พรูเด็นเชียล ประเทศไทย ให้ความสำคัญกับพนักงานเหมือนเป็นสมาชิกในครอบครัว ส่งความห่วงใยด้วยการจัดกิจกรรม Prudential Run Clinic ส่งเสริมให้พนักงานหันมาใส่ใจและดูแลสุขภาพ เพราะเชื่อว่า “แค่การออกมาขยับ ก็เท่ากับการสร้างสุขภาพที่แข็งแรง” โดยเชิญ โค้ชจอม โศรัจ แวววิริยะ Personal Trainer นักกีฬาและโค้ชวิ่งที่มีประสบการณ์ในงานสายสุขภาพและการออกกำลังกายมากว่า 10 ปี โค้ชปูไข่ พงศ์สิรี บรรลือวงศ์ ผู้ฝึกสอนความแข็งแรงให้กับนักกีฬาและบุคคลทั่วไป มาสอนทักษะการวิ่ง เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเข้าร่วมกิจกรรมวิ่งสุดพิเศษ Prudential Family Run ในวันที่ 9 ธันวาคม 2566 ที่เปิดโอกาสให้พนักงานและลูกค้าพรูเด็นเชียลฯ ชวนสมาชิกในครอบครัวมาร่วมกันมีสุขภาพที่แข็งแรงและ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 175 ปี ของพรูเด็นเชียล ด้วยการวิ่ง/เดิน ในระยะ 5 กม. และ 1.75 กม. ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานมาราธอนสุดยิ่งใหญ่ Umay+ Bangkok Midnight Marathon 2023 ที่จะจัดในวันที่ 10 ธันวาคม 2566
นายบัณฑิต เจียมอนุกูลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ พรูเด็นเชียล ประเทศไทย กล่าวว่า “ปีนี้ถือเป็นปีแห่งการเฉลิมฉลองในวาระที่พรูเด็นเชียลดำเนินธุรกิจมาครบ 175 ปี พรูเด็นเชียล ประเทศไทย จึงขอเป็นส่วนหนึ่งเพื่อร่วมจัดกิจกรรมพิเศษ โดยเชิญชวนพนักงานและลูกค้าของเราทุกท่านให้มีสุขภาพที่แข็งแรงไปด้วยกัน กับการร่วมเป็นผู้สนับสนุนในกิจกรรมวิ่งสุดพิเศษ Prudential Family Run ในระยะ 5 กม. และ 1.75 กม. ซึ่งเชื่อว่าเป็นระยะที่สมาชิกทุกคนในครอบครัวสามารถทำได้อย่างแน่นอน เพราะแค่ออกมาขยับก็เท่ากับการมีสุขภาพที่แข็งแรงขึ้นวันละนิด”
“นอกจากจะมุ่งให้บริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าในด้านสุขภาพแล้ว พรูเด็นเชียลฯยังให้ความสำคัญกับสุขภาพของพนักงานอีกด้วย หากพนักงานมีสุขภาพที่ดีก็จะดูแลครอบครัวได้ดี สามารถส่งต่อการมีสุขภาพที่ดีให้กับสมาชิกในครอบครัว รวมทั้งลูกค้า และผู้คนในสังคม อย่างวันนี้ เราได้จัดกิจกรรม Prudential Running Clinic ซึ่งพรูเด็นเชียลฯ จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมให้พนักงานได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพดี โดยเชิญโค้ชชื่อดังมาให้ความรู้และแชร์เรื่องราวดี ๆ มากมาย” นายบัณฑิต กล่าว
สำหรับทักษะการวิ่งที่ โค้ชจอม โศรัจ และ โค้ชปูไข่ พงศ์สิรี นำมาสอนในกิจกรรม Prudential Running Clinic ครั้งนี้เป็นการฝึกซ้อมเกี่ยวกับความเร็วในแต่ละรูปแบบทั้ง Fartlek, Interval และ Tempo ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการวิ่งให้ดีขึ้น หลังจากเรียนทฤษฎีแล้ว ผู้ร่วมกิจกรรมยังได้ฝึกปฏิบัติจริงด้วย
โดยโค้ชได้อธิบายถึงการฝึกซ้อมแต่ละแบบ ว่า การฝึกซ้อมแบบ Fartlek คือ วิ่งเล่นกับความเร็ว เร็วบ้าง ช้าบ้าง เปลี่ยนทิศทางบ้าง การวิ่งแบบนี้เหมาะที่จะฝึกในสนามวิ่งเทรล เพราะบางจุดต้องวิ่งช้า เพราะพื้นไม่เรียบ มีสิ่งกีดขวาง บางช่วงวิ่งเร็วได้เพราะเป็นทางราบ เป้าหมายของการฝึกวิ่งแบบนี้คือเพื่อฝึกการตอบสนองของนักวิ่งต่อสถานการณ์ต่าง ๆ ให้รวดเร็วขึ้น โดยในการวิ่ง 1 ชั่วโมง อาจวิ่งเร็ว 3 นาที สลับวิ่งเหยาะ 2 นาที ฝึกแบบนี้สัปดาห์ละ 1 ครั้ง
ส่วนการฝึกแบบ Interval จะใช้เวลาสั้นและเน้นความเข้มข้นของการฝึก โดยมีช่วงเวลา Recovery ต่อรอบการวิ่งนานกว่า Tempo และ Fartlek เล็กน้อย เช่น หลังจากวอร์มอัปเสร็จ ให้วิ่ง 2 นาทีที่เพซแข่งขันระยะ 10 กม.แล้วพักด้วยการจ๊อกเบา ๆ หรือเดิน 2-3 นาที เพื่อให้หายเหนื่อยและหายใจสบายขึ้น ประโยชน์ของ Interval คือ เพื่อปรับปรุงรูปแบบการวิ่ง การฟื้นฟู ความทนทาน ความอดทนทั้งร่างกายและจิตใจ รวมทั้งการเผาผลาญไขมันในร่างกาย
การฝึกแบบสุดท้าย คือ Tempo เป็นการวิ่งที่ออกมาจากโซนสบาย เริ่มหายใจหอบเหนื่อย ได้ยินเสียงการหายใจของตัวเองขณะวิ่ง และเริ่มพูดได้เป็นคำ ๆ แต่ถ้าพูดไม่ได้เลย ให้ลดความเร็วลงมา ในการวิ่ง Tempo นั้น ความเร็วต่อระยะทางไม่ใช่ปัจจัยหลัก ประโยชน์ของการฝึกวิ่ง Tempo นั้นเน้นเพื่อให้กล้ามเนื้อทนทานต่อการเกิดกรดแลกติก และเพิ่มความสามารถในการระบายกรดแลกติกได้เร็วขึ้นขณะวิ่ง
สำหรับความรู้ที่โค้ชได้มาฝึกสอนในกิจกรรม Prudential Run Clinic ไม่เพียงแต่พนักงานพรูเด็นเชียลฯ เท่านั้นที่ได้ประโยชน์ แต่พรูเด็นเชียลฯ ยังเปิดให้ลูกค้า และผู้ที่สนใจได้เข้าร่วมอบรมเทคนิคเหล่านี้ในกิจกรรมเดือนพฤศจิกายนกับ Prudential Run Clinic ครั้งที่ 2 และ 3 โดยครั้งที่ 2 จัดวันที่ 19 พฤศจิกายน 2566 ที่สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ และครั้งที่ 3 จัดวันที่ 25 พฤศจิกายน 2566 ที่สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้เรียนรู้ทักษะการวิ่งขั้นพื้นฐาน รวมทั้งวิธีสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกาย การยืดเหยียด และการฟื้นฟูร่างกายหลังจากวิ่ง