HomeBrand Move !!เปิดขุมกำลัง 4 โรงงาน “เครือสหพัฒน์” บนพื้นที่ 1.8 ไร่ เบื้องหลังอาณาจักร FMCG ของไทย กับก้าวใหม่สู่บทบาทผู้ผลิตสินค้าไร้คาร์บอน

เปิดขุมกำลัง 4 โรงงาน “เครือสหพัฒน์” บนพื้นที่ 1.8 ไร่ เบื้องหลังอาณาจักร FMCG ของไทย กับก้าวใหม่สู่บทบาทผู้ผลิตสินค้าไร้คาร์บอน

แชร์ :

SPC

“เครือสหพัฒน์” คืออีกหนึ่งองค์กรยักษ์ใหญ่สินค้าอุปโภค-บริโภคของไทย ที่มีอายุอานามยาวนานกว่า 81 ปี โดยตลอดเวลาเกือบศตวรรษที่ผ่านมาได้ปรับเปลี่ยนแผนงานและบริบทต่างๆ เพื่อให้สอดคล้องกับการสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปโดยเฉพาะในการดำเนินธุรกิจที่ก้าวเข้าสู่ยุคแห่ง “ความยั่งยืน” หรือการดำเนินธุรกิจแบบ Sustainable Development (SD)  ที่เข้ามาเป็นเรื่องใกล้ตัวมากขึ้น 

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

เพื่อรองรับเทรนด์แห่งความยั่งยืนของโลกยุคใหม่ “เครือสหพัฒน์”  จึงได้ปรับเปลี่ยนระบบการผลิตสินค้าทุกโรงงานที่อยู่ในสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์อาณาจักร 1,800 ไร่ ในอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี สู่บทบาทของผู้ดำเนินธุรกิจยุคใหม่ที่ก้าวสู่การเป็นอุตสาหกรรมสีเขียว ภายใต้นโยบาย “คนดี สินค้าดี สังคมดี” ที่ถือเป็นหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจ 

คุณธรรมรัตน์ โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “วิกฤตเศรษฐกิจในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมาส่งผลให้ภาคธุรกิจต้องปรับตัวให้พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงวิธีการบริหารธุรกิจ รวมถึงกระบวนการทำงานในทุกมิติ ให้องค์กรสามารถก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนได้ เพื่อให้เราสามารถก้าวสู่อนาคตอย่างยั่งยืน นอกจากการมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และช่องทางการจัดจำหน่ายให้ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค (Customer Focus) บริษัทฯ ยังได้บริหารงานโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และหลักธรรมาภิบาลในการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปด้วย (ESG: Environmental, Social, Governance)”

สำหรับโรงงานทั้ง 4 แห่งใช้ในการผลิต 4 สินค้าแบรนด์เรือธงของเครือสหพัฒน์ ประกอบไปด้วย น้ำยาซักผ้า และ ผงซักฟอก Essence ผ้าขนหนู “BSC BAMBOO” ผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าเด็ก Enfant (อองฟองต์) และเครื่องสำอาง PURE CARE BSC (เพียว แคร์ บีเอสซี) ซึ่งโรงงานแต่ละแห่งล้วนมีรายละเอียดแตกต่างกันออกไปโดยมีหลักการบริหารงานสำคัญคือการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และหลักธรรมาภิบาลในการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปด้วย (ESG: Environmental, Social, Governance) เป็นหัวใจสำคัญ เพื่อก้าวเข้าสู่ Net Zero ในปี 2593 ให้ได้

 

คุณธรรมรัตน์ โชควัฒนา

คุณธรรมรัตน์ โชควัฒนา

ส่อง 4 โรงงานหลัก ขุมกำลังสำคัญเครือสหพัฒน์สู่เจ้าแห่ง FMCG 

  • แบรนด์ Essence กับมาตรฐานโรงงานสีเขียวเพื่อสิ่งแวดล้อม

เริ่มต้นกันที่โรงงานที่ 1 แบรนด์น้ำยาซักผ้า และ ผงซักฟอก Essence ภายใต้การดูแลของ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด โรงงานผู้ผลิตสินค้าอุปโภคชั้นนำ ที่มีกระบวนการดำเนินงานภายใต้ระบบ Circular Economy พลังงานความร้อน น้ำ ไฟฟ้า สู่การใช้พลังงานอย่างยั่งยืน ตั้งอยู่ภายในสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้รับการรับรองอุตสาหกรรมสีเขียว ระดับที่ 4 : วัฒนธรรม  สีเขียว ในปี 2562  ตามโครงการของกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งแสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกองค์กร ตลอดห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ดำเนินการผลิตภายใต้ BCG ECONOMY MODEL โดยมี 3 ส่วนสำคัญได้แก่ 

