ขึ้นชื่อว่าเป็นแบรนด์ปิ้งย่างที่มีไอเดียการตลาดเจ๋งๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับ “บาร์บีคิวพลาซ่า” ล่าสุดฉลองเทศกาลส่งท้ายปีกับ Collaboration ครั้งใหญ่ที่หลายคนรอคอย กับจับมือกับค่ายสตรีมมิ่งระดับโลกอย่าง Netflix กับซีรีส์ล่าสุด “Analog Squad ทีมรักนักหลอก” ที่ได้สตรีมพร้อมกันทั่วโลกไปแล้วเมื่อวันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา สู่การจับมือครั้งใหม่ที่ชวนสาวกพี่ Gon หวนย้อนอดีตยุค ’90 กับภาพความทรงจำดีๆ ผ่านมื้ออาหารตลอดช่วง 1 เดือนนับจากนี้
จุดเริ่มต้นของความร่วมมือดังกล่าวเกิดจากการที่จะต้องถ่ายทอดความผูกพันในครอบครัว หรือ Family Bonding ซึ่งมักเป็นความหมายที่แทรกอยู่ในการสื่อสารของ Bar B Q Plaza มาตลอดตั้งแต่แคมเปญพนักงานร้านอาหารก็มีแม่ ถึงต่างเจนก็ Blend เข้ากันได้ และความสนุกของการปิ้งย่างคือมื้ออาหารของคนสนิทที่เลือกแล้วว่าจะมาใช้เวลาด้วยกันตรงหน้า ครั้งนี้แบรนด์จึงเลือกหยิบยกเส้นเรื่องหลักของครอบครัวที่อยู่ด้วยแล้วฮีลใจมาเป็น Big Idea หลักของการทำ Collaboration ครั้งสำคัญนี้ หลังที่ผ่านมาบาร์บีคิวพลาซ่าได้มีการเข้าไปจับมือมาแล้วมากมาย ตั้งแต่ แบรนด์พิซซ่า ฮัท ไปจนถึงคาร์นิวัล (Carnival) ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีในช่วงที่ผ่านมา
คุณรัฐ ตระกูลไทย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด “หนึ่งในความบันเทิงของคุณยุคปัจจุบัน แน่นอนว่าต้องมี Netfix เป็นคำตอบของใครหลายคน ทำให้เรามีความรู้สึกว่าเราอยากเข้าไปคอลแลบด้วย นอกจากความนิยมแล้วสิ่งสำคัญคือความเป็นโกลบอลแบรนด์ของ Netflix ที่เรามองว่าถึงเวลาแล้วที่เราจะขยับการจับมือร่วมกับพาร์ทเนอร์ที่เป็นระดับโลกได้แล้วจากที่ผ่านมาที่เรามีพาร์ทเนอร์เป็นแบรนด์โลคัลในประเทศ”
สอดคล้องกับซีรีส์ Analog Squad ทีมรักนักหลอก ที่เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในปี 1999 ของคนกลุ่มหนึ่งที่ต้องมารวมตัวกันเป็นครอบครัวหลอก ๆ เพื่อทำภารกิจจำเป็น นำแสดงโดย ปีเตอร์-นพชัย ชัยนาม, เจเจ-กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม, น้ำฝน กุลณัฐ และ ปริมมี่-วิพาวีร์ พัทธ์ณศิริ พร้อมด้วยนักแสดงมากฝีมืออีกมากมาย ที่มาร่วมปฏิบัติภารกิจครอบครัวตัวปลอมสุดอบอุ่นและการค้นหาความหมายอันลึกซึ้งของ “ครอบครัว” ผ่านฝีมือการกำกับของ ต้น-นิธิวัฒน์ ธนาธร เจ้าพ่อหนังฟีลกู๊ดของเมืองไทย
