่วย “พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์” ขายดียอดปัง

AIS ผนึก 7 พันธมิตร บุกตลาด Residential SMEs เปิดตัว 4 แพกเกจช่วย “พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์” ขายดียอดปัง

แชร์ :

ด้วยพลังของข้อมูล เรากำลังได้เห็นการกลยุทธ์ และการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ของวงการโทรคมนาคมที่น่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยหนึ่งในตัวอย่างก็คือการเปิดตัวแพกเกจเพื่อคนค้าขายออนไลน์โดยเฉพาะ หรือ Residential SMEs หลังพบว่า ความต้องการด้านดิจิทัลของลูกค้ากลุ่มนี้กำลังเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

Residential SMEs คือใคร

จากข้อมูลของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เมื่อปี 2022 ระบุว่า ประเทศไทยมีธุรกิจ SME 3.18 ล้านราย โดยในจำนวนนี้แบ่งเป็น Residential SMEs หรือกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์มากถึง 2.35 ล้านราย ซึ่งตัวอย่างของ SME เหล่านี้อาจเป็นกลุ่มที่ขายสินค้าผ่านการไลฟ์บนโซเชียลมีเดีย ขายอาหารผ่านแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่ หรือจัดส่งสินค้าผ่านแพลตฟอร์มโลจิสติกส์ ฯลฯ ที่เราอาจไม่ได้พบเห็นพวกเขาจากหน้าร้านทั่วไปมากนัก แต่แน่นอนว่า การมีอยู่ของ Residential SMEs ก็มีส่วนช่วยสร้างเศรษฐกิจไทยเช่นกัน โดยในภาพรวม ธุรกิจ SME สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจต่อจีดีพีถึง 34.2% และทำให้เกิดการจ้างงานมากกว่า 12.61 ล้านคน

จับมือ 7 Ecosystem Partners

การส่งเสริมให้ Residential SMEs ประกอบธุรกิจได้ง่ายขึ้น สะดวกขึ้นผ่านบริการดิจิทัล – โครงข่ายอัจฉริยะของ AIS 5G จึงเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมผ่านการจับมือกับ 7 พาร์ทเนอร์ผู้ให้บริการโซลูชันดิจิทัลชั้นนำทั้งระดับโลก และระดับประเทศ ได้แก่

– Microsoft 365 ผู้ให้บริการยักษ์ใหญ่ที่จะนำโปรแกรมอย่าง Word, Excel, PowerPoint ฯลฯ มาให้เข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น และในราคาที่ประหยัดยิ่งขึ้น

– TikTok Shop ในฐานะแพลตฟอร์มด้านอีคอมเมิร์ซที่กำลังมาแรง โดยช่องทางของ TikTok Shop ถือว่ามีความสะดวกในการสั่งซื้อและชำระเงินค่อนข้างสูง ทั้งยังทำได้ผ่านการคลิกเพียงลิงค์เดียว ซึ่งสามารถลดการตกหล่นของคำสั่งซื้อได้ดีกว่า

– Canva Pro เครื่องมือสำหรับสร้างชิ้นงานออนไลน์ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น เอกสาร เรซูเม่ วีดิโอ ใบปลิว ใบประกาศ โลโก้ โดยมีเทมเพลตต่าง ๆ ให้เลือกใช้มากมาย และสามารถสร้างชิ้นงานได้อย่างรวดเร็ว

– LINE MAN MESSENGER เพื่อตอบโจทย์การจัดส่งสินค้าของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ โดยสามารถจัดส่งได้ครอบคลุม 77 จังหวัด ตลอด 24 ชั่วโง รวมถึงมีบริการประกันคุ้มครองพัสดุด้วย นอกจากนั้น LINE MAN MESSENGER ยังมีการพัฒนาฟีเจอร์เพิ่มเติมคือ Pin it for me หรือให้ปักหมุดแทนกันได้เพื่อป้องกันการปักหมุดผิด และบริการเก็บเงินปลายทางเพื่อเพิ่มโอกาสในการขายให้กับร้านค้าออนไลน์อีกต่างหาก

– MyOrder เป็นระบบจัดการหลังบ้านสำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่อาจมีหลายเพจ และต้องจัดการออเดอร์ต่าง ๆ จำนวนมากในแต่ละวัน โดยภายใน MyOrderr มีตั้งแต่บริการแชท ตรวจสลิปปลอม บอทสำหรับช่วยตอบคอมเม้นท์ บอทสำหรับตามลูกค้า ระบบจัดการออเดอร์ และการขนส่งพัสดุ