  1.  โรงงานและสภาพแวดล้อมโดยรอบ ดำเนินการด้าน Green Economy Model โดยการชดเชยปริมาณปล่อยก๊าซเรือนกระจก จากการใช้พลังงานไฟฟ้าในการผลิตสินค้าทั้งหมดให้เท่ากับศูนย์ ด้วยคาร์บอนเครดิตจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (Grid Connected Solar PV)  ที่ได้รับรองจากโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (Thailand Voluntary Emission Reduction Program : T-VER)
  2. Plant ผลิตผงซักฟอก ผลิตภายใต้ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ทั้งการควบคุมคุณภาพของพลังงานความร้อน  พลังงานลม น้ำใช้ และของเสียจากการผลิต ให้หมุนเวียนนำกลับมาใช้ใหม่ให้ได้มากที่สุด (Renewable Resources) ส่งเสริมและลดการใช้พลาสติกด้วยช้อนตักผงซักฟอก ไม่ทิ้งสารตกค้างต่อสิ่งแวดล้อม ลดการใช้เม็ดพลาสติกได้ถึง 10.8 Ton/ปี ลดการปล่อย  ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ได้ถึง 20.3 TonCO2/ปี ทำให้ผลิตผงซักฟอกได้มีคุณภาพและช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากกว่า 1,500 ตันต่อปี
  3. Plant ผลิตน้ำยาซักผ้าแบบแกลลอน น้ำยาซัก ใช้สารประกอบที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ  มีเอนไซม์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำความสะอาดและลดการใช้สารเคมี นอกจากนี้ยังนำ Pigging System มาใช้ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ช่วยนำส่งหรือรีดของเหลวที่ตกค้างในท่อน้ำ ให้นำกลับมาใช้ได้อีก ลดการสูญเสียผลิตภัณฑ์ ลดการใช้ไอน้ำ และลดการใช้น้ำสำหรับล้างท่อ ในส่วนของแพคเกจจิ้ง เป็นขวด Light Weight ที่ลดการใช้เม็ดพลาสติกในการผลิต สามารถพับเพื่อทำลาย ช่วยลดพื้นที่ทิ้งขยะ ทั้งยังมีอักษร เบรลล์บนขวด เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้พิการทางสายตา เป็นต้น

 

  • โรงงาน “ราชาอูชิโน” กับ “BSC BAMBOO” นวัตกรรมผ้าขนหนู จาก “ไผ่” ธรรมดา สู่ “เส้นใยไผ่”

ต่อกันที่ โรงงานที่ 2 “ราชาอูชิโน” กับผลิตภัณ์ผ้าขนหนู “BSC BAMBOO” แบรนด์ภายใต้การดูแลของ BSC International (บีเอสซี อินเตอร์เนชั่นแนล) ซึ่งจัดจำหน่ายและทำการตลาดโดยบริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ผลิตโดย บริษัท ราชาอูชิโน จำกัด  ตั้งอยู่ภายในสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์  อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ที่ได้รับรางวัลและใบรับรอง ถึงระบบบริหารคุณภาพ ระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมและผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจากหลายองค์กร กับนวัตกรรมการผลิตผ้าขนหนู จาก “ไผ่” ธรรมดา สู่ “เส้นใยไผ่” ที่ผลิตจาก “ไผ่” ไม้พุ่มในสกุล วงศ์หญ้า (Poaceae) ซึ่งนับเป็นหญ้าชนิดที่ใหญ่ที่สุดในโลก สามารถพบได้ทั่วไปในทุกสภาพอากาศ กระจายตัวเติบโตอย่างรวดเร็วด้วยด้วยการแตกกอ ตามธรรมชาติ   โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งปุ๋ยหรือสารฆ่าแมลง และมีอายุเก็บเกี่ยวยาวนานตั้งแต่ 10-100 ปี

“BSC BAMBOO” มีคุณสมบัติเฉพาะของผ้าขนหนูที่ผลิตจากเส้นใยไผ่ ที่มีความอ่อนนุ่มสูง ยืดหยุ่น ไม่ทำให้เกิดการระคายเคือง ดูดซึมซับน้ำได้ดี ขณะเดียวกันก็แห้งไว อีกทั้งยังมี Bamboo Kun ที่เป็นสารสำคัญตามธรรมชาติที่อยู่ในเยื่อไผ่ ซึ่งมีคุณสมบัติในการต้านแบคทีเรียซึ่งสาเหตุของเชื้อโรคและกลิ่นอับชื้น มีอายุการใช้งานที่ยาวนานไม่เป็นขุยหรือหลุดร่วงแม้ซักบ่อย  ที่สำคัญอีกประการหนึ่ง หลังสิ้นสุดอายุการใช้งาน ยังสามารถย่อยสลายได้ในธรรมชาติโดยจุลินทรีย์และแสงแดด

