HomeBrand Move !!Haier ชี้กำลังซื้อ “ตลาดกลาง-บน” ยังแกร่ง คาด “แอร์” ปีหน้าแข่งเดือดบนออนไลน์

Haier ชี้กำลังซื้อ “ตลาดกลาง-บน” ยังแกร่ง คาด “แอร์” ปีหน้าแข่งเดือดบนออนไลน์

ตั้งเป้าขึ้นแท่นเบอร์หนึ่ง "เครื่องใช้ไฟฟ้าไทย" ปี 2569

แชร์ :

ภาพสะท้อนสังคมไทย Haier (ไฮเออร์) เปิดยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้า พบสินค้ากลุ่มระดับกลาง – บน ยังเติบโตได้ดี ส่งผลให้บริษัทมียอดขายสินค้าในกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นถึง 20% ขณะที่สินค้ากลุ่มราคาระดับกลาง – ล่างเริ่มติดขัด คาดปีหน้ายอดขายโดยรวมอาจลดลง 3% โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลยังไม่มีความชัดเจน

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

คุณธเนศร์ บินอาซัน รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงภาพรวมของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในปีนี้ว่า เติบโตขึ้น 8-10% เมื่อเทียบกับภาพรวมตลาดในปี 2565 โดยไฮเออร์ประเทศไทย คาดการณ์ว่าจะปิดยอดขายปีนี้อยู่ที่ 9,070 ล้านบาท และได้เปิดเผยยอดขายของสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในแต่ละหมวด ดังต่อไปนี้

  • เครื่องปรับอากาศ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เรือธงของบริษัท สร้างยอดขายรวมกว่า 4,000 ล้านบาท (เติบโต 12%) มียอดขายเป็นอันดับ 1 ในตลาดเชิงปริมาณ
  • ตู้เย็น ยอดขายรวมคิดเป็น 1,500 ล้านบาท มีส่วนแบ่งทางการตลาดเชิงปริมาณเป็น 12.9%
  • เครื่องซักผ้า กวาดยอดขายรวมเกือบ 1,000 ล้านบาท
  • ตู้แช่ ยอดขายรวมคิดเป็น 900 ล้านบาท มีส่วนแบ่งทางการตลาดถึง 38% และยอดขายเป็นอันดับ 1 ของตลาดตู้แช่ประเทศไทย
  • ทีวี ยอดขายรวม 800 ล้านบาท
  • เครื่องครัว มียอดขายเติบโตจากปีที่แล้ว ถึง 62%
  • เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก ยอดขายรวม 250 ล้านบาท
  • เครื่องทำน้ำอุ่น ยอดขายรวมคิดเป็น 313 ล้านบาท

ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า’67 เมื่อร้านสะดวกซื้อกระทบยอดขาย “ตู้เย็น”

ด้านคุณธนาพงศ์ ศิริรัตน์อัสดร ผู้อำนวยการฝ่ายขาย จาก บริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงรูปแบบการแข่งขันที่จะเปลี่ยนไปในปี 2024 ว่า มาจากหลายปัจจัย ได้แก่

  • ความแพร่หลายของร้านสะดวกซื้อในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่เริ่มกระทบต่อพฤติกรรมผู้บริโภค Gen Y และ Gen Z โดยพบว่า “ตู้เย็น” เริ่มมีความสำคัญลดลงสำหรับผู้บริโภคกลุ่มดังกล่าว เนื่องจากสามารถหาซื้ออาหารได้สะดวกขึ้น
  • แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เช่น ลาซาด้า มีการเพิ่มบริการติดตั้งเครื่องปรับอากาศลงไปด้วย ทำให้บริษัทผู้ผลิตเครื่องปรับอากาศสามารถเข้ามาแข่งขันได้มากขึ้น
  • รูปแบบการแข่งขันของตลาดเครื่องปรับอากาศในปี 2567 คือเรื่องของ “ราคา” โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศที่ต่ำกว่า 10,000 BTU
  • ตู้แช่มีโอกาสสร้างยอดขายได้มากขึ้น เนื่องจากกลุ่ม Gen Y – Gen Z ออกมาประกอบธุรกิจขายอาหารเป็นอาชีพที่ 2 กันมากขึ้น ทำให้ต้องซื้อตู้แช่ไว้แช่วัตถุดิบ
  • เครื่องใช้ไฟฟ้าในยุคต่อไปต้องให้ความสำคัญกับสุขภาพ และความยั่งยืนมากขึ้น เช่น มีฟีเจอร์กรองอากาศ ฟีเจอร์การทำความสะอาดตัวเอง หรือการระบุว่าสามารถกรองเชื้อ Covid-19 ได้ เป็นต้น

คุณธนาพงศ์ ศิริรัตน์อัสดร ผู้อำนวยการฝ่ายขาย จาก บริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด

กลยุทธ์’67 เน้น “กีฬา-ออนไลน์-สินค้าสุขภาพ”