พี่ Gon กับครอบครัวปลอมๆ ที่จะสร้างประสบกาณ์แก่ลูกค้า Family Card เพิ่มการจับจ่าย
คุณรัฐ ยังบอกอีกว่า สำหรับการร่วมมือครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำแนวคิดของแบรนด์บาร์บีคิวพลาซ่าในการตอกย้ำการสื่อสารแบรนด์ผ่านแนวคิด Moment of Now กับโจทย์ที่ว่าถ้า Gon จะตามหาครอบครัว สิ่งที่จะผลักดันแคมเปญได้เร็วที่สุดคืออะไร จึงตลกผลึกมาเป็น 2 แกนหลักที่บาร์บีคิวพลาซ่าใช้เป็นแกนหลักในการทำตลาดนั่นคือ 1. ชุดครอบครัว 2. บัตร Family โดยครั้งนี้แบรนด์เลือกหยิบยกเอาบัตร Family มาเป็นคีย์หลักในแคมเปญ เพื่อให้คนรู้สึกถึงความเป็นครอบครัวของ Gon ด้วยการนำบัตร Family มาทำเป็นโปรโมชั่นเพื่อต่อยอดแก่ลูกค้า
ด้วยแนวคิดที่เชื่อว่า “คำโกหกจะฮีลใจได้” Bar B GON เลยรวมแก๊งค์ชวนทุกคนมาเป็นครอบครัวหลอก ๆ เพื่ออัปเกรดสิทธิ์สมาชิกเป็นระดับสูงสุด Family ทันทีในร้าน เตรียมพบกับกิจกรรมพิเศษพร้อมชุดเมนูที่คุณคิดถึงในยุค Analog ได้ตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2566 – 10 มกราคม 2567 ที่ Bar B Q Plaza ทุกสาขา
โดยเป้าหมายของการการยกระดับลูกค้าจากสมาชิก Gon Gang ทั่วไป มาเป็นแบบ Family จะทำให้ลูกค้าได้รับ “ประสบการณ์” หลายคนไม่รู้ว่าตัวเองเป็นสมาชิกระดับไหน มีคะแนนเท่าไหร่ และคะแนนสะสมสามารถเอาไปทำอะไรได้ นั่นเพราะคนมาใช้ประสบการณ์ในร้านจนชินและลืมไปว่าร้านก็มี CRM กันอยู่ ซึ่งการยกเรื่องความเป็น Family Card เข้ามานำเสนอให้ลูกค้าตลอด 1 เดือนที่มีการจัดแคมเปญจะทำให้ลูกค้าได้รับรู้ถึงสิทธิประโยชน์พิเศษของลูกค้าที่สูงมากขึ้น และจะส่งผลให้มียอดการจับจ่ายมากขึ้นในอนาคต ทำให้จู่ๆ สมาชิกระดับปกติก็ได้ส่วนลดมากขึ้นเป็น 15% เทียบเท่าระดับ Family เป็นการสร้างประสบการณ์ และทดสอบว่าถ้าหากลูกค้าได้ส่วนลดมากขึ้น จะติดใจบาร์บีคิว พลาซ่า แล้วเพิ่มความถี่ในการบริโภคหรือไม่
“เราต้องการให้คนรู้จักว่า Gon Gang มีระดับของสมาชิกอยู่ ยิ่งถ้าคนรู้ว่าตัวเองอยู่ใน Tier ไหน ยิ่งจะมีการจับจ่ายเยอะขึ้น โดยเฉพาะสมาชิกระดับ Family ที่มีการจับจ่ายถึง 30,000 บาทขึ้นไป นำมาทำให้ผู้บริโภครู้สึกถึงการได้รับการบริการ โปรโมชั่นพิเศษในระดับนี้มากขึ้นแล้วติดใจ ลูกค้าก็จะจับจ่ายกับเราจนถึงขั้น Family ได้ นั่นคือการดึงลูกค้าเข้ามาใช้บริการ ผ่าน Family Card”
