ตอกย้ำวิสัยทัศน์ Empowering All toward Inclusive Growth หรือ เติมเต็มโอกาส เพื่อทุกการเติบโตร่วมกัน ของบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ได้ทำให้เห็นภาพชัดเจนด้วยปฏิบัติการ Action กับการเปิดตัว พีทีที สเตชั่น แฟลกชิป วิภาวดี 62 (PTT Station Flagship วิภาวดี 62) ต้นแบบสถานีบริการแห่งอนาคต
พีทีที สเตชั่น แฟลกชิป วิภาวดี 62 สร้างบนพื้นที่ 10 ไร่ พื้นที่รีเทล 5,000 ตร.ม. เป็นต้นแบบสถานีบริการที่สะท้อนให้เห็นถึงแนวคิดในการดำเนินธุรกิจของ OR ที่พร้อมสร้างโอกาสให้ผู้คน ชุมชน สิ่งแวดล้อม เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน ตามแนวคิด SDG ในแบบของ OR ในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นการใช้พื้นที่สร้างส่วนร่วมกับชุมชน เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ผู้คน ชุมชน ตลอดจนการใช้เทคโนโลยีจัดการสถานีบริการให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
คุณดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เปิดเผยว่า พีทีที สเตชั่น แฟลกชิป วิภาวดี 62 ได้ผสมผสานแนวคิดการบริการจัดการแบบ SDG ในแบบของ OR ที่มุ่งไปสู่การเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน รวมทั้งนำเสนอระบบนิเวศของ OR (OR Ecosystem) ในธุรกิจของ OR และพันธมิตรได้อย่างครบวงจร ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ ด้วยสินค้าและบริการต่าง ๆ ที่มากขึ้น เพื่อเติมเต็มความสุขทุกคนได้มากกว่าเดิม และยังถือเป็นสถานีบริการต้นแบบสำหรับการออกแบบสู่การขยาย พีทีที สเตชั่น ในอนาคตอีกด้วย
แนวคิดการบริการจัดการตามแนวคิด SDG ตามแบบของ OR ที่อยู่ในสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น แฟลกชิป วิภาวดี 62 มีครบทั้ง 3 ด้าน ได้แก่
“S” หรือ “SMALL” มุ่งเน้นการให้โอกาสเพื่อคนตัวเล็ก โดยมีร้านไทยเด็ดต้นแบบ ที่สนับสนุนสินค้าชุมชนจากทั่วประเทศ ร้านภัทรพัฒน์ ที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ของมูลนิธิชัยพัฒนา และ “Common Space” หรือพื้นที่สนับสนุนกิจกรรมของชุมชนเพื่อให้ชุมชนมีรายได้อย่างยั่งยืน เป็นการเปิดพื้นที่ให้โอกาสกับเกษตรกร นำผลผลิตมาวางขาย ถือเป็นอีกพันธกิจการดูแลสังคมชุมชนของ OR
“D” หรือ “DIVERSIFIED” มุ่งเน้นการสร้างโอกาสเพื่อการเติบโตในทุกรูปแบบผ่านแฟลตฟอร์มต่าง ๆ ของ OR ที่มีศักยภาพ โดยสถานีบริการแห่งนี้มีร้านค้าจากแบรนด์ต่าง ๆ ทั้งในเครือ OR และพันธมิตร เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็น คาเฟ่ อเมซอน เท็กซัส ชิคเก้น พาคามาร่า และโอ้กะจู๋ เป็นต้น ปี 2567 เตรียมขยายธุรกิจใหม่ในกลุ่ม Health & Wellness ตามเมกะเทรนด์ในตลาดโลก
“G” หรือ “GREEN” มุ่งเน้นการสร้างสิ่งแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์ (Healthy Environment) โดย OR ได้นำเทคโนโลยีเข้ามาบริหารจัดการสถานีบริการแห่งนี้ให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงสร้างการมีส่วนร่วมให้กับผู้คนชุมชนร่วมดูแลสิ่งแวดล้อมไปด้วยกันเพื่อเสริมความมุ่งมั่นในเป้าหมายเรื่อง Carbon Neutrality ของ OR ไม่ว่าจะเป็น การใช้พลังงานอย่างยั่งยืนจากการออกแบบอาคารสอดแทรกเข้าไปในพื้นที่ธรรมชาติ ในรูปแบบ Green Station ร่วมกับเทคโนโลยีการติดตั้ง Solar Rooftop เพื่อใช้ภายในสถานีบริการและร้านค้าที่ OR ดำเนินการ พร้อมทั้งได้ติดตั้งระบบกักเก็บพลังงานผ่านแบตเตอรี่ (G-Box) จากกลุ่มบริษัทในเครือ NUOVO PLUS เพื่อจัดการการใช้พลังงานไฟฟ้าให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมทั้งอยู่ระหว่างการพัฒนาการนำเทคโนโลยี AI-CCTV for Customer Carbon ที่สามารถตรวจจับระยะเคลื่อนรถ และยี่ห้อรถ เพื่อคำนวณก๊าซ CO2 ที่เกิดขึ้นของผู้บริโภคที่ภายในสถานีบริการได้