– แอปพลิเคชัน ถุงเงิน เครื่องมือสำหรับร้านค้าในการซื้อขายโดยไม่ต้องใช้เงินสด (เช่น ผ่าน QR รับเงิน พร้อมเพย์ สแกนจ่ายผ่านธนาคารและวอลเล็ต) ซึ่งภายในแอปมีฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น สามารถแสดงยอดขายรายวัน สรุปยอดย้อนหลังในรูปรายวันและรายเดือน สามารถสร้างโปรโมชันเพื่อเพิ่มยอดขาย และมีบริการแจ้งเตือนทุกการรับชำระเงินบนแอปฯ ด้วย

– FlowAccount ผู้พัฒนาโปรแกรมบัญชีออนไลน์สำหรับธุรกิจยุคใหม่ โดยมาพร้อมความสามารถในการเปิดบิลที่รวดเร็ว การบันทึกสต๊อกสินค้า การดูบันทึกค่าใช้จ่ายที่รวดเร็ว และการออกบิลออนไลน์

คุณปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่ามาจากการมองเห็นของ AIS ที่พบว่า Residential SMEs นั้นมีความต้องการที่แตกต่างออกไป เพราะพวกเขาสามารถขายสินค้า – บริการได้จนจบกระบวนการผ่านโทรศัพท์มือถือและโครงข่ายอินเทอร์เน็ต

“ธุรกิจของ Residential SMEs อาจไม่แตกต่างจากบริษัทใหญ่ ๆ นั่นก็คือพวกเขาขายสินค้าและบริการ แต่สิ่งที่เราเห็นก็คือ ตั้งแต่การผลิตไปจนถึงการขาย พวกเขาสามารถทำให้แล้วเสร็จผ่านทางโทรศัพท์มือถือ  ผ่านแอปพลิเคชันต่าง ๆ ผ่านบริการโลจิสติกส์ – เดลิเวอรี”

แต่ในขณะเดียวกัน AIS ก็พบว่า Residential SMEs ยังเผชิญอุปสรรคบางประการ โดยเฉพาะในกลุ่มที่เป็นบุคคลธรรมดาทั่วไปที่เพิ่งเริ่มประกอบธุรกิจ (ยังไม่ได้จดทะเบียนการค้า) เช่น การขาดตัวช่วยด้านการบริหารจัดการรายได้ – ค่าใช้จ่าย หรือการขาดเครื่องมือพัฒนาสื่อเพื่อการประชาสัมพันธ์บนช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ

“AIS มองว่า เราสามารถสนับสนุนให้  Residential SMEs เติบโตได้ดีขึ้น เพราะเรามีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ 49 ล้านแอคเคาน์ (ทั้งโทรศัพท์เคลื่อนที่ 45 ล้านแอคเคาน์ และอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์กว่า 4 ล้านแอคเคาน์) มีโครงข่าย AIS 5G และ AIS Fibre และเรามี Ecosystem Partners ที่สามารถเข้ามาช่วยกันได้” คุณปรัธนากล่าว และนั่นจึงนำไปสู่การเปิดตัว 4 แพ็กเกจเพื่อตอบโจทย์การเติบโตของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์จาก AIS ซึ่งประกอบด้วย

  • แพกเกจ AIS All in One
  • แพกเกจ AIS 5G Seller
  • แพกเกจ AIS 5G TikTok Shop
  • แพกเกจ AIS 5G ถุงเงิน โซเชียล

ทั้งนี้ แต่ละแพกเกจพบว่ามีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ได้แก่

1. แพ็กเกจ AIS All in One

เป็นแพกเกจที่ออกแบบมาสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการความแรงของอินเทอร์เน็ตค่อนข้างสูง เช่น อาจมีร้านเป็นของตัวเอง โดยมาพร้อมกับ  AI Router ถึง 2 ตัว พร้อม SIM Net 20 GB นอกจากนั้น ยังได้รับสิทธิใช้งาน Microsoft 365 Family ได้สูงสุด 6 แอคเคาน์ พร้อมพื้นที่บน One Drive 1TB ต่อ 1 แอคเคาน์อีกด้วย

สำหรับการใช้งาน ลูกค้าเอไอเอสรายเดือน ที่มียอดค่าใช้บริการ 349 บาทขึ้นไป  สามารถซื้อแพกเกจดังกล่าวได้ในราคาเพียง 1,199 บาท/เดือน (ลูกค้าทั่วไป 1,499 บาท/เดือน) และจะได้รับ On-Top Internet 20GB ที่หมายเลขเอไอเอสรายเดือนที่ใช้รับสิทธิ์เท่านั้น