ปรับโฉมใหม่ 3 สาขาขายดี ย้อนไปสู่ยุค 90 แบบจัดเต็ม
อีกประการคือการเชื่อมสู่ความเป็น Analog ตามคอนเซ็ปต์ของซีรี่ส์ ที่ต้องสามารถจับต้องได้ ทำให้เกิดเป็นไอเดียในการนำ Item ที่ผู้บริโภคนึกถึงในอดีตของบาร์บีคิวพลาซ่าที่มีการใช้งานจริงในยุค 90 กลับมาอีกครั้ง ด้วยการตกแต่งร้าน 3 สาขาได้แก่ สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ สาขาสยามแสควร์วัน และสาขาพระราม 9 ย้อนยุคไปยังปี 90 ผ่านการตกแต่งและอุปกรณ์ ต่างๆภายในร้าน
- สาขาสยามสแควร์วัน มาในรูปแบบของการย้อมทั้งร้านตกแต่งร้านสไตล์เรโทรเน้นสีสัน ฉูดฉาด เหมือนได้จำลองร้าน Bar B Q Plaza ในยุค 90 มาอยู่ในสาขานี้
- สาขาเซ็นทรัล พระราม 9 จัดเป็น Mini Museum รวมตำนานของ GON และสิ่งของล้ำค่าที่ถูกเก็บสะสมมาจากยุคนั้นนำมาจัดแสดงให้ได้ชมกัน
- สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ เป็นสาขาพิเศษที่แบ่งออกเป็น 2 โซน โซนปัจจุบัน และโซนยุค 90 ที่เน้นสีสัน จัดจ้านและรูปเรขาคณิตตามสไตร์เรโทร ให้ลูกค้าสามารถเลือกรับประสบการณ์ได้ตามใจ
“เราอยากขยับตัวเองเป็นโกลบอล ในขณะที่ Netflix เองก็อยากได้ความเป็นแบรนด์แมส ที่มีความเป็น Family และอยู่มายาวและทันสมัยอยู่ จึงเกิดเป็นการร่วมมือครั้งนี้เกิดขึ้น โดยมีแก่นของการจับมือคือเรื่องของความอบอุ่นและความเป็นครอบครัว” คุณรัฐ ตระกูลไทย กล่าวถึงจุดเชื่อมของทั้งสองแบรนด์ที่มีร่วมกัน
นอกเหนือจากการตกแต่งภายในร้านแล้ว หน้าร้านยังนำ Bar B GON หน้าเดิมมายืนต้อนรับอีกครั้ง รวมถึงป้ายโลโก้ ตลอดจนเปลี่ยนการแต่งตัวของพนักงานด้วยชุดยูนิฟอร์มแรกเมื่อกว่า 30 ปีที่ผ่านมานำมาใช้ภายในร้านอีกครั้ง นอกจากนี้ยังมีจานย้อนยุคในยุค 90s และน้ำจิ้มของบาร์บีคิวพลาซ่า ที่มีหัวไชเท้าปั้นเป็นก้อนในถ้วย พร้อมทั้งนำเมนูเก่าของทางร้านที่เคยขายดีกลับมาจำหน่ายอีกครั้ง ทั้งคร็อกเก้ไก่ เบค่อนพันเห็ดเข็มทอง ข้อไก่ทอด ภาชนะสีโอรสที่ใช้เสิร์ฟในร้านตั้งแต่ยุคแรกเริ่ม ซึ่งทั้งหมดลิงค์กับแคมเปญความเป็น Analog Squad เข้ามาจำหน่ายภายในร้านทั้ง 3 สาขา
ที่มากกว่าการสื่อสารกับลูกค้า คือ การสื่อสารถึง “พนักงาน” ภายในองค์กรเอง เมื่อรูปบางรูปที่นำมาใช้ตกแต่งในร้าน เป็นรูปของพนักงานจริงๆ ที่ทำงานอยู่กับ Food Passion จนถึงปัจจุบัน ซึ่งพนักงานเหล่านั้น บางส่วนขยับขึ้นมาทำงานในระดับ Management แล้ว ทำให้เกิด “แรงบันดาลใจ” ให้กับพนักงานในปัจจุบัน