นอกจากนี้ OR ยังสอดแทรกโครงการและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ร้านคาเฟ่ อเมซอน ใช้แก้วร้อนที่เป็นเป็น Bio degradable และการนำวัสดุเหลือใช้มาผลิตเป็นสินค้า (Upcycling Products) ได้แก่ เสื้อและผ้ากันเปื้อนของพนักงาน รวมไปถึงวัสดุตกแต่งร้าน เป็นต้น เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ผู้คนและชุมชน ให้เติบโตไปด้วยกันอย่างแท้จริง
คุณพิมาน พูลศรี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน OR เปิดเผยว่า พีทีที สเตชั่น แฟลกชิป วิภาวดี 62 เป็นต้นแบบสถานีบริการน้ำมันแห่งอนาคตโฟกัสไปที่ธุรกิจ Non-Oil 70-80% ตามไลฟ์สไตล์การใช้บริการของลูกค้าในยุคนี้ ไฮไลต์ที่เป็นจุดขายคือมีพื้นที่ค้าปลีกขนาดใหญ่ 5,000 ตร.ม. มากกว่าปั๊มไซส์กลาง 5-10 เท่า
พื้นที่รีเทลมีพาร์ทเนอร์กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม รวมทั้งธุรกิจบริการอื่น ๆ เปิดให้บริการรวม 30 แบรนด์ดัง โดยเป็นร้านอาหารและเครื่องดื่ม 70% และ Non Food 30% ตัวอย่างแบรนด์ดังที่เปิดให้บริการและมีความพิเศษกว่าสาขาอื่นๆ
– Café Amazon Concept Store พื้นที่ 2 ชั้น เป็นร้านคาเฟ่ อเมซอน รูปแบบพิเศษ Coffee X People ออกแบบเพื่อการใช้งานที่หลากหลายของผู้บริโภคที่มานั่งในร้าน โดยมี Specialty Bar สำหรับผู้สนใจกาแฟ มีพื้นที่สำหรับครอบครัว และพื้นที่ Co-Working Space รวมทั้งมีเมนูพิเศษเฉพาะสาขานี้
– ร้านกาแฟพาคามาร่า (Pacamara) เป็นสาขาแรกที่เปิดให้บริการในปั๊ม และเป็นสาขาแรกที่เสิร์ฟเมนูอาหารและเบเกอรี่
– ร้านโอ้กะจู๋ พื้นที่ 2 ชั้น รองรับลูกค้าได้กว่า 180 คน พร้อมบริการ Drive – Thru สาขาที่ 2 (สาขาแรกพีทีที สเตชั่น เวสต์วิลเลจ บางใหญ่) และเป็นสาขา Drive – Thru ในเมืองแห่งแรก เพื่อรองรับลูกค้าระหว่างเดินทางเข้าเมือง นอกจากนี้ยังมีบริการ Takeaway และ Delivery รวมทั้งมีเมนูพิเศษที่มากกว่าสาขาอื่น
นอกจากนี้ยังมีแบรนด์ร้านอาหารและเครื่องดื่มอื่น ๆ อีก เช่น Texas chicken, KAMU KAMU, Dairy Queen, Taco Bell, BOON TONG KEE, S&P, Black Canyon, Bake A Wish, Sweet Secret, Dunkin’ Donuts, ไก่ย่างนิตยา, หมูหม้อเทพ, เจียงลูกชิ้นปลา, โอซาว่า ราเมน, คาราอะเกะ เคียวได, Kleens station สถานีสุขภาพ
รวมทั้งกลุ่มธุรกิจบริการ เช่น ร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven, Otteri, Fit Auto, ท็อปเจริญ, โชว์รูม BYD
พีทีที สเตชั่น แฟลกชิป วิภาวดี 62 ยังเน้นเรื่องการให้บริการน้ำมันและพลังงาน ซึ่งเป็นความโดดเด่นของ พีทีที สเตชั่น มาโดยตลอด ตอบโจทย์การใช้พลังงานทุกรูปแบบ เพื่อรถทุกคัน ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์น้ำมันคุณภาพที่มีให้บริการอย่างครบครัน ทั้งเกรดพรีเมียม (Super Power) และเกรดมาตรฐาน (Xtra Save) และจุดชาร์จ EV Centralized Charger ที่สามารถให้บริการได้ 6 หัวชาร์จพร้อมกัน รองรับการชาร์จไฟสูงสุด 180 Kw อีกทั้งยังมีโชว์รูมรถ BYD ตามแนวโน้มความต้องการรถไฟฟ้า (EV) ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก
การเปิดโมเดลต้นแบบสถานีบริการแห่งอนาคตรูปแบบใหม่ “พีทีที สเตชั่น แฟลกชิป วิภาวดี 62” แห่งนี้ OR มีความตั้งใจให้เป็นพื้นที่แห่งความสุขที่จะเติมเต็มความสุขให้ทุกคนได้มากกว่าเดิม เพื่อตอกย้ำแนวคิด “Living Community” ที่ต้องการให้สถานีบริการ พีทีที สเตชั่น เป็นศูนย์กลางในการเติมเต็มทุกความสุขและเติบโตไปพร้อมกับชุมชนอย่างยั่งยืน