ZORT จับมือไมโครซอฟท์ ผู้นำระดับโลกด้านนวัตกรรมคลาวด์ และ Beam ผู้นำด้านแพลตฟอร์มการรับชำระเงิน ยกระดับประสบการณ์ด้านการชำระเงินหวังตอบโจทย์เทรนด์ Omni Channel และกระแสอีคอมเมิร์ซ ตั้งเป้าปี 2024 มีผู้ใช้งานระบบเพิ่มขึ้น 55%
คุณสวภพ ท้วมแสง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซอร์ทเอาท์ จำกัด (ZORT) แพลตฟอร์มบริหารจัดการออเดอร์และสต๊อกครบวงจร (Seller Management Platform) เปิดเผยว่า ZORT ได้จับมือกับ 2 พันธมิตรยักษ์ใหญ่ อย่าง บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท บีม เดต้า จำกัด หรือ Beam เพื่อสร้าง Ecosystem เพิ่มจุดแข็งให้ ZORT ในมิติของความปลอดภัย และระบบการชำระเงิน ที่ง่าย สะดวกในทุกแพลตฟอร์มแบบไร้รอยต่อ เพื่อสร้าง Eco –System สำหรับธุรกิจ E-commerce ตั้งแต่การขาย การจัดส่งและการชำระเงินบนทุกแพลตฟอร์มออนไลน์บนโซเชียล มาร์เกตเพลส และเว็บไซต์ ได้แก่
1.ระบบบริหารจัดการออเดอร์ และสต๊อกอัจฉริยะครบวงจร บนทุกแพลตฟอร์มที่เข้าใจความต้องการของธุรกิจที่ต้องการสร้างจุดแข็งในตลาด อีคอมเมิร์ซและหน้าร้าน ออฟไลน์ เป็นหนึ่งเดียวกัน โดยล่าสุดได้ยกระดับตัวระบบให้สามารถดูยอดสั่งซื้อจากไลฟ์สดจากทุกแพลตฟอร์มมาไว้ที่เดียวบนระบบ ZORT ปัจจุบันไลฟ์สด เป็นเครื่องมือขายสินค้าออนไลน์ที่มาแรงที่สุด
2.แพลตฟอร์มคลาวด์ Microsoft Azure ที่ความเสถียรของระบบ ทำให้การซื้อขายของธุรกิจไม่สะดุด และระบบมีความปลอดภัยสูง ด้วยการรักษาความปลอดภัยจากทีมงาน Microsoft security ทำให้มั่นใจได้เลยว่าข้อมูลถูกป้องกันไว้อย่างดี โดยไม่จำกัดพื้นที่การใช้งาน ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรม
3. ระบบ Payment gateway ของ Beam ที่ช่วยยกระดับประสบการณ์ การชำระเงินออนไลน์ให้ ลื่นไหล สะดวก และปลอดภัยยิ่งกว่าที่เคย นอกจากนั้นยังรองรับช่องทางการชำระเงินที่หลากหลาย ทั้งยังถูกดีไซน์มาเพื่อให้เชื่อมต่อกับระบบการขายของร้านค้า และแพลตฟอร์มของพาร์ทเนอร์ได้ง่าย สามารถใช้ได้ทันที
“ในปีที่ผ่านมา ZORT ประสบผลสำเร็จโดยการเพิ่มยอดมูลค่าการเติบโตให้ลูกค้าถึง 35% ลดต้นทุนทางธุรกิจได้ถึง 30% ในปี 2024 ตั้งเป้ามีผู้ใช้แพลตฟอร์ม เพิ่มขึ้น 55% เน้นกลุ่มลูกค้าที่ต้องการระบบที่ได้ไว้วางใจได้และครบวงจร เป็นไปตามตลาดอีคอมเมิร์ซ ที่ยังมีแนวโน้มเติบโตได้ต่อเนื่อง โดยการขายสินค้าผ่านไลฟ์สดยังเป็นเทรนด์ที่มาแรง ทุกแพลตฟอร์มมุ่งพัฒนาให้ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้า และคาดว่าการขายสินค้าผ่านหน้าร้านจะเติบโตเพิ่มขึ้น เนื่องจากคนออกไปจับจ่ายสินค้าและใช้ชีวิตนอกบ้านเหมือนตอนก่อนเกิดโควิด โดยในปี 2023 ที่ผ่านมี ZORT มีลูกค้าที่ขายผ่านหน้าร้าน เพิ่มขึ้น 87% ขณะเดียวกันคาดว่าภาพรวมของตลาดอีคอมเมิร์ซจะเติบโตขึ้นจากปีก่อนประมาณ 7 % หรือคิดเป็นมูลค่าตลาดรวม 6.34-6.94 แสนล้านบาท เนื่องจากเทคโนโลยีในปัจจุบันเอื้อให้การชอปปิ้งออนไลน์สะดวกกว่าเดิม และลดขั้นตอนการจ่ายทำให้ประหยัดเวลาในกระบวนการตั้งแต่ต้นจนจบ อีกทั้งสินค้าในตลาดออนไลน์มีจุดเด่นคือผู้ซื้อสามารถเปรียบเทียบราคาจากร้านต่างๆ ได้ภายในเวลาเรียลไทม์ จึงทำให้เกิดการตัดสินใจซื้อได้เร็วกว่า” คุณสวภพ กล่าวปิดท้าย