อ่านเกมปีหน้า “บาร์บีคิวพลาซ่า” ต่อยอด Product และ Service มากขึ้น
ขณะที่กลยุทธ์ด้าน CRM ของบาร์บีกอนจากนี้ไปจะให้ความสำคัญกับการทำกิจกรรมการตลาดตอบโจทย์ความต้องการต่างกันในแต่ละกลุ่มลูกค้า ซึ่งทำให้ต้องมีการจัดโปรโมชั่นความต้องการที่แตกต่างกันออกไปเพื่อกระตุ้น โดยแต่ละคนจะมีพฤติกรรมที่ต่างกันและเลือกโปรโมชั่นให้ตรงจุดแต่ละคน
สุดท้ายแคมเปญนี้จะตอบโจทย์ลูกค้าทุกระดับของแบรนด์ว่าเป็นอย่างไร สิ่งที่เรามอบให้เปลี่ยนแปลง Spending มากน้อยแค่ไหน และลูกค้าแต่ละระดับจะมีพฤติกรรมเปลี่ยนไปอย่างไร ก็เปรียบเสมือนบทเรียนที่ต้องเรียนรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมของลูกค้าไป
ส่วนแผนงานในปีหน้า บาร์บีคิวพลาซ่าจะโฟกัสเรื่องของ Product และ Service ที่ต้องพิเศษมากขึ้น เพราะว่าการแข่งขันในธุรกิจร้านอาหารที่สูงขึ้น ดังนั้นแบรนด์ที่อยู่มากว่า 36 ปี จะต้องแข็งแกร่งและดีมากขึ้นเหมือนที่ทุกคนคาด โดยใช้ตัววัดคือลูกค้าคาดหวังเท่าไหร่ เราต้องเสิร์ฟตรงนี้ให้ได้
และสุดท้าย เมื่อถูกถามถึงการนำ “จุ่มแซ่บฮัท” กลับมาทำตลาดในรูปแบบดีลิเวอรี่อีกครั้งในช่วงที่ผ่านมา “คุณรัฐ” บอกว่า นั่นคืออีกหนึ่ง Product และ Service ที่ทางบาร์บีคิวพลาซ่านำเข้ามาตอบโจทย์ลูกค้า จนประสบความสำเร็จสามารถสร้างยอดขายได้แบบดับเบิ้ลดิจิต ส่วนจะนำกลับมาเปิดสาขาจริงจังอีกครั้งหรือไม่คงเป็นเรื่องที่ต้องศึกษาตลาดให้รอบคอบเสียก่อน
“หาก “จุ่มแซ่บฮัท” จะกลับมาอีกครั้งในรูปแบบฟิซิคัลสโตร์ แบรนด์จะต้อง ปัง! ให้ได้ในครั้งแรกที่กลับมา นั่นทำให้เราต้องศึกษาตลาดให้ละเอียดรอบคอบให้มากที่สุด” คุณรัฐกล่าวทิ้งท้าย
อ่านเพิ่มเติม
- ไม่ใช่แค่บุฟเฟต์ “พี่ก้อน X ปูดองอันยอง” จัดเต็มบุฟเฟต์พี่ก้อนครั้งใหม่ เสิร์ฟสารพัดทะเลดองสไตล์เกาหลี เริ่ม 29 มิ.ย.นี้
- “บาร์บีคิวพลาซ่า” เผยโฉม Green Store โมเดลสาขา “รักษ์โลก” แห่งแรก ที่เซ็นทรัล วิลเลจฯ
- แค่ปิ้งย่างไม่สะใจ “พี่ก้อน” เปิดเมนูใหม่ “หม่าล่าไฟลุก” เริ่มต้น 299 บาท มาพร้อมมังกรสีแดงที่จะทำสาวกเผ็ดร้อนจนเสียน้ำตา
- พี่ก้อน บุก “อินทนิล” เปิด Shop in shop ส่งเมนู “ข้าวกล่อง” ขายในร้านฯเพิ่มทางเลือกลูกค้าจัดส่งไวไม่รอนาน
- “บาร์บีคิวพลาซ่า” เปิดขายน้ำจิ้มพี่ GON ในตำนาน 36 สาขา ในราคาขวดละ 119 บาท