HomeSponsoredผ่าแผนกลยุทธ์ 2567 ‘เอพี ไทยแลนด์’ ลุยขยายพอร์ตฯ ทุกเซกเมนต์ทั่วไทย ตั้งเป้ายอดขาย 57,000 ล้านบาท

ผ่าแผนกลยุทธ์ 2567 ‘เอพี ไทยแลนด์’ ลุยขยายพอร์ตฯ ทุกเซกเมนต์ทั่วไทย ตั้งเป้ายอดขาย 57,000 ล้านบาท

แชร์ :

“เอพี ไทยแลนด์” ตอกย้ำความเป็นเบอร์หนึ่งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ปิดปี 2566 ด้วย “กำไรสุทธิ” All Time High 4 ปีต่อเนื่อง เป็นสถิติที่ทำได้ในช่วงโควิดมาถึงปัจจุบัน

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

สรุปปี 2566 เปิดใหม่ 56 โครงการ ทำได้ตามเป้าหมาย ในทุกประเภทที่อยู่อาศัย ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม โดยมียอดขายสูงสุดในอุตสาหกรรมถึง 51,390 ล้านบาท มีรายได้รวมจากสินค้ากลุ่มแนวราบ กลุ่มคอนโดมิเนียม (100% JV) และธุรกิจอื่นๆ ได้สูงถึง 48,757 ล้านบาท กำไรสุทธิ 6,054 ล้านบาท

#2567 ปีของตัวจริง “เอพี” ชู 5 มิติเติบโตต่อ

ทิศทางปี 2567 หากดูภาพรวมเศรษฐกิจยังเต็มไปด้วยสถานการณ์ที่คาดเดาได้ยาก เครื่องยนต์ผลักดันเศรษฐกิจที่เป็นปัจจัยภายนอกยังไม่สามารถขับเคลื่อนได้เต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อัตราดอกเบี้ย ที่สำคัญหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูงถึง 91% จึงกลายเป็นปัจจัยฉุดกำลังซื้อที่อยู่อาศัยไปด้วย

คุณวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บมจ. เอพี ไทยแลนด์ กล่าวว่าภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2567 ยังมีความท้าทายรออยู่อีกมากและเชื่อว่าจะเป็นอีกปีที่ “ไม่ง่าย”  ดังนั้นการดำเนินธุรกิจในปีนี้ยังคงต้องเป็นไปแบบระมัดระวัง

สิ่งสำคัญสุดที่จะทำให้องค์กรเดินไปอย่างไม่สะดุดท่ามกลางแรงกระเพื่อมทางเศรษฐกิจ คือ การรักษาเสถียรภาพทางการเงินให้แข็งแกร่ง ผ่านความเข้มงวดในวินัยทางการเงิน เพื่อนำมาสู่สภาพคล่องทางการเงินที่คล่องตัวและมากเพียงพอที่จะสนับสนุนธุรกิจในระยะยาว

ธุรกิจอสังหาฯ ปีนี้ถือเป็นปีของ “ตัวจริง” เอพี วางกลยุทธ์ที่จะเติบโตต่อด้วยความพร้อมใน 5 มิติ ดังนี้

1. การบริหารจัดการกระแสเงินสด (Cash Flow Management) เพื่อสร้างเสถียรภาพทางการเงินและสภาพคล่อง เพราะเป็นสิ่งที่ทำให้องค์กรปรับตัวได้ดีในทุกสถานการณ์ เห็นได้ชัดว่าการมีกระแสเงินสดที่ดี ทำให้ เอพีสร้างผลประกอบการได้ดีแม้ในช่วงโควิดที่ตลาดได้รับผลกระทบ และเมื่อโควิดจบลงก็ช่วงชิงตลาดจากการฟื้นตัวได้เร็ว จนสร้างสถิติกำไร All Time High มาต่อเนื่องเป็นปีที่ 4

ปัจจุบันเอพี มีสภาพคล่องที่ดี โดยมีวงเงินสินเชื่อพร้อมเบิกใช้ (available credit line) จากสถาบันทางเงินที่ให้วงเงิน 12,700 ล้านบาท มีเม็ดเงินลงทุนจากพันธมิตร “มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป” 12,619 ล้านบาท สำหรับการลงทุนพัฒนาคอนโดมิเนียมในประเทศไทยกับ นอกจากนี้มีรายได้จากการขายและโอนอสังหาริมทรัพย์ (Cash Inflow) กว่า 200 โครงการ

