ชื่อของ “Spotify” กลายเป็นชื่อบริษัทรายล่าสุดที่มีแผนปลดพนักงาน (รอบที่ 3) จำนวน 1,500 ตำแหน่งจาก 9,000 กว่าคนทั่วโลก หรือคิดเป็น 17% ของพนักงานทั้งหมด และแน่นอนว่า เมื่อ Spotify ประกาศข่าวนี้ออกไป หุ้นของบริษัทก็ปรับตัวเพิ่มขึ้น 8% ทันที
ทั้งนี้ การประกาศว่าพนักงานคนใดจะถูกเลย์ออฟจะมีขึ้นในวันจันทร์นี้ และอาจกล่าวได้ว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่บริษัทมีการประกาศเลย์ออฟพนักงาน โดยหากย้อนอดีตไปเมื่อต้นปี 2023 พบว่า Spotify ได้เลย์ออฟพนักงานไปแล้ว 600 คนในเดือนมกราคม และอีก 200 คนในเดือนมิถุนายน หรืออาจรวมเป็นตัวเลขทั้งปีมากกว่า 2,000 คน โดยสิ่งที่ Spotify นำมาใช้เป็นเหตุผลในการเลย์ออฟครั้งนี้ก็คือ ยอด Subscribers ยังไม่เติบโตอย่างที่ควรจะเป็น และภาวะเศรษฐกิจตกต่ำที่ทำให้บริษัทจำเป็นต้องรัดเข็มขัดนั่นเอง แต่สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับ Spotify ได้ถูกนักวิเคราะห์มองว่า เป็นการทำเพื่อเอาใจนักลงทุนในระยะสั้น
ผู้ที่ให้ทัศนะดังกล่าวคือ Rich Greenfield นักวิเคราะห์จาก LightShed ที่มองว่า Spotify เป็นแพลตฟอร์มที่ดี มีบริการที่ยอดเยี่ยม แต่ไม่ใช่ธุรกิจที่สามารถทำเงินได้อย่างมั่นคง เห็นได้จากผลประกอบการในช่วงปี 2020 – 2021 ที่แพลตฟอร์มสามารถสร้างการเติบโตได้มากถึง 22.84% และมาเริ่มเติบโตลดลงในระยะหลัง (ปี 2022 – 2023 อัตราการเติบโตของรายได้ลดลงเหลือ 9 – 11%) จนนำไปสู่ความไม่มั่นใจของนักลงทุนในที่สุด
อย่างไรก็ดี หากมองย้อนไปที่ผลประกอบการของ Spotify ในไตรมาสล่าสุดก็ไม่ได้แย่ โดยบริษัทมีรายได้ 3.6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 11% (เป็นรายได้จากการดำเนินงาน 34 ล้าน) ส่วนลูกค้าแบบจ่ายเงินพบว่า เพิ่มขึ้น 6 ล้านราย หรือคิดเป็น 16% เลยทีเดียว