โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ อายุ 50 ปี ได้ “ปิดตัว” ไปเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2562 จากนั้นเริ่มก่อสร้างใหม่ ซึ่งเป็นหนึ่งในโปรเจกต์มิกซ์ยูส Dusit Central Park พื้นที่รวม 440,000 ตารางเมตร มูลค่า 46,000 ล้านบาท จากการร่วมทุนของ “ดุสิตธานีและเซ็นทรัลพัฒนา” พื้นที่ 23 ไร่ บริเวณหัวมุมถนนสีลมตรงข้ามสวนลุมพินี ใจกลางย่านธุรกิจของกรุงเทพฯ ที่ประกอบไปด้วย โรงแรม อาคารที่พักอาศัย อาคารสำนักงานและศูนย์การค้า
ล่าสุด “โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ” เรือธงของกลุ่มดุสิตธานี พร้อมเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศอย่างเป็นทางการอีกครั้งในเดือนกันยายน 2567 ด้วยรูปโฉมใหม่ที่ยังคงรักษาเสน่ห์ความเป็นไทยประยุกต์และร่วมสมัยอันเป็นเอกลักษณ์ของดุสิตธานี
โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ แห่งใหม่ ได้รับการพัฒนาและก่อสร้างขึ้นใหม่ โดยคงเจตนารมย์ของผู้ก่อตั้ง “ท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย” ในการนำความเป็นไทยให้ปรากฎสู่สากล ด้วยโครงสร้างอาคารสูงสีทองขนาด 39 ชั้น (จากเดิม 22 ชั้น)
ประกอบไปด้วยห้องพักหรู ตั้งแต่ห้องดีลักซ์ จนถึงห้องสวีท รวม 257 ห้อง (จากเดิม 517 ห้อง) โดยห้องพักทุกห้องสะท้อนความเรียบหรู กว้างขวาง ผสมผสานเอกลักษณ์ของความเป็นไทย กับความสากลทันสมัยที่ตอบโจทย์การใช้งานของนักเดินทางในยุคใหม่ ด้วยพื้นที่ห้องพักมาตรฐานขนาดเริ่มต้นที่ 50 ตารางเมตรขึ้นไป การออกแบบภายในโดย André Fu Studio สตูดิโอออกแบบตกแต่งภายในชั้นนำของเอเชีย ที่ได้รับการยกย่องในระดับสากล
จากการทำงานร่วมกันของสองบริษัทสถาปนิกชั้นนำ ได้แก่ บริษัทสถาปนิก 49 (A49) หนึ่งในบริษัทสถาปนิกที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดของประเทศไทยและ OMA Asia Hong Kong Limited สาขาของบริษัทสถาปนิกชั้นนำระดับโลก OMA (Office for Metropolitan Architecture) ที่โด่งดังในการสร้างสรรค์สถาปัตยกรรมและการวางผังเมือง
โครงสร้างอาคารของโรงแรมดุสิตธานี ถือเป็นสถาปัตยกรรมที่มีความโดดเด่นสะดุดตา และการจัดการวางผังพื้นที่ต่างๆ เชื่อมโยงอย่างลงตัว เช่น การวางผังโถงทางเดินส่วนตัวหน้าห้อง (Single Corridor) ที่ทำให้ห้องพักทุกห้องสามารถมองเห็นวิวสวนลุมพินีผ่านช่องหน้าต่างที่เป็นกระจกบานใหญ่สูงจากพื้นจรดเพดาน และเสริมความพิเศษด้วยโซฟาหรูริมหน้าต่าง เพื่อชมธรรมชาติจากภายในห้องพักหรู
เมื่อปี 2513 โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ แห่งเดิม ได้เคยสร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้กับคนในยุคนั้น ด้วยการมีห้องนภาลัย ห้องบอลรูมจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ที่สุดและหรูหราที่สุดในกรุงเทพ ขณะที่การกลับมาครั้งนี้ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ ยังคงเอกลักษณ์ดังกล่าวไว้ คือ มีพื้นที่จัดเลี้ยงหรือจัดประชุมรวมกันแล้วขนาดใหญ่กว่า 5,000 ตารางเมตร และหนึ่งในนั้นคือ ห้องแกรนด์บอลรูมที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ ซึ่งสามารถรองรับการจัดเลี้ยงในรูปแบบต่างๆ ทั้งแบบส่วนตัวใกล้ชิด ไปจนถึงงานเลี้ยงขนาดใหญ่ในระดับพันคน