 

  •  แบรนด์ Enfant รักลูกของคุณ รักษ์โลกของเรา เคียงข้างคุณแม่ดูแลลูกน้อยสู่ศตวรรษที่ 4

โรงงานที่ 3 กับผลิตภัณฑ์ Enfant  ผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าเด็ก ที่มีการคัดสรรวัตถุดิบจากธรรมชาติด้วยความใส่ใจ ตั้งแต่การตัดแพทเทิร์นด้วยเครื่องจักรแบบใหม่ ที่ทำให้เหลือชิ้นส่วนของผ้าเหลือใช้น้อยที่สุด การเย็บด้วยความประณีต การตรวจจับโลหะด้วยเครื่องจักรที่มีความแม่นยำ เพื่อความปลอดภัยของลูกน้อย ไปจนถึงระบบการคัดแยก ขนส่ง อยากเป็นระเบียบและรวดเร็ว เพื่อให้ของถึงมือคุณแม่และลูกได้ตามความต้องการ จนได้รับการรับรองโรงงานอุตสาหกรรมสีเขียว ระดับที่ 4 จากกระทรวงอุตสาหกรรม และได้รับการรับรองโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ Eco Factory ปี 2560 และปี 2563  เป็นโรงงานที่มีการปล่อยของเสียเป็นศูนย์ หรือมีของเสียจากกระบวนการผลิตเกิดน้อยที่สุด มีการใช้วัตถุดิบและพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ การจัดการด้านสิ่งแวดล้อมที่ได้มาตรฐาน และยังมีการเกื้อกูลกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหรือสังคมโดยรอบ

 

Enfant

 

  • แบรนด์ PURE CARE BSC ผลิตจาก“บัวหลวง” พืชสมุนไพรไทย ที่ทรงคุณค่า และดีต่อโลกอย่างยั่งยืน

โรงงานที่ 4 “เพราะเราทุ่มเทและใส่ใจ ในทุกผลิตภัณฑ์ PURE CARE BSC จึงดีต่อใจ ดีต่อทุกสภาพผิวแม้ผิวที่บอบบางแพ้ง่าย และดีต่อโลกอย่างยั่งยืน” ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง PURE CARE BSC (เพียว แคร์ บีเอสซี) โดย บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญและคุณค่าของ วัตถุดิบจากธรรมชาติ โดยเฉพาะสมุนไพรไทย และเทรนด์การใช้ผลิตภัณฑ์ด้านความงามอย่างปลอดภัย ไร้สารเคมี จึงได้ร่วมกับส่วนงานวิจัยและนวัตกรรม บริษัทอินเตอร์เนชันแนล แลบบอราทอรีส์ จำกัด และ โครงการวิจัย PERCH ของศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.วิชัย ริ้วตระกูล ณ ภาควิชาเคมี มหาวิทยาลัยมหิดล ทำการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ Super Moisturizing Bead 

โดยนำ “บัวหลวง” พืชสมุนไพรไทย ที่ทรงคุณค่า และมีประโยชน์นานัปการมาพัฒนาสำหรับใช้ในการผลิตเครื่องสำอาง  ทำให้เครื่องสำอาง PURE CARE BSC นำสารสกัดจากเกสรดอกบัวหลวงมารวมไว้ในเครื่องสำอางชุด Age Expert Series แบรนด์แรกของโลกด้วยนาโนเทคโนโลยี ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่า สามารถช่วยชะลอ ลดเลือนริ้วรอย คืนความอ่อนวัยและทำให้ผิวขาวเนียนสดใสอย่างเป็นธรรมชาติ”

 

PURE CARE BSC

 

โดย เครื่องสำอางชุด  Age Expert Series ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ด้านเศรษฐกิจ ประจำปี 2548 จากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (National Innovation Award 2548) และตั้ง Trademark เป็นของ PURE CARE BSC  ในชื่อ “Lotus Spirit (โลตัส สปิริต)”  PURE CARE BSC ผลิตจากส่วนผสมที่เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ และปราศจากสารก่อให้เกิดการระคายเคือง ซึ่งผ่านการทดสอบจากสถาบันผิวหนังชั้นนำระดับโลกตามมาตรฐานสากล การันตีคุณภาพ

  1. Clinically Tested จากสถาบันผิวหนังประเภทเยอรมนี Germany Dermatology Institute
  2. Hypo- Allergenic จากสถาบันผิวหนังสหรัฐอเมริกา USA Dermatologist Institute

แชร์ :

You may also like