อิปซอสส์ (Ipsos) ผู้นำระดับโลกด้านการวิจัยตลาดและสำรวจความคิดเห็นผู้บริโภค ได้สำรวจความคิดเห็นผู้บริโภคต่อเนื่องใน 33 ประเทศทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย จำนวน 6,000 ตัวอย่าง อายุ 18 ปีขึ้นไป
คุณอุษณา จันทร์กล่ำ กรรมการผู้จัดการ อิปซอสส์ ได้สรุปรายงานการวิจัยเรื่อง What worries Thailand ช่วงครึ่งปีหลัง 2566 และแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในปี 2567 ดังนี้
– ความกังวลใจสูงสุด 5 อันดับแรกของคนไทยยังคงเป็น 1. ความยากจนและความไม่เท่าเทียมทางสังคม 43%, 2. การทุจริตทางการเงินหรือการเมือง 40%, 3. ภาวะเงินเฟ้อ 35%, 4. การว่างงาน 24% และ 5. ความรุนแรงและอาชญากรรม 23%
– นักการเมือง ยังคงเป็นอาชีพที่คนไว้วางใจ “น้อยที่สุด” ในโลกรวมถึงในประเทศไทย 48% รองลงมาคือ ตำรวจ 47% และอาชีพในเครื่องแบบ 45%
– อาชีพที่น่าเชื่อถือมากสุด คือ แพทย์ 66% รองลงมา คือ นักวิทยาศาสตร์ 59% และ ผู้พิพากษา 48%
“การที่อาชีพในเครื่องแบบที่ส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งมีหน้าที่ดูแลประชาชน แต่กลับไม่ได้รับความน่าเชื่อถือ เป็นสิ่งที่สะท้อนว่าสังคมจะเดินต่อไปอย่างไร”
ผลสำรวจยังพบว่าคนไทย 80% เห็นด้วยว่าโลกโหดร้ายขึ้นทุกวัน คือเป็นมุมมองที่มองโลกในแง่ร้าย ใช้ชีวิตอยู่ยากขึ้น จากรู้สึกอันตรายรอบตัว ที่เห็นได้ชัด ก็คือภัยจากแก๊ง Call Center ที่ระบาดหนักมาก
โดย 83% เห็นว่าภัยคุกคามที่เป็นกังวล คือ ข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล ทำให้เกิดภัยจากแก๊ง Call Center ถือเป็นภัยใกล้ตัวที่เกิดขึ้นกับคนในครอบครัว และต้องการให้ภาครัฐและเอกชน มีแผนในการกำจัดพวกมิจฉาชีพเหล่านี้
เศรษฐกิจปี 67 ยัง “แย่” สินค้าขึ้นราคา-ค่าครองชีพพุ่ง
ครึ่งหนึ่ง (50%) ของประชากรชาวไทย เห็นว่าสภาวะเศรษฐกิจเข้าขั้น “แย่” (ลดลงจาก 57% ในเดือนเมษายน 2566) โดย 61% มีสมาชิกในครอบครัวและคนใกล้ตัว ตกงาน แต่ 48% คาดว่าเศรษฐกิจในพื้นที่ของตนรวมถึงสถานะทางการเงินส่วนบุคคลจะแข็งแกร่งขึ้นในอีก 6 เดือนข้างหน้า
20% บอกว่ามีความยากลำบากทางด้านการเงิน (ลดลง 5 จุด เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2566)
26% ยอมรับไม่ได้กับธุรกิจและผู้ค้าปลีกที่ลดขนาดสินค้า แม้ราคาคงเดิมหรือที่เรียกว่า Shrinkflation
59% คิดว่าค่าใช้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงจะเพิ่มขึ้นในปี 2567 (ลดลง 6 จุดจากเดือนเมษายน 2566)
12% อัตราเงินเฟ้อจะไม่กลับสู่ภาวะปกติ (ลดลง 2 จุดจากเดือนเมษายน 2566)
15% คิดว่ามาตรฐานการครองชีพของพวกเขาจะเพิ่มสูงขึ้นอีกในปี 2567 (ลดลง 5 จุดจากเดือนเมษายน 2566)
ด้านค่าใช้จ่าย ผลการศึกษาพบว่า คนไทยคาดว่าสินค้าและบริการต่างๆ จะมีราคาสูงขึ้นในอีก 6 เดือนข้างหน้า
61% สินค้าอาหาร
61% ของใช้ในครัวเรือน
59% ค่าสาธารณูปโภค
59% ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง
41% สังสรรค์นอกบ้าน
31% ค่าสมัครบริการสมาชิก
36% ดอกเบี้ย/ค่าเช่า
คนไทยเชื่อว่าค่าครองชีพที่สูงขึ้น มาจากปัจจัยหลักดังนี้
77% ระดับอัตราดอกเบี้ยในประเทศ
77% นโยบายของรัฐบาลแห่งชาติ
76% สภาวะของเศรษฐกิจโลก
75% คนงานเรียกร้องค่าจ้างเพิ่มขึ้น
74% ธุรกิจทำกำไรมากเกินไป
ปี 67 จับตา 6 กลุ่มธุรกิจกระทบอย่างไร
จากแนวโน้มเศรษฐกิจปี 2567 ที่ยังคงไม่แน่นอน “อิปซอสส์” ได้สำรวจผลกระทบภาคธุรกิจ 6 กลุ่ม
1. ธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค (FMCG) : แม้จำนวนคนที่คาดว่าค่าใช้จ่ายในการซื้ออาหารและของใช้ในบ้านจะสูงขึ้นในปี 2567 จะมีสัดส่วนที่ต่ำที่สุดตั้งแต่เริ่มทำการสำรวจ แต่แบรนด์ยังคงต้องระมัดระวังวิธีการลดต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นเพื่อรักษากำไร
