ปี 2566 เป็นปีแห่งความหวังของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่จะกลับมาเติบโตอีกครั้ง แต่สุดท้ายก็ไม่เป็นเช่นนั้น ด้วยผลกระทบจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอกประเทศ ส่งผลให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยไม่เป็นไปตามคาด อีกทั้งภาครัฐไม่มีมาตรการใหม่ๆ เพื่อกระตุ้นการซื้อที่อยู่อาศัย
แม้การเติบโตของตลาดอสังหาฯ ปี 2566 จะไม่คึกคัก แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้บริโภคยังคงมองหาที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์อย่างต่อเนื่องและรอเวลาเหมาะสมในการเป็นเจ้าของ ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ (DDproperty) เว็บไซต์มาร์เก็ตเพลสด้านอสังหาริมทรัพย์อันดับ 1 ของไทย เผยข้อมูลเชิงลึกจากผู้เข้าเยี่ยมชมในเว็บไซต์ www.ddproperty.com ในรอบปี 2566 (เก็บข้อมูลเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2566) สะท้อนเทรนด์ความต้องการซื้อและเช่าที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคชาวไทยทั่วประเทศ สรุปได้ดังนี้
1. ท็อป 10 จังหวัดยอดนิยมซื้อที่อยู่อาศัยมากสุด
– กรุงเทพฯ ยังคงครองความนิยมเป็นจังหวัดที่ได้รับความสนใจซื้อมากที่สุดในปี 2566 ตามมาด้วยจังหวัดปริมณฑลโดยรอบ ดังนี้ อันดับ 2 นนทบุรี, อันดับ 3 สมุทรปราการ, อันดับ 4 ปทุมธานี, อันดับ 5 ชลบุรี, อันดับ 6 เชียงใหม่, อันดับ 7 นครปฐม, อันดับ 8 ระยอง, อันดับ 9 นครราชสีมา และอันดับ 10 สมุทรสาคร
โดย 4 อันดับแรกอยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลทั้งสิ้น เนื่องจากความเจริญของเมืองหลวงที่วางรากฐานระบบสาธารณูปโภคและพัฒนาระบบคมนาคมอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ยังได้อานิสงส์จากโครงการรถไฟฟ้าที่เชื่อมต่อการเดินทางระหว่างกรุงเทพฯ และปริมณฑลให้สะดวกยิ่งขึ้น จึงมีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น เป็นปัจจัยบวกที่ส่งผลให้ความต้องการซื้อที่อสังหาฯ เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย
เมื่อแบ่งตามประเภทอสังหาฯ พบว่าคอนโดมิเนียมมีความสนใจซื้อมากที่สุดในปี 2566 สัดส่วน 43% ตามมาด้วยที่อยู่อาศัยแนวราบอย่างบ้านเดี่ยว 38% และทาวน์เฮ้าส์ 19%
สะท้อนให้เห็นถึงเทรนด์การอยู่อาศัยที่เปลี่ยนไป หลังจากผู้พัฒนาอสังหาฯ ขยายโครงการไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น โดยเฉพาะคอนโดที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยของคนรุ่นใหม่ ส่งผลให้ความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยประเภทนี้ยังได้รับความสนใจจากผู้ซื้ออย่างต่อเนื่อง
2. ราคาที่อยู่อาศัยสนใจซื้อมากที่สุด
– ราคา 1-3 ล้านบาท สัดส่วน 38% สะท้อนให้เห็นถึงกำลังซื้อส่วนใหญ่ของคนหาบ้านทั่วประเทศที่อยู่ในกลุ่มผู้บริโภคระดับกลางและล่าง เป็นกลุ่มราคาจับต้องได้ (Affordable price)
– ราคา 3-5 ล้านบาท สัดส่วน 21%
– ราคา 5-10 ล้านบาท สัดส่วน 18%
สัดส่วนที่อยู่อาศัยราคา 3-5 ล้านบาท รวมกับระดับราคา 5-10 ล้านบาท พบว่าสูงกว่าราคา 1-3 ล้านบาท มาจากผู้บริโภคกลุ่มกลาง-บน ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจน้อยกว่าผู้บริโภคระดับล่าง จึงมีความพร้อมทางการเงินในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยที่มีราคาสูง
