“บอสณวัฒน์” ลั่นระฆังซื้อขายหุ้นนางงามมิสแกรนด์ (MGI) ในตลาดหลักทรัพย์ mai หมวดสินค้าอุปโภคบริโภค (Commerce) วันแรก (14 ธ.ค.) เปิดตลาดที่ราคา 6.25 บาท เพิ่มขึ้น 26% จากราคา IPO 4.95 บาท
ราคาซื้อขายช่วงครึ่งวันแรก สูงสุดที่ราคา 7.55 บาท และต่ำสุดที่ 6.20 บาท
หุ้น MGI ของคุณณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ได้ขายหุ้น IPO จำนวน 60 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกิน 28.57% ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ที่ราคา 4.95 บาท/หุ้น คิดเป็นมูลค่า 297 ล้านบาท (ณ ราคา IPO)
ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ฯ พบรายชื่อ 10 อันดับแรกผู้ถือหุ้น MGI สูงสุด มีชื่อของ คุณอิงฟ้า วราหะ ถือหุ้นจำนวน 2,000,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 0.95% คุณชาล็อต ออสติน ถือหุ้นจำนวน 2,000,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 0.95%
MGI ถือเป็นบริษัทแรกในประเทศไทยและในตลาดโลกที่นำเวทีนางงามเข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ได้สำเร็จ โดยมีธุรกิจการประกวดนางงามเป็น 1 ใน 4 กิจกรรมที่ทำรายได้ให้ MGI และเป็นบริษัทแรกที่มีเครือข่าย 77 เวที 77 จังหวัดในประเทศไทย และขายลิขสิทธิ์ไปอีก 90 ประเทศทั่วโลก
จุดเด่นของ MGI คือเป็นผู้ก่อตั้งเวที MGI และ MGT จนเป็น 1 ใน 5 เวทีประกวด Grand Slam ระดับโลก MGI วางเป้าหมายก้าวสู่ผู้นำในอุตสาหกรรมนางงามโลก พร้อมต่อยอดธุรกิจบันเทิงและการค้า ซึ่งสอดคล้องกับสโลแกน “นับจากนี้ทุกพื้นที่มีแต่แกรนด์” (We Are Grand The One and Only)
สัดส่วนรายได้ของ MGI งวด 9 เดือนแรกของปี 2566 มาจากธุรกิจพาณิชย์ 40.86%, ธุรกิจประกวดนางงามมิสแกรนด์ 12.63%, ธุรกิจสื่อและบันเทิง 19.06%, ธุรกิจบริหารจัดการศิลปิน 23.12%, รายได้ค่าเช่าช่วง MGI Hall 3.51% และรายได้อื่น 0.82%
ย้อนดูรายได้ MGI
– ปี 2563 รายได้ 338 ล้านบาท กำไรสุทธิ 44.8 ล้านบาท
– ปี 2564 รายได้ 342 ล้านบาท กำไรสุทธิ 29.0 ล้านบาท
– ปี 2565 รายได้ 319 ล้านบาท กำไรสุทธิ 47.8 ล้านบาท
– ปี 2566 (ม.ค.-ก.ย.) รายได้ 432 ล้านบาท กำไรสุทธิ 77.1 ล้านบาท
สรุปปิดตลาดซื้อขายหุ้น GMI วันแรก (14 ธ.ค.) ราคาอยู่ที่ 8.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.55 บาท หรือ 71.72%