46% ของผู้ตอบแบบสอบถามจาก 33 ประเทศทั่วโลกบอกว่า พวกเขารับไม่ได้หากธุรกิจและร้านค้าปลีกต่างๆ ลดขนาดผลิตภัณฑ์ของตนลงในขณะที่ยังคงราคาไว้เท่าเดิมเพื่อตอบสนองต่อต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น
62% เชื่อว่าการที่ ‘ธุรกิจทำกำไรมากเกินไป’ เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่โลกกำลังเผชิญกับวิกฤติค่าครองชีพ แบรนด์จึงต้องให้ความสำคัญกับ ‘ประสบการณ์’ (Experience) ของผู้บริโภคมากขึ้น เพื่อให้มั่นใจว่าพวกเขาจะไม่รู้สึกเหมือนโดนเอาเปรียบมากจนเกินไป
2. ธุรกิจบริการ (Hospitality): ผู้บริโภคในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย คาดการณ์ว่าค่าใช้จ่ายในการออกไปสังสรรค์นอกบ้าน (ตามร้านอาหาร, บาร์, โรงภาพยนต์, ฯลฯ) จะสูงขึ้นในปี 2567 ทำให้ประสบการณ์ (Experience) ที่แบรนด์ต่างๆ นำเสนอให้ลูกค้ามีความสำคัญมากขึ้น
3. ค้าปลีก (Retail): ผู้บริโภคที่คิดว่ารายได้หลังหักภาษีหรือรายรับที่จับจ่ายได้จะเพิ่มขึ้นใน ปี 2567 มีจำนวนมากขึ้น ขณะที่จำนวนคนที่คาดว่าค่าใช้จ่ายในการซื้ออาหารและของใช้ในบ้านในปี 2567 มีสัดส่วนต่ำที่สุดตั้งแต่เริ่มทำการสำรวจ Ipsos Inflation Monitor
ผู้คนเริ่มสังเกตเห็นขนาดสินค้าที่ลดลงตามร้านค้าและซูเปอร์มาร์เก็ต และมีผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยในหลายประเทศที่รับไม่ได้กับเรื่องนี้ มีกลุ่มธุรกิจค้าปลีกในหลายประเทศที่เข้าข้างผู้บริโภคและเริ่มจับตามองผู้ผลิตมากขึ้น
4. บริการด้านการเงิน (Financial services) : อัตราดอกเบี้ยและภาวะเศรษฐกิจโลกถูกมองว่าเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดวิกฤติค่าครองชีพ มีคนจำนวนน้อยลงที่คาดว่าอัตราดอกเบี้ยในประเทศของพวกเขาจะสูงขึ้น
คนที่คาดว่าค่าผ่อนหรือเช่าที่อยู่อาศัยจะเพิ่มขึ้น มีจำนวนไม่ต่างไปจากเดิมสักเท่าไหร่ อาจเห็นการรีไฟแนนซ์น้อยลงในประเทศที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบคงที่ ความกังวลทางด้านเศรษฐกิจโดยรวมในปี 2567 ทำให้ออมเงินมากขึ้นเพื่อเตรียมรับมือกับช่วงคับขันที่อาจเกิดขึ้น
5. กลุ่มสาธารณูปโภค (Utilities) : โดยเฉลี่ย 38% ของผู้ตอบแบบสอบถามใน 33 ประเทศ คาดว่าค่าบริการสาธารณูปโภคจะเพิ่มขึ้นในช่วง 6 เดือนข้างหน้า ซึ่งไม่ค่อยต่างจากการสำรวจในเดือนเมษายน 2566 แต่ลดลงถึง 9% จากปี 2565
มีผู้คนในหลายประเทศที่กำลังเข้าสู่ฤดูหนาวจำนวนมากขึ้น โดยเฉพาะชาวยุโรป ที่คาดว่าค่าใช้จ่ายสำหรับพลังงานจะเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับผลสำรวจเมื่อเดือนเมษายน 2566
6. กลุ่มสื่อและบันเทิง (Media and Entertainment) : โดยเฉลี่ย 44% ของผู้ตอบแบบสอบถามใน 33 ประเทศ คาดว่า “ค่าสมัครบริการ” (Subscriptions) ต่างๆ จะเพิ่มขึ้นในปี 2567 (เพิ่มขึ้น 4% จากการผลสำรวจรอบก่อนในเดือนเมษายน 2566) และเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดตั้งแต่เริ่มทำการสำรวจ Ipsos Inflation Monitor การที่มีสมาชิกบริการสตรีมมิ่งเริ่ม “ลดลง” ในหลายประเทศ เพราะมองว่าเป็นบริการไม่จำเป็น ทำให้ความคุ้มค่า เป็นสิ่งที่ผู้ให้บริการควรคำนึงถึงมากขึ้นในปี 2567
ปี 2566 ในมุมมองของผู้บริโภคถือเป็นปีแห่งการเอาตัวรอด จากความกังวลสถานการณ์โลกทั้งเศรษฐกิจและสงครามอิสราเอล รวมทั้งเศรษฐกิจ การเมืองในประเทศ คนไทยจึงมองว่าปี 2567 ยังเป็นอีกปีที่ต้องเตรียมตัวต่อสู้ต่อไป แต่ก็มีความหวังว่าจะดีขึ้น
อ่านเพิ่มเติม