ปรากฏการณ์ “สัปเหร่อ” ขึ้นแท่นหนังไทยทำเงินสูงสุดในปีนี้ด้วยตัวเลข 700 ล้าน ทำให้ชื่อของ “ต้องเต-ธิติ ศรีนวล” ผู้กำกับหนังสัปเหร่อ อยู่ในกระแสความสนใจถึงมุมคิดการสร้างสรรค์งานครีเอทีฟ ตั้งแต่ “จักรวาลไทบ้าน เดอะซีรีส์” มาถึงความสำเร็จล่าสุดกับหนังสัปเหร่อ
ในงาน ADMAN AWARDS & SYMPOSIUM 2023 ของสมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย (AAT) “ต้องเต-ธิติ ศรีนวล” ขึ้นเวทีเล่าเรื่องราว “ครีเอทีฟไทบ้าน Local Impact” กับความสำเร็จของหนังสัปเหร่อ
“ต้องเต” เริ่มเข้าวงการภาพยนตร์ จากการเป็นตัวประกอบหนัง “ผู้บ่าวไทบ้าน” ที่กองถ่ายมาคัดเลือกนักแสดงที่มหาสารคาม ขณะนั้นเขายังเรียนอยู่ หลังจากนั้นก็มีผลงาน ทำเพลง มิวสิควิดีโอ หนังโฆษณาในพื้นที่อีสาน ผลงานที่ทำให้เป็นที่รู้จัก มาจากมิวสิกวิดีโอเพลง “ไสว่าสิบ่ถิ่ม” ของก้อง ห้วยไร่
ตามด้วยผลงานสร้างชื่อเสียงในฐานะผู้กำกับภาพยนตร์ “จักรวาลไทบ้าน” เช่น ไทบ้าน x BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้ หมอปลาวาฬ และล่าสุด คือ สัปเหร่อ หนังแนวสยองขวัญ-ตลก
หากพูดถึงความสำเร็จของหนังสัปเหร่อ “ต้องเต” บอกว่ามาจากองค์ประกอบทุกอย่าง เริ่มตั้งแต่การสะสมฐานแฟนจากไทบ้าน ที่ทำมา 7-8 ปี
แต่หากหนังสัปเหร่อ ยังใช้ชื่อไทบ้าน เดอะซีรีส์อยู่ ก็อาจจะไม่ประสบความสำเร็จเท่าวันนี้ เพราะคนจะรู้สึกว่าเป็นการเล่าเรื่องของเด็กวัยรุ่นที่อยู่ภาคอีสาน การใช้ชื่อเรื่องว่า “สัปเหร่อ” ทำให้ “แมส” ขึ้น และเข้าถึงทุกคนได้
“สัปเหร่อ” จึงเป็นชื่อเรื่องที่ถูกตั้งไว้ตั้งแต่ก่อนเขียนบท จากการวางจักรวาลไทบ้านไว้ตามสูตรสำเร็จของหนัง คือหลังจากทำแนว Comedy แล้วต่อด้วย โรแมนติก ดราม่า และแนวสยองขวัญ (สัปเหร่อ)
“ส่วนตัวชอบหนังสัปเหร่อ เพราะเป็นหนังครบรสทั้ง ตลก ผี ดราม่า จึงคิดว่าอาจจะมีคนที่ชอบเหมือนกัน จึงทำให้หนังประสบความสำเร็จ”
แม้จะชอบหนังสัปเหร่อ แต่ก็ไม่ได้คิดว่าจะทำเงินเยอะ เพราะหลังโควิดพฤติกรรมคนดูหนังในโรงภาพยนตร์ลดลง หันไปดูคอนเทนต์สตรีมมิ่งมากขึ้น จึงยากมากที่หนังจะทำรายได้ 100 ล้านบาท แต่หนังสัปเหร่อก็มีความหวังว่าไม่ขาดทุน เพราะหากขาดทุน นายทุนคงไม่ให้เงินทำหนังอีกแล้ว