โอกาสจากตลาดเงินตลาดทุนที่เปิดกว้าง โดยเมื่อต้นปีเอพี ได้ชำระหุ้นกู้มูลค่า 2,500 ล้านบาทตามกำหนด และได้ออกหุ้นกู้ใหม่มูลค่า 3,500 ล้านบาท ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดี

อีกสิ่งสำคัญคือ การรักษาสัดส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุน ณ สิ้นปี 2566 อยู่ที่ 0.79 เท่า การมีเสถียรภาพการเงินที่แข็งแรง ทำให้มีต้นทุนการเงินลดลง ได้เปรียบในการแข่งขัน และถือเป็นคีย์สำคัญที่ทำให้ประสบความสำเร็จ

2. การกระจายพอร์ตโฟลิโอสินค้าที่หลากหลาย (Portfolio Diversification) ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ของตลาด เมื่อเจอกับสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบกับตลาดไหน ก็มีสินค้าอื่นที่สร้างการเติบโตได้ เช่น ช่วงโควิดตลาดคอนโดมิเนียมชะลอตัว เอพีปรับตัวทันทีในการทำตลาดแนวราบ ปีนี้คอนโดมิเนียมมีดีมานด์กลับมาแล้ว เอพีก็มีที่ดินพร้อมเปิดตัวคอนโดมิเนียมในหลากหลายทำเล

3. People – Structure – Process การบริหารจัดการคน โครงสร้างองค์กร และโพรเซสการทำงานที่แม่นยำ เพื่อสนับสนุนต่อการทำงานที่รวดเร็วทันทุกการเปลี่ยนแปลง สร้างโอกาสการเติบโตอย่างรวดเร็ว

4. การมีพันธมิตรทางธุรกิจ (Strategic Partnership) ที่มีวิสัยทัศน์เดียวกัน มีความพร้อมในการร่วมลงทุน เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนธุรกิจก้าวสู่ความเป็นหนึ่ง

5. Supply Chain Management การทำงานร่วมกับผู้รับเหมาก่อสร้างทั้งโครงการแนวราบ แนวสูง ที่พร้อมสนับสนุนให้การเติบโตของธุรกิจเป็นไปอย่างต่อเนื่องตามแผนการพัฒนาและส่งมอบโครงการตามเป้าหมาย

#เปิดใหม่ 48 โครงการ มูลค่า 58,000 ล้านบาท

แม้ปี 2567 ยังมีความท้าทายจากหลายปัจจัย แต่โอกาสของธุรกิจอสังหาฯ ก็ยังเห็นสัญญาณบวกจากการกลับมาของตลาดคอนโดมิเนียม ทั้งกลุ่มนักลงทุน ลูกค้าต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดจีน  และคาดว่าอัตราดอกเบี้ยคงไม่ขึ้นไปมากกว่านี้

แผนธุรกิจของเอพี ปี 2567 จึงมุ่งสานต่อความเป็นหนึ่ง ภายใต้กลยุทธ์ EMPOWER TOGETHER โดยปีนี้ทุกกลุ่มธุรกิจ ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม บ้านแฝด และคอนโดมิเนียม ตั้งเป้าหมายที่จะส่งมอบนวัตกรรมพื้นที่เพื่อชีวิตดีๆ ที่เลือกเองได้ เพื่อให้ “ทุกพื้นที่ในบ้านเอพี” เติบโตไปพร้อมกับทุกคน

เพื่อครองการเป็นที่หนึ่งในอุตสาหกรรมพัฒนาอสังหาฯ เพื่อการอยู่อาศัย ทั้งด้านยอดขาย รายได้ และกำไร ปี 2567 เอพี ตั้งเป้ามีโครงการพร้อมขายทั่วประเทศ จำนวน 212 โครงการ ประกอบด้วยการเปิดตัวสินค้าใหม่ 48 โครงการ มูลค่า 58,000 ล้านบาท

แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 15 โครงการ มูลค่า 23,000 ล้านบาท ทาวน์โฮมและบ้านแฝด 23 โครงการ มูลค่า 19,300 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 6 โครงการ มูลค่า 12,500 ล้านบาท

ในต่างจังหวัด 4 โครงการ มูลค่า 3,200 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์ “อภิทาวน์”  คือ จังหวัดระยอง สงขลา สุพรรณบุรี  การพัฒนาที่อยู่ในต่างจังหวัด เน้นเมืองรอง ที่มีกำลังซื้อและมีโอกาสสูง  โดยมีดีมานด์กลุ่มใหม่ที่น่าสนใจ คือ คนเกษียณการทำงาน ที่เตรียมไปใช้ชีวิตในต่างจังหวัด

