เปิดรายได้ Apple ไตรมาสล่าสุด พบรายได้จากการขายสินค้าของ Apple ทั่วโลกลดลง โดยเฉพาะรายได้จากภูมิภาคเอเชีย ด้าน ทิม คุก (Tim Cook) ซีอีโอ Apple ยืนยัน จีนยังเป็นตลาดสำคัญสำหรับบริษัท และ iPhone 15 ก็ยังเติบโตได้ดีในตลาดดังกล่าว
สัญญาณดังกล่าวเกิดขึ้นในการแถลงผลประกอบการไตรมาสล่าสุดของ Apple (สิ้นสุด 30 กันยายน 2023) ที่พบว่า รายได้รวมของบริษัทลดลง 0.7% มาอยู่ที่ 89,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และทำให้หุ้นของ Apple ปรับตัวลดลง 3% เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยตลาดที่ Apple ยังทำรายได้เพิ่มมีเพียงตลาดเดียว นั่นคือ ประเทศบ้านเกิดอย่างสหรัฐอเมริกา ที่ทำรายได้ให้ Apple เพิ่มขึ้น 0.8% เป็น 40,100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ขณะที่ตลาดเอเชีย-แปซิฟิกพบว่าสินค้าของ Apple มียอดขายลดลง 0.7% โดยเฉพาะญี่ปุ่นที่ยอดขายลดลงสูงที่สุดเหลือ 5,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือลดไป 3.4% ส่วนตลาดจีนก็ไม่น้อยหน้า เพราะยอดขายลดลง 2.5% เหลือ 15,100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ตัวเลขยอดขายรวมของจีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง และไต้หวัน)
ส่วนยอดขายของ Apple ในตลาดยุโรปก็เป็นไปในทิศทางเดียวกัน นั่นคือลดลง 1.5% เหลือ 22,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
หยอดยาหอมนักลงทุน iPhone 15 ไปได้ดีในจีน
อย่างไรก็ดี ผู้บริหาร Apple เผยว่า ยอดขาย iPhone 15 สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดยังไปได้ดีในจีน และทิม คุก ยังบอกด้วยว่า จีนยังเป็นตลาดสำคัญของ Apple ในอนาคต และหากเปรียบเทียบกันระหว่าง iPhone 14 กับ iPhone 15 ว่าใครขายดีกว่ากันนั้น ทิม คุก ยอมรับว่า iPhone 15 ขายดีกว่าด้วย แต่เพราะ Apple ติดปัญหาด้านซัพพลายเชนในสินค้ากลุ่ม iPhone 15 Pro และ Pro Max จึงทำให้ยอดขายไม่เติบโตตามที่ตั้งใจไว้
กลุ่ม Service รายได้ยังเติบโต
ส่วนรายได้จากกลุ่ม Service ของ Apple ในไตรมาสนี้ พบว่ายังคงเติบโต โดยทำไปได้ 22,300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 16% จากไตรมาสเดียวกันเมื่อปีก่อนหน้าที่ทำไปได้ 19,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และในภาพรวมตลอดทั้งปี กลุ่ม Service ของ Apple (App Store, advertising, iCloud, AppleCare, Apple Music, บริการด้านการเงิน และวิดีโอ) ทำรายได้ไปทั้งหมด 85,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจาก 78,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯในปี 2022
Mac – iPad – wearable devices ยอดตกถ้วนหน้า
ในผลประกอบการไตรมาสนี้ พบว่า สินค้าตระกูล Mac, iPad และอุปกรณ์ Wearable Devices มีรายได้ลดลง โดยในกลุ่ม Mac ลดลง 33.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว และทำยอดขายไปได้ 7,600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเป็นไปได้ว่า การเปิดตัวชิป M3 ใหม่เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา อาจเป็นความหวังของ Apple ในการสร้างการเติบโตให้กับสินค้าตระกูล Mac ด้วยอีกทางหนึ่ง
ส่วน iPad ลดลง 10.2% โดยทำรายได้เพียง 6,400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เช่นเดียวกับกลุ่ม Wearable Devices ที่ทำรายได้ 9,320 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในไตรมาสนี้ ลดลงจาก 9,650 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว และคาดว่ารายได้ของตลาด Wearable Devices ในช่วงไตรมาสเดือนธันวาคมนี้ก็จะลดลงด้วยเช่นกัน