สอดคล้องกับข้อมูลจากบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด หรือ เครดิตบูโร ระบุว่ากลุ่มสินเชื่อที่อยู่อาศัยราคา 1-3 ล้านบาท ซึ่งเป็นกลุ่มผู้มีรายได้ปานกลาง เริ่มเห็นสัญญาณมีปัญหาในการผ่อนชำระมากขึ้น และเห็นการไหลจากสินเชื่อปกติเป็นกลุ่มสินเชื่อกล่าวถึงเป็นพิเศษ (SM) หรือค้างชำระตั้งแต่ 31 วัน แต่ไม่เกิน 90 วัน มากขึ้น
3. ท็อป 10 จังหวัดยอดนิยมตลาดเช่าที่อยู่อาศัย “กรุงเทพฯ” ยืนหนึ่ง
สำหรับ “ตลาดเช่า” ที่อยู่อาศัย จังหวัดที่ได้รับความสนใจเหมือนกับตลาดซื้อ ตามมาด้วยเมืองท่องเที่ยวหลัก สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการเช่าที่อยู่อาศัยเพื่อเป็นบ้านพักตากอากาศทั้งชาวไทยและต่างชาติ รวมทั้งเทรนด์ Workcation รูปแบบการทำงานที่ผสมผสานการท่องเที่ยวเข้าไว้ด้วยกันที่ยังได้รับความนิยมอยางต่อเนื่อง
10 จังหวัดที่ได้รับความสนใจเช่ามากที่สุดในรอบปี 2566 ได้แก่ อันดับ 1 กรุงเทพฯ, อันดับ 2 นนทบุรี, อันดับ 3 สมุทรปราการ ตามมาด้วย เชียงใหม่, ภูเก็ต, ชลบุรี, ขอนแก่น, ปทุมธานี, นครราชสีมา และอุดรธานี
เมื่อแบ่งตามประเภทอสังหาฯ พบว่าผู้เช่าเกือบ 4 ใน 5 สนใจเช่าคอนโดมากที่สุด โดยมีสัดส่วนสูงถึง 79% ของอสังหาฯ ทั้งหมด เนื่องจากผู้ประกอบการพัฒนาโครงการเพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายมากขึ้น จึงครอบคลุมไลฟ์สไตล์แต่ละช่วงวัยได้เป็นอย่างดี ขณะที่บ้านเดี่ยวมีสัดส่วน 13% ส่วนทาวน์เฮ้าส์ 8% เท่านั้น
4. ราคาตลาดเช่าที่อยู่อาศัยได้รับความสนใจมากสุด
ค่าเช่าต่อเดือนของตลาดที่อยู่อาศัยที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในปี 2566 พบว่า ผู้เช่า 62% สนใจราคาไม่เกิน 20,000 บาท ถือเป็นราคาค่าเช่าที่เหมาะสมในการหาโครงการที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีพื้นที่ตอบโจทย์การใช้งานของผู้อยู่อาศัย และอยู่ในทำเลที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกล้อมรอบ เดินทางได้ง่าย
– ค่าเช่า 10,000-20,000 บาท/เดือน มีสัดส่วน 36%
– ค่าเช่าไม่เกิน 10,000 บาท/เดือน มีสัดส่วน 26%
– ค่าเช่ามากกว่า 30,000 บาท/เดือน มีสัดส่วน 23%
5. ท็อป 10 ทำเลฮอตคนหาที่อยู่อาศัยแนวรถไฟฟ้า “BTS อ่อนนุช” ยึดแชมป์
ทำเลที่ตั้งของโครงการอสังหาฯ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยไม่น้อย โดยเฉพาะทำเลที่มีโครงการรถไฟฟ้าผ่าน ทำให้เดินทางสะดวก ปลอดภัย และประหยัดเวลาการอยู่อาศัยในเมืองหลวง นอกจากนี้ยังมีศักยภาพเติบโตและได้รับการพัฒนาในอนาคต จึงกลายเป็นทำเลที่น่าจับตามองทั้งในกลุ่มผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยและนักลงทุน
จากข้อมูล 10 สถานีรถไฟฟ้ายอดนิยมของกลุ่มคนค้นหาอสังหาฯ ในปี 2566 พบว่า 7 ใน 10 เป็นสถานีที่อยู่ในโครงการรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว ซึ่งเปิดให้บริการเป็นสายแรกของประเทศไทย ทำเลโดยรอบสถานีจึงมีการพัฒนามาอย่างยาวนานทั้งในเชิงพาณิชย์และเพื่ออยู่อาศัย
โดย 10 อันดับทำเลยอดนิยมซื้อที่อยู่อาศัยแนวรถไฟฟ้า คือ 1. BTS อ่อนนุช ทำเลศักยภาพแนวรถไฟฟ้าที่เอื้อต่อการอยู่อาศัย ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งแหล่งช้อปปิ้ง, ห้างสรรพสินค้า และโรงเรียนนานาชาติ นอกจากนี้ยังเป็นทำเลที่รวมที่อยู่อาศัยราคาไม่แพงจึงเหมาะกับการซื้อเพื่ออยู่อาศัยและลงทุน