คุณธเนศร์ ยังได้กล่าวถึงกลยุทธ์ทางการตลาดของ ไฮเออร์ ประเทศไทย ในปี 2567 ว่า มีแผนจะใช้งบด้านการตลาดกว่า 1 พันล้านบาทสำหรับการทำกิจกรรมทางการตลาดให้กับแบรนด์ ไฮเออร์ และ คาซาร์เต้ โดยในฝั่งของแบรนด์ไฮเออร์นั้นจะเน้นที่สุขภาพจากเทคโนโลยีต่าง ๆ ของสินค้าไฮเออร์ และจัดกิจกรรม Sport Marketing ในภาพที่ใหญ่ขึ้น เช่น การจัดงานในระดับ Southeast Asia

ส่วนในฝั่งของแบรนด์คาซาร์เต้นั้น จะใช้ KOL และ KOC ระดับบน มาบอกเล่าประสบการณ์การใช้สินค้าคาซาร์เต้มากยิ่งขึ้น และจะมีการจัดกิจกรรม Exclusive Event และเชิญลูกค้ามาร่วมกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งกิจกรรมกับ KOLs รุ่นใหม่ เพื่อให้สินค้าเข้าถึงกลุ่ม Gen Y – Z

นอกจากกลยุทธ์ทางการตลาดของแบรนด์ไฮเออร์และคาซาร์เต้แล้วนั้น ในปี 2567 ไฮเออร์ยังมีอีก 2 กลยุทธ์ที่เพิ่มเข้ามาคือ กลยุทธ์การขยายช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าของไฮเออร์และคาซาร์เต้ให้กว้างขึ้น โดยมีสินค้าตั้งแต่ระดับกลางไปจนถึงระดับไฮเอนด์ และอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่สำคัญคือการบริการหลังการขาย กับมาตรฐาน 210 Quick Service (จะติดต่อกลับหาลูกค้าภายใน 2 ชั่วโมงหลังจากพนักงานรับเรื่องผ่านทาง Haier Care 1789 จากนั้นสรุปแนวทางแก้ไขให้ลูกค้าภายใน 1 วัน และแต่ละวันงานค้างต้องเป็น 0 มีศูนย์ซ่อมบริการรวมกว่า 187 ศูนย์ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 10%)

ทิศทางเศรษฐกิจไทย ปัจจัยบวก-ลบปี’67

ผู้บริหารไฮเออร์ยังได้ให้ทัศนะเกี่ยวกับตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมถึงผลกระทบจากเศรษฐกิจ ที่อาจไม่ส่งผลดีนักต่อการเติบโตในปีหน้าว่าเริ่มเห็นผลกระทบจากธุรกิจผ่อนสินค้า ซึ่งเป็นตลาดของผู้บริโภคที่อาจไม่มีกำลังซื้อมากนัก โดยในปี 2565 ตลาดดังกล่าวถือว่าเติบโตได้ดี แต่เมื่อเข้าสู่ปี 2566 พบว่า ดีลเลอร์ หรือตัวแทนที่ปล่อยสินเชื่อเริ่มมีความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น รวมถึงมีการปรับเพดานเงินดาวน์เพิ่มขึ้นเพื่อลดความเสี่ยง ในส่วนนี้ ไฮเออร์จึงอาจมีการปรับโมเดลธุรกิจด้วยเช่นกัน

ส่วนปัจจัยบวกของปี 2567 ก็พบว่ามีเช่นกัน โดย คุณธเนศร์ มองว่า ตลาดอาจเติบโตได้มากขึ้นจาก 6 ปัจจัยนี้ ได้แก่

  • การไม่หวังพึ่งพานักท่องเที่ยวจีน และกระตุ้นให้คนไทยกลับมาท่องเที่ยวกันเองภายในประเทศมากขึ้น
  • สภาพอากาศที่ร้อนมากขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีต่อยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้า
  • โอกาสใหม่ ๆ ในการขยายช่องทางการตลาด ทั้งบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ หรือการขยายตลาดไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว กัมพูชา และเมียนมาร์
  • การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ
  • การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐอเมริกาที่อาจทำให้เงินลงทุนไหลออกจากสหรัฐอเมริกามากขึ้น
  • ราคาพลังงานที่มีแนวโน้มจะปรับตัวลดลง

“จากตัวเลขทั้งหมดในยอดขายของปี 2566 และคาดการณ์ยอดขายกว่า 9,070 ล้านบาทในปี 2566 แล้ว ปีนี้ยังเป็นปีที่เครื่องปรับอากาศไฮเออร์ได้ขยับขึ้นเป็น “ผู้นำอันดับ 1” ในตลาด โดยมีส่วนแบ่งมากถึง 12.9% ส่วนตู้เย็น เราก็ขยับเป็นท็อป 3 ของตลาดไทยเช่นกัน และเราตั้งเป้าด้วยว่า ในปี 2569 เราจะเป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าอันดับหนึ่งของประเทศไทย ด้วยยอดขาย 22,000 ล้านบาท” คุณธเนศร์กล่าวปิดท้าย


แชร์ :

You may also like