ปี 2567 ตั้งเป้ายอดขาย 57,000 ล้านบาท เป้ารายได้รวม 100% JV ที่ 53,700 ล้านบาท

#ส่งแบรนด์ THE PALAZZO รุกบ้านเดี่ยว Super Luxury 100 ล้าน 

กลุ่มธุรกิจบ้านเดี่ยวในปี 2567 มีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 15 โครงการ มูลค่า 23,000 ล้านบาท โดยยังคงย้ำจุดยืน FUNCTIONAL IS BEAUTIFUL หรือ “บ้านที่เข้าใจชีวิต” ซึ่งถือเป็น DNA สำคัญผลักดันให้บ้านเดี่ยวเอพีเติบโตอย่างต่อเนื่อง

โดยไฮไลต์ของกลุ่มธุรกิจบ้านเดี่ยว มีแผนเดินหน้าเพิ่มมาร์เก็ตแชร์ในตลาด Super Luxury ระดับราคา 100 ล้านบาท ด้วยการพัฒนาสินค้าแบรนด์  THE PALAZZO ให้เป็นคฤหาสน์หรูในบริบทใหม่ ที่มากกว่าที่อยู่อาศัยแต่คือ อาณาจักรที่คุณเลือกเองได้ ด้วยพื้นที่ใช้สอยที่มากกว่า 1,000 ตารางเมตร ใน 2 ทำเลแรก กรุงเทพกรีฑาและปิ่นเกล้า

“บ้านหรู 100 ล้านบาท ถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพและลูกค้าก็มีกำลังซื้อ เป็นตลาดที่ไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ใดๆ”

อีกแบรนด์ในกลุ่มลักชัวรี่ คือ  “บ้านกลางกรุง” เป็นบ้านเดี่ยวในเมือง ในทำเลสาธุประดิษฐ์ ซึ่งทั้งหมดพร้อมจะเปิดตัวในช่วงครึ่งปีหลังนี้ รวมถึงการให้ความสำคัญกับการพัฒนาแบบบ้านในแบรนด์ THE CITY, CENTRO และ MODEN ที่ถือเป็นแบรนด์สินค้าหลักที่ประสบความสำเร็จมาอย่างยาวนาน

#ตั้งเป้า “ผู้นำ” ตลาดบ้านแฝดในเมือง

กลุ่มธุรกิจทาวน์โฮมและบ้านแฝด เป็นตลาดที่เติบโตมาตลอดนับตั้งแต่ช่วงโควิด ถือเป็น Blue Ocean ปีนี้มีแผนเปิดตัวโครงการใหม่  23 โครงการ มูลค่า 19,300 ล้านบาท นอกจากการรักษาความเป็น “ผู้นำ” ในตลาดทาวน์โฮม 3 ชั้น และ 2 ชั้นแล้ว

พร้อมส่งต่อความสำเร็จในการพัฒนาทาวน์โฮม ภายใต้แนวคิดพื้นที่ชีวิตแนวตั้งที่ดีที่สุด สู่เป้าหมายครั้งใหม่ ด้วยการตั้งเป้าจะเป็นผู้นำตลาดบ้านแฝด 3 ชั้นและ 2 ชั้นในเมือง  ด้วย 3 แบรนด์สินค้าในเครือ ได้แก่ บ้านกลางเมือง คลาสเซ่  – บ้านกลางเมือง ดิ อิดิชั่น – แกรนด์ พลีโน่

ด้วยจุดขายบ้านหน้ากว้างสูงสุด 14.7 เมตร ทั้งแบบบ้านแฝด 3 ชั้น พื้นที่ 35.50 – 46.40 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย ตั้งแต่ 218.87– 298 ตารางเมตร และบ้านแฝด 2 ชั้น พื้นที่ 35.10 – 44.83 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย ตั้งแต่ 133.45 – 200.2 ตารางเมตร เริ่ม 3.19 ล้านบาท