2. แพ็กเกจ AIS 5G Seller

สำหรับแพกเกจ AIS 5G Seller ไม่เพียงได้ใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างจุใจ แต่ยังมาพร้อมเครื่องมือจากแบรนด์ดัง เช่น Canva, MyOrder และ LINE MAN Messenger ให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ได้ใช้งานกันอีกด้วย โดยผู้ที่สมัครแพกเกจดังกล่าวจะสามารถเข้าใช้งาน

  • Canva Pro ฟรี 45 วัน
  • โปรแกรมตัวช่วยระบบหลังบ้านอย่าง MyOrder ฟรี 6 เดือน
  • ส่วนลดจาก LINE MAN MESSENGER กว่า 3,100 บาท

ส่วนราคาของแพกเกจพบว่า เริ่มเพียง 699 บาท /เดือน และสำหรับลูกค้าย้ายค่าย จะได้รับส่วนลดเพิ่มอีก 25% เหลือเพียง 974 บาท (จากราคาเต็ม 1,299 บาท)

3. แพ็กเกจ AIS 5G TikTok Shop

TikTok เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่มาแรงสำหรับตลาดอีคอมเมิร์ซในปัจจุบัน ซึ่ง AIS จัดแพกเกจนี้ออกมาเพื่อให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ได้ Live สดผ่านเน็ต 5G เต็มสปีด รวมถึงฟรีค่าโฆษณาบน TikTok มูลค่า 300 บาท พร้อมโปรแกรมบัญชีสำหรับช่วยบันทึกรายได้จาก FlowAccount นาน 4 เดือน ในราคา 699 บาท/เดือนด้วย

4. แพ็กเกจ AIS 5G ถุงเงิน โซเชียล

สำหรับผู้ประกอบการที่ใช้งานแอปพลิเคชันถุงเงินอยู่แล้ว แพกเกจ AIS 5G ถุงเงิน โซเชียล ถูกออกแบบมาให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงแอปพลิเคชันโซเชียลมีเดียอย่าง LINE, Instagram และ Facebook ได้อย่างไม่จำกัด เพื่อใช้เป็นช่องทางในการนำเสนอสินค้าและบริการเพิ่มเติม โดยมาพร้อมเน็ตเต็มสปีด 30 GB ในราคาเพียง 499 บาท/เดือน

นอกจากนี้สำหรับลูกค้า AIS ไม่ว่าจะเป็นเปิดเบอร์ใหม่ ย้ายค่ายเบอร์เดิม เติมเงิน หรือแบบรายเดือน ก็สามารถสมัครแพกเกจจการใช้งานที่ตรงกับความต้องการเพิ่มเติมได้ถึง 2 แพกเกจ ไม่ว่าจะเป็น แพกเกจ Microsoft แบบรายปี ได้ทั้งแบบ 1 ผู้ใช้งาน หรือแบบ Microsoft 365 Family สำหรับใช้งานสูงสุด 6 ผู้ใช้งาน หรือหากเป็นสายคอนเทนต์ก็สามารถซื้อแพกเกจ เหมา เหมา TikTok 5G แบบรายเดือน ในราคาสบายกระเป๋าเพียง 199 บาท พร้อมรับเน็ตความเร็วสูงสุดถึง 100 GB ได้เช่นกัน

คุณปรัธนา กล่าวในตอนท้ายว่า “สำคัญที่สุดคือ พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่เลือกใช้แพกเกจนี้ จะก้าวสู่การเป็นพอยท์พาร์ทเนอร์ของเอไอเอสทันที ซึ่งนั่นมาพร้อมโอกาสในการขายสินค้า และบริการให้แก่ลูกค้าในกลุ่มเอไอเอสกว่า 49 ล้านราย  ดังนั้นจึงเท่ากับว่า การเปิดตัวแพกเกจในครั้งนี้ นอกจากเราจะสร้างความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจดิจิทัล ผ่านการหนุนความสามารถของผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจผ่านทาง Online  ภายใต้แนวคิด ECOSYSTEM ECONOMY แล้ว เรายังได้มอบความพิเศษให้แก่ฐานลูกค้าทั้งหมดของเอไอเอสได้ลดภาระในการใช้จ่าย พร้อมทางเลือกในการซื้อสินค้าและบริการผ่านทาง Online ได้อย่างสะดวกสบายอีกด้วย”


แชร์ :

You may also like