Macy’s ห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ประกาศเลิกจ้างพนักงาน 2,350 ตำแหน่ง หรือคิดเป็น 3.5% ของพนักงานทั้งหมด พร้อมปิดห้าง 5 แห่งเพื่อลดต้นทุน พลังพบการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงที่ผ่านมาไม่ฟู่ฟ่าอย่างที่ควร เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่พุ่งสูง
สำหรับพนักงานที่ได้รับผลกระทบมีทั้งพนักงานในห้างและพนักงานกลุ่ม BackOffice โดย Chris Grams ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของห้างระบุว่า Macy’s อยู่ระหว่างการพัฒนากลยุทธ์ใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ด้วยเหตุนี้จึงต้องตัดสินใจลดพนักงานลง 3.5% เพื่อให้บริษัทสามารถก้าวต่อไปได้ดียิ่งขึ้น โดยการเลย์ออฟจะมีผลในวันที่ 26 มกราคม หรือก็คือวันนี้นั่นเอง
นอกจากเลย์ออฟพนักงานแล้ว จะมีการปิดตัวห้าง 5 แห่งร่วมด้วย ได้แก่ ห้าง Macy’s ในเมือง Arlington รัฐ Virginia, เมือง San Leandro รัฐแคลิฟอร์เนีย เมือง Lihue รัฐฮาวาย เมือง Simi Valley รัฐแคลิฟอร์เนีย และเมือง Tallahassee รัฐฟลอริด้า
ทั้งนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งที่เข้ามาท้าทายห้างดังอายุเก่าแก่กว่า 166 ปีให้ต้องเปลี่ยนแปลง ก็คือพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันไปซื้อสินค้าจากโลกออนไลน์มากขึ้น รวมถึงมีการเปรียบเทียบราคาที่เข้มข้นมากขึ้น และทำให้การซื้อสินค้าย้ายไปสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น Amazon หรือ Shein อย่างต่อเนื่อง
เปลี่ยนสู่ห้างไซส์เล็ก เจาะกลุ่มชานเมือง
ส่วนกลยุทธ์ใหม่ที่ห้าง Macy’s จะนำมาปรับใช้ก็คือการหันไปเปิดห้างขนาดเล็ก เพื่อเจาะกลุ่มผู้บริโภคย่านชานเมืองแทน โดยจะเน้นขายที่ใช้ในชีวิตประจำวัน และเสื้อผ้า ซึ่ง Macy’s ระบุว่าจะเปิดตัวห้างลักษณะดังกล่าวให้ได้ 30 สาขาภายในปี 2025 ขณะที่ห้างเดิมที่มีขนาดใหญ่มาก ๆ นั้น คาดว่าจะมีการปิดตัวลงประมาณ 10 แห่งภายในช่วงต้นปี 2024
ส่วนหุ้นของ Macy’s ก็ปรับตัวลดลงเช่นกัน โดยในปี 2023 หุ้นของบริษัทได้ลดลงไปราว 11% แต่ถ้าหากเปรียบเทียบกับเมื่อ 5 ปีก่อนจะพบว่าลดลงไป 28% เลยทีเดียว ซึ่งก่อนหน้านี้ ทาง Macy’s ได้ปฏิเสธการเข้าซื้อหุ้นมูลค่า 5,800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จาก Arkhouse ไปด้วย โดยระบุว่าเป็นข้อจำกัดด้านการเปิดเผยข้อมูลทางการเงิน
Photo Credit : NUMBER 24 – Authorized Shutterstock Partner in Thailand
เป็นเพื่อนกับเราได้ที่ LINE