HomeBrand Move !!ปิดดีล ESSO หนุนไตรมาส 3 ‘บางจาก’ กวาดกำไร 11,011 ล้าน สูงสุดในรอบ 39 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท

ปิดดีล ESSO หนุนไตรมาส 3 ‘บางจาก’ กวาดกำไร 11,011 ล้าน สูงสุดในรอบ 39 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท

แชร์ :


กลุ่มบริษัทบางจาก หรือ BCP รายงานผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกปี 2566 มีรายได้รวม 242,931 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% มีกำไรสุทธิส่วนของบริษัท 14,210 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน และคิดเป็นกำไรต่อหุ้น 10.09 บาท

โดยไตรมาส 3 ปี 2566 มีรายได้ 94,528 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 26% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันที่ได้รับปัจจัยหนุนจากราคาที่ปรับเพิ่มขึ้น ปริมาณการจำหน่ายของธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติเพิ่มขึ้น ขณะที่ธุรกิจพลังงานไฟฟ้ามีการรับรู้การผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ มีการรับรู้ผลการดำเนินงานของ เอสโซ่ (ประเทศไทย) ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2566 เป็นต้นมา รวมถึงมีการบันทึกกำไรพิเศษจากเข้าซื้อหุ้นเอสโซ่ (ประเทศไทย)

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 ปี 2566 ถือเป็นกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา 39 ปี อยู่ที่ 11,011 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 7.91 บาท โดยมีรายได้ 94,528 ล้านบาท มี EBITDA 13,813 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมากกว่า 100% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

4 ปัจจัยกำไรพุ่ง

1. ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันที่ราคาน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์ที่ปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มี Inventory Gain 3,598 ล้านบาท

2. ปริมาณการจำหน่ายของธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติเพิ่มขึ้น

3. ธุรกิจพลังงานไฟฟ้ามีการรับรู้การผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำใน สปป.ลาว เต็มไตรมาสและรับรู้ปริมาณการผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 2 โครงการ

4. รับรู้ผลการดำเนินงานของเอสโซ่ (ประเทศไทย) ในสัดส่วน 76.34% ในงบการเงินรวม ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2566 เป็นต้นมา รวมถึงมีการบันทึกกำไรพิเศษจากการต่อรองราคาซื้อที่เกิดจากการประเมินมูลค่ายุติธรรมของทรัพย์สิน (PPA) จำนวน 7,389 ล้านบาท

สรุปรายกลุ่มธุรกิจไตรมาส 3 ปี 2566

– กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน มี EBITDA 6,306 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมากกว่า 100% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 53% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยค่าการกลั่นพื้นฐานในไตรมาสนี้เพิ่มขึ้นอย่างมากอยู่ที่ 14.67 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล นับเป็นระดับที่สูงกว่าค่าการกลั่นในตลาดสิงคโปร์ที่อยู่ที่ 9.60 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นฯ มีอัตรากำลังการผลิตเฉลี่ยที่ 116.4 พันบาร์เรลต่อวัน หรือ คิดเป็น 97% ของกำลังการผลิต

– กลุ่มธุรกิจการตลาด มี EBITDA 1,312 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมากกว่า 100% จากไตรมาสก่อนหน้า และเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยปริมาณการจำหน่ายอยู่ที่ 1,571 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 13% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเพิ่มขึ้นทั้งตลาดค้าปลีกและตลาดอุตสาหกรรม เป็นผลจากการผลักดันการจำหน่าย การขยายสถานีบริการ และการส่งเสริมการตลาด ประกอบกับการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของตลาดน้ำมันอากาศยาน ตามการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว

– กลุ่มธุรกิจเอสโซ่ (ประเทศไทย) มี EBITDA 1,281 ล้านบาท โดยในไตรมาส 3 ได้เริ่มมีการรับรู้ผลการดำเนินงานของเอสโซ่ (ประเทศไทย) ในงบการเงินรวมของบางจากฯ ตั้งแต่ 1 กันยายน 2566 ทั้งนี้ ในเดือนกันยายน 2566 โรงกลั่นน้ำมันบางจาก ศรีราชา หยุดดำเนินการผลิตเพื่อการซ่อมบำรุงตามแผนและเพื่อดำเนินการติดตั้งและเชื่อมต่ออุปกรณ์สำหรับโครงการปรับปรุงคุณภาพน้ำมันตามมาตรฐานยูโร 5 เป็นเวลา 25 วัน

– กลุ่มธุรกิจพลังงานไฟฟ้า มี EBITDA 1,330 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% จากไตรมาสก่อนหน้า และ 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นับเป็น EBITDA สูงที่สุดใน 3 ไตรมาสที่ผ่านมา โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำใน สปป. ลาว กลับมาผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าเต็มไตรมาส และมีการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม (การดำเนินงานของโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 2 โครงการ) รวมถึงโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในไทยมีปริมาณการจำหน่ายไฟเพิ่มขึ้นตามปัจจัยฤดูกาล

– กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ มี EBITDA 169 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% จากไตรมาสก่อนหน้า และมากกว่า 100% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยธุรกิจผลิตและจำหน่ายเอทานอลมีกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น จากปริมาณการจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นตามแผนบริหารการขายเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดของบริษัท

– กลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติและพัฒนาธุรกิจใหม่ มี EBITDA 4,873 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยปริมาณจำหน่ายของ OKEA เพิ่มขึ้น 17% จากไตรมาสก่อนหน้า จากปริมาณจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นของแหล่งผลิต Brage และ Nova (ในไตรมาส 2 ปี 2566 ไม่มีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์จาก 2 แหล่งนี้) นอกจากนี้ ราคาขายเฉลี่ยน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเหลวปรับเพิ่มขึ้นตามราคาตลาดโลก ทั้งนี้ OKEA ได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานภาครัฐของนอร์เวย์ในการขยายการลงทุนในแหล่ง Statfjord โดยคาดว่าธุรกรรมจะเสร็จสิ้นในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566

คุณชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 สะท้อนชัดเจนถึงความสามารถในการดำเนินธุรกิจ และการแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ที่เป็นจุดเริ่มต้นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในการดำเนินธุรกิจ

ทั้งนี้ เมื่อเดือนกันยายน บางจากฯ ได้อนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลปี 2566 ให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 0.5 บาทต่อหุ้น สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบางจากฯ ในการเพิ่มมูลค่าผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง

อ่านเพิ่มเติม


แชร์ :

You may also like