หนังสัปเหร่อ เป็นการวางโครงเรื่องใหม่ที่ต่างจากไทบ้าน ที่ผู้ชมคาดเดาการเดินเรื่องได้ จากการทำรีเสิร์ชผู้ชมว่าอยากให้หนังผีของไทบ้านเป็นแบบไหน มีคนบอกว่าอยากให้เหมือน “พี่มากพระโขนง” คือเป็นหนังผี-ตลก อีกมุมก็อยากให้เป็นเหมือน “นางนาก” (เวอร์ชั่น ทราย เจริญปุระ) เป็นสไตล์หนังสยองขวัญของอีสาน สรุป คือ คนดูคาดหวังหนังผีตลกและสยองขวัญ
“ไทบ้าน เดอะซีรีส์” เป็นการทำหนังอีสานให้คนในเมืองดู แต่ “สัปเหร่อ” ตั้งใจทำหนังอีสานให้คนทั่วประเทศและต่างประเทศดูได้ จึงใช้วิธีเล่าเรื่องผ่านมุมกล้อง เผื่อว่าคนฟังภาษาอีสานไม่เข้าใจ เมื่อเห็นภาพก็จะเข้าใจได้ เป็นการสื่อสารที่ไม่ใช้คำพูด พยายามให้เป็นการเล่าด้วยภาพมากที่สุด จะเห็นได้ว่าบทพูดสำคัญมีไม่มาก แต่เล่าด้วยภาพเยอะมาก
หนังสัปเหร่อ เข้าฉายวันแรกวันที่ 5 ตุลาคม 2566 ปกติหนังฉายวีคแรกจะมีผู้ชมมากที่สุดและทำเงินสูงสุด จากนั้นสัปดาห์ที่ 2 ก็จะลดลงมา แต่หนังสัปเหร่อวีคที่ 2-3 มีคนดูเพิ่มขึ้น มาจากกระแสปากต่อปาก ผู้ชมจะค่อยๆ มาดูมากขึ้นเรื่อยๆ สิ่งที่ทำให้หนังสัปเหร่อ ไปได้มากกว่าไทบ้าน เรื่องอื่นๆ มาจากผู้ชมกลุ่มใหม่ ที่ไม่ใช่แฟนคลับไทบ้านเดิม
การบอกต่อของผู้ชมหนังสัปเหร่อ ไม่ได้พูดถึงนักแสดง แต่จะบอกต่อกันเพียงว่า “หนังดีต้องไปดูเอง” เพราะไม่สามารถอธิบายออกมาได้ จึงต้องบอกว่าให้ไปดูเอง “ต้องเต” บอกว่าเขาก็เล่าไม่ได้ว่าหนังเป็นอย่างไร เพราะประสบการณ์การสูญเสียของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่ละคนก็เข้าใจความตายไม่เหมือนกัน จึงต้องไปดูเองว่าจะรู้สึกอย่างไรกับหนังสัปเหร่อ
“หนังสัปเหร่อทุนสร้าง 10 ล้าน สรุปทำเงิน 700 ล้านบาท ไม่ได้คาดคิดหรือหวังไว้ตั้งแต่แรกว่าจะทำได้ขนาดนี้ แค่มั่นใจว่าคนดูต้องชอบหนังเรื่องนี้ สิ่งที่ทำให้มั่นใจมาจากประสบการณ์และรู้ว่าตลาดต้องการอะไร กลุ่มผู้ชมที่ได้แน่ๆ คือ ฐานผู้ชมไทบ้าน และได้ผู้ชมกลุ่มใหม่ตลาดแมส เดิมหวังรายได้สัปเหร่อไว้ 80 ล้าน”
ช่วงที่ทำหนังสัปเหร่อ แม้จะมีความรู้สึกว่าหนังจะประสบความสำเร็จ แต่ก็เป็นเรื่องที่ไม่สามารถพูดหรือบอกใครได้ก่อน เพราะคนอาจมองว่า “โม้” หรือเอาวิธีคิดว่าจะประสบความสำเร็จมาจากไหน ส่วนตัวเชื่อว่าการทำงานถ้าได้ลงมือทำจริงๆ ความสำเร็จเล่าได้ไม่มาก แต่การเดินทางไปสู่ความสำเร็จเล่าได้เยอะว่าเจออะไรมาบ้าง
หลังจาก “สัปเหร่อ” ประสบความสำเร็จ การทำโปรเจกต์หนังเรื่องต่อไป “ต้องเต” บอกว่าไม่ได้รู้สึกกดดัน หากหนังเจ๊งก็ไม่เป็นไร เพราะต่อไปก็ต้องมีช่วงเวลาที่คิดหนังที่คนดูชอบได้และจะพยายามทำเต็มที่
อ่านเพิ่มเติม