ตามมาด้วย อันดับ 2 MRT พระราม 9, อันดับ 3 BTS พร้อมพงษ์, อันดับ 4 BTS อารีย์, อันดับ 5 BTS เอกมัย, อันดับ 6 BTS ทองหล่อ, อันดับ 7 BTS อโศก, อันดับ 8 BTS อุดมสุข, อันดับ 9 MRT ลาดพร้าว และอันดับ 10 MRT ห้วยขวาง
6. ท็อป 10 ทำเลทองกรุงเทพฯ ครองใจทั้งผู้ซื้อ-ผู้เช่า “เขตวัฒนา” คว้าเบอร์หนึ่ง
ความเจริญของเมืองหลวง “กรุงเทพฯ” ดึงดูดให้มีจำนวนประชากรเข้ามาอาศัยอย่างหนาแน่น และกลายเป็นทำเลทองของการพัฒนาโครงการอสังหาฯ จากข้อมูลการเข้าชมประกาศอสังหาฯ ในปี 2566
พบว่า “เขตวัฒนา” ครองอันดับ 1 สุดยอดทำเลในกรุงเทพฯ ที่ได้รับความสนใจซื้อและเช่ามากที่สุด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทำเลศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพฯ (CBD) ที่สำคัญ เนื่องจากเป็นแหล่งงานขนาดใหญ่และเดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้า จึงเป็นทำเลย่านใจกลางเมืองที่น่าจับตามองทั้งในฝั่งผู้ซื้อและผู้เช่า
10 ทำเลในกรุงเทพฯ ที่ได้รับความสนใจซื้อมากที่สุด
1. เขตวัฒนา
2. เขตจตุจักร
3. เขตห้วยขวาง
4. เขตบางกะปิ
5. เขตคลองเตย
6. เขตประเวศ
7. เขตสวนหลวง
8. เขตบางนา
9. เขตพระโขนง
10. เขตบางเขน
10 ทำเลในกรุงเทพฯ ที่ได้รับความสนใจเช่ามากที่สุด
1. เขตวัฒนา
2. เขตคลองเตย
3. เขตห้วยขวาง
4. เขตจตุจักร
5. เขตพระโขนง
6. เขตราชเทวี
7. เขตบางนา
8. เขตปทุมวัน
9. เขตบางรัก
10. เขตสาทร
7. ชาวกรุงเลือกคอนโด มองราคาต่ำ 3 ล้านบาท
ความสนใจซื้อที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ ตามประเภทอสังหาฯ พบว่า ผู้บริโภค 56% ให้ความสนใจเลือกซื้อคอนโดมากที่สุด ซึ่งสูงกว่าสัดส่วนความสนใจซื้อของคนทั้งประเทศที่ 43% เนื่องจากคอนโดตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในเมืองหลวงที่ต้องการความคล่องตัวในการอยู่อาศัยและการเดินทาง อีกทั้งยังมีตัวเลือกโครงการที่หลากหลายกว่า ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายทุกระดับราคา ขณะที่บ้านเดี่ยวมีสัดส่วน 27% และทาวน์เฮ้าส์มีสัดส่วน 17%
ด้านราคาที่อยู่อาศัย ที่ได้รับความสนใจมากสุด คือ ไม่เกิน 3 ล้านบาท ขณะที่ราคาตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไปก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน มาจากราคาที่ดินในกรุงเทพฯ ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ศักยภาพในการเติบโตสูงตามดีมานด์ในตลาดจึงทำให้ราคาที่อยู่อาศัยต้องปรับขึ้นตามต้นทุนใหม่เช่นกัน โดยราคาที่อยู่อาศัยที่ชาวกรุงเทพฯ สนใจซื้อมากที่สุดได้แก่
– ราคา 1-3 ล้านบาท สัดส่วน 33%
– ราคามากกว่า 10 ล้านบาท สัดส่วน 21%
– ราคา 3-5 ล้านบาท และ 5-10 ล้านบาท สัดส่วนเท่ากันอยู่ที่ 20%
8. ชาวกรุง 9 ใน 10 อยากเช่าคอนโด-ค่าเช่าไม่เกิน 20,000 บาท
กรุงเทพฯ มีประชากรจำนวนมากทั้งคนกรุงเทพฯ เองและกลุ่มประชากรแฝง ส่งผลให้ความต้องการเช่าที่อยู่อาศัยสูงตามไปด้วย เนื่องจากมีความยืดหยุ่นตอบโจทย์ผู้ที่ไม่ได้ต้องการตั้งถิ่นฐานเป็นการถาวรหรือมีแผนโยกย้ายในอนาคต ซึ่งคอนโด ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในสังคมเมืองมากที่สุด
