บมจ.อิชิตัน กรุ๊ป หรือ ICHI ประกาศผลประกอบการประจำปี 2566 ทำรายได้ 8,050 ล้านบาท เติบโต 27% จาก 6,340 ล้านบาทปีก่อน ด้านกำไรสุทธิกวาด 1,100 ล้านบาท เติบโตกว่า 71% จาก 642 ล้านบาทปีก่อน
คุณตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI กล่าวว่าผลจากการบริโภคฟื้นตัว ในปี 2566 และเป็นปีที่มีช่วงอากาศร้อนยาวนาน ผลักดันตลาดเครื่องดื่ม Non-Alcoholic เติบโตต่อเนื่อง
โดยจบปี 2566 ตลาดชาพร้อมดื่มครองแชมป์เติบโต 3 ปีติด ในอัตรา 17.45% (ข้อมูลจากบริษัท เดอะนีลเส็นคอมปะนี ประเทศไทย) ทำให้ “อิชิตัน” ทำรายได้และกำไรในปี 2566 ด้วยสถิติใหม่ เป็นตัวเลข All Time High รอบ 13 ปี มาจากสินค้าในเครืออิชิตันเติบโตในทุกเซกเมนท์ โดยเฉพาะ “อิชิตัน กรีนที ขวดปากกว้าง” 500 มล. ที่ยอดขายเติบโต 40.33%
ขณะที่สินค้ากลุ่ม Non-Tea อาทิ “น้ำด่าง อิชิตัน” สามารถขยายฐานลูกค้าได้มากขึ้นจากการทำกิจกรรม On Ground ทั่วประเทศตลอดปี และการสื่อสารที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ารักสุขภาพ ทำให้ยอดขายเติบโต 77.7%
ส่วน “ตันซันซู” น้ำอัดลมสไตล์เกาหลี ยอดขายกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุด เปิดตัวรสชาติใหม่ “ตันซันซู ยัมมี่เลิฟโซดา” รสสตรอว์เบอร์รี่แตงโม น้ำตาล 0% จากไอเดียเครื่องดื่มคลายร้อนสุดฮิตของประเทศเกาหลี “ซูบักฮวาแซ” พร้อมครีเอทฉลากมากถึง 6 แบบเอาใจวัยรุ่น Gen Z รับเทศกาลวาเลนไทน์ที่ผ่านมา สามารถสร้างแบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย เตรียมผลักดันให้ขึ้นแท่นเป็นสินค้ากลุ่ม Star ในอนาคต
ด้านการบริหารต้นทุนในปี 2567 วางแผน Utilization Rate ตั้งเป้าผลิตอย่างน้อย 100 ล้านขวดทุกเดือน ควบคู่ไปกับการเร่งติดตั้งไลน์การผลิตใหม่ซึ่งมีกำลังการผลิตเพิ่มอีก 200 ล้านขวด/ปี คาดจะเริ่มผลิตได้ในไตรมาส 4 ปี 2567 ซึ่งจะหนุนกำลังการผลิตรวมเป็น 1,700 ล้านขวด/ปี (จากปัจจุบัน 1,500 ล้านขวด/ปี) เพื่อรองรับโอกาสในตลาดใหม่ ดีมานด์ใหม่ที่เพิ่มขึ้นในอนาคต เตรียมพร้อมเดินหน้าสู่เป้าหมายยอดขาย 1 หมื่นล้านบาท ภายในปี 2568
ในปี 2567 อิชิตัน วางเป้าหมายรายได้ 9,000 ล้านบาท และรักษาอัตรากำไรขั้นต้นได้ไม่น้อยกว่า 23% โดยเริ่มเดินหน้าบุกตลาดตั้งแต่ไตรมาส 1 ด้วยเครื่องดื่มใหม่ในกลุ่มเครื่องดื่ม Non-Tea เพื่อขยายตลาดให้ครอบคลุมผู้บริโภคทุกกลุ่ม
จากผลประกอบการนิวไฮ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท อนุมัติจ่ายเงินปันผลประจำปี 2566 ในอัตราหุ้นละ 1.00 บาทต่อหุ้น ซึ่งได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วสำหรับงวดวันที่ 1 มกราคม – 30 กันยายน 2566 ในอัตราหุ้นละ 0.50 บาท เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2566 คงเหลือเงินปันผลจ่ายสำหรับงวดวันที่ 1 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2566 ในอัตราหุ้นละ 0.50 บาท โดยจ่ายจากกำไรสุทธิและกำไรสะสม (ซึ่งเป็นกำไรสะสมของกิจการที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล (BOI) ให้แก่ผู้ถือหุ้นและได้กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการรับเงินปันผลและมีสิทธิเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นฯ (Record Date) ในวันที่ 6 มีนาคม 2567 โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 10 พฤษภาคม 2567
ติดตามพวกเราได้ที่ LINE