นอกจากนี้ ทางโรงแรมฯ ยังได้จัดเตรียม ห้องอาหาร บาร์ต่างๆ รวมถึงบาร์บนชั้นดาดฟ้าที่มีการเล่นระดับหลายชั้น (Multiple Roof Top Bar) เพื่อสร้างประสบการณ์ในการรับประทานอาหารอย่างเหนือระดับที่สร้างสรรค์โดยเชฟที่มีชื่อเสียง นอกจากนี้ “เทวารัณย์ เวลเนส” ศูนย์บริการด้านเวลเนสที่จะนำเสนอสถานที่อันเงียบสงบ และบริการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม เพื่อการผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ ให้กับแขกและคนทั่วไปที่สนใจ ซึ่งรายละเอียดและข้อเสนอต่างๆ ของทั้งสองบริการนี้ จะเปิดเผยให้ทราบในเร็วๆ นี้
ความโดดเด่นของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ คือ การถนอมเก็บรักษาสิ่งของอันเป็นสัญลักษณ์ของความทรงจำ หรือชิ้นงานศิลปะ และสิ่งของตกแต่งอันมีค่าจากโรงแรมแห่งเดิมไว้ ไม่ว่าจะเป็นยอดแหลมสีทองที่เป็นสัญลักษณ์ของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพแห่งเดิม ที่ได้ถูกนำกลับมาติดตั้งใหม่อีกครั้ง โดยยอดเสาเก่า จะถูกวางครอบด้วยยอดเสาทองใหม่ที่ใหญ่และสวยงามกว่าเดิม รวมถึงเพดานฉลุไม้สักจากห้องอาหารเบญจรงค์เดิม และงานจิตรกรรมผนังจากศิลปินแห่งชาติ ซึ่งสิ่งของอันทรงคุณค่าเหล่านี้จะถูกนำกลับมาเป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่งของการออกแบบตกแต่งของโรงแรมแห่งใหม่
“โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ แห่งใหม่ ไม่ได้เป็นแค่โรงแรม แต่คือบทพิสูจน์ของคำมั่นสัญญาที่เราจะไม่หยุดพัฒนาตนเอง และจะนำประสบการณ์ ความรู้ รวมถึงสิ่งที่เป็นมรดกตกทอดมาสร้างสรรค์ประสบการณ์อันน่าจดจำสำหรับอนาคต เราเก็บตัวตนและบุคลิกลักษณะของดุสิตธานีเดิมไว้ ในขณะเดียวกัน ก็เติมนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามา เพื่อให้ดุสิตธานีสามารถสร้างความตื่นเต้นและพึงพอใจให้กับแขกที่รักเรา และนักเดินทางรุ่นใหม่ ซึ่งโรงแรมนี้ จะเป็นต้นแบบสำหรับบริการและประสบการณ์ใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้นให้กับโรงแรมและรีสอร์ทในเครือดุสิตทั่วโลก” คุณศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) กล่าว
โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ แห่งใหม่ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” ซึ่งเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบผสมผสาน (Mixed-Use) มูลค่า 46,000 ล้านบาท ที่ประกอบด้วย อาคารที่พักหรู (super luxury) ภายใต้ชื่อ ‘ดุสิต เรสซิเดนเซส’ และ ‘ดุสิต พาร์คไซด์’ อาคารสำนักงานและศูนย์การค้า รวมถึง Roof Park พื้นที่สีเขียวลอยฟ้าใจกลางกรุงที่มีขนาด 11,200 ตารางเมตร ซึ่งโครงการเหล่านี้ จะทยอยเปิดภายในปี 2568
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสำรองห้องพักที่ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ ได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป ที่ dusit.com
ติดตามพวกเราได้ที่ LINE
อ่านเพิ่มเติม