HomePR Newsการ์ทเนอร์เผย 4 เทรนด์ด้านการควบรวมและซื้อกิจการ’67

การ์ทเนอร์เผย 4 เทรนด์ด้านการควบรวมและซื้อกิจการ’67

แชร์ :

การ์ทเนอร์เผยเทรนด์ด้านการควบรวมและซื้อกิจการ หรือ Mergers and Acquisitions (M&A) ในปี 2567 พบมีการนำ AI มาปรับปรุงกระบวนการ M&A การเข้าซื้อกิจการในธุรกิจกลุ่ม AI และสำรวจสภาพแวดล้อมของกฎระเบียบที่ซับซ้อนเพิ่มมากขึ้น

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

มาร์ค แครอล รองประธานฝ่ายวิจัยของการ์ทเนอร์ กล่าวว่า “การควบรวมกิจการทั่วโลกยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง แม้จะลดลง 50% จากจุดสูงสุดที่เป็นประวัติการณ์ในปี 2564 โดยความท้าทายทางเศรษฐกิจมหภาคและกฎระเบียบเป็นแรงเสริมของแนวโน้มดังกล่าว ซึ่งการ์ทเนอร์พบว่า มีการมุ่งเน้นไปที่เทคโนโลยีใหม่ ๆ โดยเฉพาะ AI ที่ช่วยให้ผู้บริหารสามารถพาองค์กรกลับเข้าสู่ตลาด M&A ได้อีกครั้งในปีหน้า”

ทั้งนี้ เทรนด์ที่การ์ทเนอร์เปิดเผยเกี่ยวกับการควบรวมและการซื้อกิจการประกอบด้วย

เทรนด์ที่ 1: ความคลุมเครือทางเศรษฐกิจมหภาคปลดล็อกโอกาสการควบรวมกิจการทางเทคโนโลยี

การ์ทเนอร์ระบุว่าความคลุมเครือทางเศรษฐกิจมหภาคจะยังคงมีอยู่ในปีหน้า โดยมีสัญญาณบวกและลบปะปนกัน ซึ่งส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อ ภาวะเศรษฐกิจถดถอย การจ้างงาน ต้นทุนของเงินลงทุน และความเชื่อมั่นของธุรกิจและผู้บริโภค ซึ่งในแง่ของเทคสตาร์ทอัพที่มีมูลค่าสูง นอกจากจะต้องต่อสู้เพื่อการระดมทุนรอบถัดไป ก็พบว่ามีการมองหาทางเลือกอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงการเปิดให้เข้าซื้อกิจการโดยบริษัทขนาดใหญ่ที่มีเงินทุนและอยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน หรือ Strategic Buyers

การ์ทเนอร์แนะนำว่าองค์กรที่มีเงินทุนควรใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ โดยการเข้าซื้อกิจการธุรกิจเทคโนโลยีขนาดเล็กหรือที่เรียกว่า Techquisitions นั่นเอง

เทรนด์ 2: การใช้ AI จะเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการการควบรวมและเข้าซื้อกิจการ

การ์ทเนอร์ระบุว่า การใช้ AI จะมีผลอย่างมากต่อความเร็ว และประสิทธิภาพโดยรวมของกระบวนการควบรวมกิจการ โดยการ์ทเนอร์แนะนำให้ใช้ AI ในกระบวนการ M&A แบบภายในก่อน เพื่อปรับปรุงกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับหนังสือแสดงเจตจำนง สัญญาการตรวจสอบประเมินสถานะของกิจการ สัญญาหลักที่มีผลผูกพันตามกฎหมาย และการเจรจาข้อตกลงร่วมกันในการโอนย้ายธุรกิจหรือ TSA รวมถึงการต่ออายุและการรวมสัญญา

เทรนด์ที่ 3: ต้องใช้แนวทางใหม่ ๆ เพื่อควบรวมธุรกิจ AI

แม้ว่าการควบรวมกิจการของธุรกิจ AI ยังไม่ได้รับความนิยมสำหรับองค์กรต่าง ๆ แต่การ์ทเนอร์เชื่อว่าการที่องค์กรต่างมุ่งให้ความสำคัญด้านเทคโนโลยีจะนำไปสู่การสร้างข้อตกลงหรือดีลธุรกิจมากมายในปี 2567 จากการสำรวจความคิดเห็นของซีอีโอและผู้บริหารธุรกิจของการ์ทเนอร์ ประจำปี 2566 พบว่า AI เป็นเทคโนโลยีสำคัญที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมที่สุด การ์ทเนอร์แนะนำว่าการเข้าซื้อธุรกิจ AI จะเป็นกลยุทธ์ธุรกิจที่สำคัญในปีหน้า ส่วนองค์กรที่ขาดทักษะหรือมีเวลาจำกัดในการพัฒนาความสามารถด้วยตนเองสามารถเลือกใช้กลยุทธ์ M&A เพื่อเข้าถึงเทคโนโลยีแทนได้

เทรนด์ที่ 4: กฎระเบียบและการตรวจสอบที่เข้มข้นขัดขวางการควบรวมกิจการขนาดใหญ่

การ์ทเนอร์คาดว่า การตรวจสอบกฎระเบียบในดีล M&A โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านผูกขาดทางการค้าและความมั่นคงของชาติกำลังทวีความเข้มข้นเพิ่มขึ้นและจะเป็นปัจจัยสำคัญขัดขวางดีล M&A ขนาดใหญ่ในปี 2567 อย่างไรก็ตามแนวโน้มนี้กลับเพิ่มความน่าสนใจในการดำเนินการดีลข้อตกลง M&A กับบริษัทขนาดเล็กและบริษัทหลากหลายในอุตสาหกรรมจำนวนมาก ที่สามารถสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันในสภาพแวดล้อมนี้


แชร์ :

You may also like