โดยในแผนการเปิดตัว 23 โครงการใหม่ จะเป็นบ้านแฝด 7 โครงการ ในทำเล ได้แก่ บ้านกลางเมือง คลาสเซ่ รัชดา-ลาดพร้าว, บ้านกลางเมือง ดิ อิดิชั่น โยธินพัฒนา, บ้านกลางเมือง ดิ อิดิชั่น บางนา, แกรนด์ พลีโน่ วัชรพล-จตุโชติ 10, แกรนด์ พลีโน่ แจ้งวัฒนะ-ราชพฤกษ์, แกรนด์ พลีโน่ รามอินทรา-วงแหวน 2, แกรนด์ พลีโน่ สุขสวัสดิ์ 64 และส่วนที่เหลือจะเป็นในรูปแบบทาวน์โฮม 3 ชั้น และทาวน์โฮม 2 ชั้น

#ตลาดคอนโดฟื้น “เอพี” ส่ง 6 โครงการชิงกำลังซื้อ

กลุ่มธุรกิจคอนโดมิเนียมถือว่ามีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ภาพรวมตลาดในวันนี้ถือว่าฟื้นตัวแล้ว และเชื่อว่าอีกไม่นานตลาดคอนโดมิเนียมไทยจะกลับคืนสู่จุดเดิมก่อนเผชิญวิกฤตโควิด ในปีที่ผ่านมาธุรกิจคอนโดมิเนียมเอพีทำยอดขาย 17,908 ล้านบาท เติบโต 57% เป็นยอดขายที่สูงกว่าช่วงก่อนโควิดปี 2562 แล้ว

โดยรายได้รวมจากสินค้าคอนโดมิเนียม (100% JV) ก็เติบโตต่อเนื่องมาอยู่ที่ระดับ 13,184 ล้านบาท สะท้อนได้ถึงการฟื้นตัวของดีมานด์ ตลอดจนความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อคอนโดมิเนียมเอพี

“แนวโน้มตลาดคอนโดหลังจากนี้จะเริ่มสดใสมากขึ้นเรื่อยๆ และจะเป็นสินค้าซูเปอร์สตาร์ ของเอพีตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป”

ในปี 2567 กลุ่มธุรกิจคอนโดมิเนียมมีจุดยืนเดิมคือ เริ่มชีวิตที่อยากใช้ AP คอนโด เพื่อส่งมอบพื้นที่ชีวิตที่ทุกคนเลือกเองได้ โดยเตรียมเปิดตัว 6 โครงการใหม่ มูลค่า 12,500 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์ LIFE และ ASPIRE

1. ASPIRE Arun Privé ถนนอรุณอมรินทร์ จำนวน 119 ยูนิต  มูลค่า 500 ล้านบาท

2. ASPIRE ห้วยขวาง (JV) จำนวน 1,274 ยูนิต มูลค่า 4,800 ล้านบาท

3. ASPIRE อิสรภาพ สเตชั่น จำนวน 270 ยูนิต มูลค่า 800 ล้านบาท

4. LIFE เจริญนคร-สาทร จำนวน 580 ยูนิต มูลค่า 2,500 ล้านบาท

5. ASPIRE จตุจักร อินเตอร์เชนจ์ (JV) จำนวน 677 ยูนิต มูลค่า 2,400 ล้านบาท

6. ASPIRE (ยังไม่ระบุทำเลและจำนวนยูนิต) มูลค่า 1,500 ล้านบาท

โดยมี  LIFE เจริญนคร-สาทร และ ASPIRE ห้วยขวาง  (JV) เป็นไฮไลต์เด็ดของปีนี้ ที่คาดว่าจะได้รับความสนใจจากลูกค้าจำนวนมาก

นอกจากนี้กลุ่มคอนโดมิเนียมยังเตรียมรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ 3 คอนโดพร้อมอยู่ มูลค่าโครงการรวมกว่า 11,500 ล้านบาท ได้แก่ LIFE พหลฯ-ลาดพร้าว LIFE พระราม 4-อโศก และ ASPIRE รัชโยธิน

ปีนี้เครื่องยนต์ต่างๆ ของ เอพี พร้อมแล้วในการบุกตลาดอสังหาฯ ทุกเซกเมนต์  โดยให้น้ำหนักกับการบาลานซ์ พอร์ตโฟลิโอ ทั้งแนวราบและแนวสูง สร้างการเติบโตด้วยฐานการเงินที่แข็งแรง

อัปเดตข่าวสารของทุกโครงการใหม่จากเอพี กับ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม และคอนโด ตลอดปี 2024 นี้  คลิก :  https://apth.ly/APNewHome2024

#AP​ #APThai #APThailand #APBusinessDirection2024 #ชีวิตดีๆที่เลือกเองได้


แชร์ :

You may also like