เปิดอินไซต์ NocNoc พบตลาด Home & Living มีผู้ใช้งานในหัวเมืองใหญ่เพิ่ม โดยเฉพาะ “เชียงใหม่-เชียงราย-ชลบุรี-ระยอง-นราธิวาส” พร้อมคาดการณ์ปี 2024 เทรนด์สินค้าหมวดไลฟ์สไตล์มาแรงใน 4 กลุ่มหลัก ได้แก่ แม่และเด็ก สัตว์เลี้ยง กาแฟ และผู้สูงอายุ ด้านผู้บริหารเผย พร้อมบุก 3 ประเทศเพื่อนบ้าน “ลาว-มาเลเซีย-กัมพูชา” ดันรายได้ 6,500 ล้านบาท
NocNoc สตาร์ทอัพด้านสินค้าและบริการเรื่องบ้านออนไลน์เปิดข้อมูลปี 2023 โดยคุณอนุพงศ์ ทะสดวก ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการค้าและพาณิชย์ บริษัท เบ็ตเตอร์บี มาร์เก็ตเพลส จำกัด ผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม NocNoc ระบุว่า มียอดขายเติบโตกว่า 100% ซึ่งจังหวัดที่มีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นสูงสุดได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ชลบุรี ระยอง และนราธิวาส
ส่วนหมวดสินค้าที่มีการเติบโตสูงสุด พบว่ามี 4 กลุ่ม ได้แก่
- หมวดเฟอร์นิเจอร์และการตกแต่งบ้าน
- หมวดสินค้าไลฟ์สไตล์ เช่น สัตว์เลี้ยง (เช่น ตู้อบแมว) กาแฟ (เช่น เครื่องชงกาแฟ) แม่และเด็ก สังคมสูงอายุ และการออกกำลังกาย
- หมวดเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น กลุ่ม Gadget ใหม่ Home Entertainment เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก
- หมวด Home Improvement
นอกเหนือจากลูกค้าทั่วไปแล้ว ลูกค้าจากภาคธุรกิจ (B2B) ก็เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่กำลังเติบโตบนแพลตฟอร์มเช่นกัน โดยผู้บริหาร NocNoc เผยว่า มี 6 กลุ่มที่หันมาใช้แพลตฟอร์ม NocNoc ในการเลือกซื้อสินค้า ได้แก่
- กลุ่มออฟฟิศสำนักงาน
- ร้านอาหาร
- อพาร์ทเมนต์
- โรงแรม
- สถาบันการศึกษา
- คลินิค (ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคลินิคเสริมความงาม)
ทั้งนี้ กลุ่มลูกค้าหลักของแพลตฟอร์มยังคงเป็นกลุ่ม B2C โดยมีสัดส่วนที่ 70% ส่วนลูกค้า B2B ครองส่วนแบ่งน้อยกว่าที่ 30% ส่วนการใช้จ่ายต่อครั้งของลูกค้านั้น พบว่ามีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 15,000 บาท (ขึ้นอยู่กับประเภทสินค้า)
ปี 2024 ตั้งเป้ายอดขาย 6,500 ล้านบาท
สำหรับปี 2024 ทางบริษัทได้ตั้งเป้ายอดขายเอาไว้ที่ 6,500 ล้านบาท จากมูลค่าตลาด Home & Living โดยรวมที่คาดว่าจะอยู่ที่ 450,000 ล้านบาท ซึ่งทิศทางในการดำเนินงานในปีนี้ คุณชลลักษณ์ มหาสุวีระชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริการ บริษัท เบ็ตเตอร์บี มาร์เก็ตเพลส จำกัด ระบุว่า จะนำเทคโนโลยี AI มาช่วยออกแบบประสบการณ์บนแพลตฟอร์มให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้มากขึ้น เช่น การระบุสไตล์การแต่งบ้านที่ผู้ใช้งานชื่นชอบ เพื่อให้ AI ค้นหาสินค้าในสไตล์เดียวกันขึ้นมาแสดงผล หรือการใช้ NocNoc GPT ในการให้บริการลูกค้าแบบรายบุคคล
เพิ่มอิเวนต์ Offline
นอกจากนั้น สิ่งที่ผู้บริหาร NocNoc มองว่าสำคัญไม่แพ้กันก็คือ อิเวนต์แบบออฟไลน์ โดยในปี 2023 ทาง NocNoc พบว่า พฤติกรรมของผู้บริโภคได้เปลี่ยนแปลงไป เพราะมีการกลับไปทำงานในออฟฟิศมากขึ้น ทาง NocNoc จึงจัดอิเวนต์ออฟไลน์ร่วมกับพาร์ทเนอร์ รวมถึงจัด Pop-up Store ในห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ ซึ่งพบว่า ได้รับผลตอบรับที่ดี ทำให้ในปี 2024 ทาง NocNoc จะเพิ่มอิเวนต์ดังกล่าวให้มากขึ้น เพื่อให้ลูกค้าสามารถสอบถาม – สัมผัสประสบการณ์ได้ด้วยตัวเอง
ส่วนความกังวลในแง่ของกำลังซื้อผู้บริโภคในปัจจุบันว่าจะลดลงหรือไม่นั้น คุณอนุพงศ์ ระบุว่า เนื่องจากลูกค้าของ NocNoc คือกลุ่มคนที่ซื้อของสำหรับบ้าน ซึ่งทั้งในต่างจังหวัดและกรุงเทพฯ สินค้ากลุ่มนี้ก็เป็นสิ่งที่ต้องมีเหมือนกัน การซื้อจึงไม่ได้ต่างกันแบบมีนัยสำคัญ แต่อาจจะต่างกันในแง่ของสไตล์ – เกรดของสินค้ามากกว่านั่นเอง
ทั้งนี้ จากการเปิดเผยของผู้บริหาร ยอด Active Monthly Users ของ NocNoc พบว่าอยู่ที่ 3 ล้านราย และทางบริษัทยังให้บริการ Marketplace ในประเทศอินโดนีเซีย ภายใต้ชื่อ Renos ร่วมด้วย