เห็นได้ชัดจากการที่เกือบ 9 ใน 10 ของผู้เช่าที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ สนใจเช่าคอนโดมากที่สุด ด้วยสัดส่วน 87% ขณะที่ที่อยู่อาศัยแนวราบยังมีความต้องการเช่าอยู่บ้าง โดยบ้านเดี่ยวมีสัดส่วนเพียง 7% ส่วนทาวน์เฮ้าส์มีสัดส่วน 6%
ค่าเช่าต่อเดือนที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในกรุงเทพฯ มีความคล้ายคลึงกับภาพรวมทั่วประเทศ โดย 59% สนใจค้นหาที่อยู่อาศัยเพื่อเช่า อัตราค่าเช่าไม่เกิน 20,000 บาท/เดือนมากที่สุด สอดคล้องกับสภาพคล่องทางการเงินและความสามารถในการใช้จ่ายของผู้บริโภคในเวลานี้
– ค่าเช่า 10,000-20,000 บาท/เดือน สัดส่วน 37%
– ค่าเช่ามากกว่า 30,000 บาท/เดือน สัดส่วน 25%
– ค่าเช่าไม่เกิน 10,000 บาท/เดือน สัดส่วน 22%
9. รถไฟฟ้าสายสีชมพูดัน “นนทบุรี” ครองแชมป์ทำเลซื้อ-เช่ายอดนิยมโซนปริมณฑล
การพัฒนาระบบคมนาคมอย่างโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย ส่งผลให้ความต้องการที่อยู่อาศัยในจังหวัดปริมณฑล (ประกอบด้วย นครปฐม,นนทบุรี,ปทุมธานี,สมุทรปราการ และสมุทรสาคร) มีแนวโน้มเติบโตตามไปด้วย
โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี เชื่อมต่อการเดินทางมายังจังหวัดนนทบุรี ถือเป็นปัจจัยบวกที่ส่งเสริมให้โครงการอสังหาฯ ในพื้นที่นี้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ส่งผลให้อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี กลายเป็นเขตปริมณฑลที่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้ซื้อและผู้เช่ามากที่สุดในรอบปีนี้
5 ทำเลในเขตปริมณฑลที่ได้รับความสนใจซื้อมากที่สุด
1. อำเภอเมืองนนทบุรี นนทบุรี
2. อำเภอบางพลี สมุทรปราการ
3. อำเภอเมืองสมุทรปราการ สมุทรปราการ
4. อำเภอปากเกร็ด นนทบุรี
5. อำเภอลำลูกกา ปทุมธานี
5 ทำเลในเขตปริมณฑลที่ได้รับความสนใจเช่ามากที่สุด
1. อำเภอเมืองนนทบุรี นนทบุรี
2. อำเภอเมืองสมุทรปราการ สมุทรปราการ
3. อำเภอเมืองปากเกร็ด นนทบุรี
4. อำเภอบางพลี สมุทรปราการ
5. อำเภอคลองหลวง ปทุมธานี
10. สรุปภาพรวมความต้องการซื้อที่อยู่อาศัย-ตลาดเช่า-ราคายอดนิยมในเขตปริมณฑล
ประเภทที่อยู่อาศัยแนวราบได้รับความสนใจซื้อมากที่สุดในเขตปริมณฑล บ้านเดี่ยวสัดส่วน 48% ตามมาด้วยทาวน์เฮ้าส์ 31% และคอนโด 21%
จากต้นทุนราคาที่ดินที่ถูกกว่าในกรุงเทพฯ จึงเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ผู้บริโภคหันมาเลือกซื้อที่อยู่อาศัยแถบชานเมืองมากขึ้น โดยราคาที่อยู่อาศัยในเขตปริมณฑลที่มีความสนใจซื้อมากที่สุดได้แก่
– ราคา 1-3 ล้านบาท สัดส่วน 46%
– ราคา 3-5 ล้านบาท สัดส่วน 22%
– ราคา 5-10 ล้านบาท สัดส่วน 14%
ประเภทอสังหาฯ ที่ได้รับความสนใจเช่าในเขตปริมณฑล คอนโดฯ ยังครองมากที่สุด สัดส่วน 60% ขณะที่ที่อยู่อาศัยแนวราบอย่างบ้านเดี่ยว 22% และทาวน์เฮ้าส์ 19%
ค่าเช่าต่อเดือนที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในเขตปริมณฑล พบว่ามากกว่าครึ่งให้ความสนใจราคาไม่เกิน 10,000 บาท สะท้อนให้เห็นว่าค่าครองชีพในเขตปริมณฑลยังคงอยู่ในระดับเหมาะสม ไม่มีปัจจัยกดดันให้ระดับค่าเช่าที่อยู่อาศัยพุ่งสูงจนเกินเอื้อม ถือเป็นจุดเด่นที่ดึงดูดให้ผู้บริโภคขยับขยายมาอยู่เขตปริมณฑลมากขึ้น
– ค่าเช่าไม่เกิน 10,000 บาท/เดือน สัดส่วน 52%
– ค่าเช่า 10,000-20,000 บาท/เดือน สัดส่วน 27%
– ค่าเช่ามากกว่า 30,000 บาท/เดือน สัดส่วน 11%
ติดตามพวกเราได้ที่ LINE