จบไปแล้วสำหรับงานออกแบบกรุงเทพฯ 2567 (Bangkok Design Week 2024) พื้นที่ที่นักสร้างสรรค์ต่างได้แสดงศักยภาพผ่านการนำเสนองานออกแบบ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกคน ซึ่งในปีนี้มากับแนวคิดที่อยากให้กรุงเทพฯ เป็น “Livable Scape คนยิ่งทำ เมืองยิ่งดี” ในทุกรูปแบบที่เป็นไปได้
โดยแบรนด์กรุงศรี มีความตั้งใจที่จะทำให้ชีวิตของทุกคน ง่ายได้ทุกวัน ตาม Brand promise ที่วางไว้ ดังนั้นเมื่อพูดว่า “ชีวิตง่าย ได้ทุกวัน” แบรนด์จึงไม่ได้กำจัดตัวเองไว้ในกรอบเรื่องการเงินเท่านั้น แต่ขยับเข้ามาใกล้ชิดคนมากขึ้น เข้ามาอยู่ในไลฟ์สไตล์ของคนมากขึ้น จึงได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการจุดประกายไอเดียสร้างสรรค์ ในคอนเซปต์ “กรุงสี by กรุงศรี” (The City of Colours) ชวนทุกคนมาออกแบบและแชร์ไอเดียสีสันของกรุงเทพฯ ในแบบที่คุณอยากเห็น ให้กรุงเทพฯ สดใสและน่าอยู่ยิ่งขึ้น
“กรุงสี by กรุงศรี” เป็นไอเดียสร้างสรรค์แบบสนุกๆ ที่แบรนด์ธนาคารกล้าออกนอกกรอบเรื่องการเงิน และเข้ามาใกล้ชิดคนมากขึ้น ใส่ความครีเอทีฟลงไปตั้งแต่การตั้งชื่อผลงาน
ความน่าสนใจของนิทรรศการ “กรุงสี by กรุงศรี” (The City of Colours) คือการสื่อสารกับผู้เข้าร่วมงานโดยใช้ “สี” เป็นตัวแทนความคิดของผู้คน และตั้งคำถามง่ายๆ ชวนให้ทุกคนฉุกคิดว่า จริงๆ แล้ว “เราอยากเห็นกรุงเทพฯ เป็นสีอะไร” เนื่องจากสีสามารถสะท้อนอารมณ์ ความรู้สึกได้ ซึ่งกรุงศรีได้มีการสรุปผลภาพรวมที่เกิดขึ้นจากมุมมองของผู้ร่วมงาน พบว่า 3 สีที่สะท้อนมุมมองที่มีต่อกรุงเทพฯ และเป็นสีที่ผู้เข้าร่วมงานเลือกมากที่สุด คือ
อันดับที่ 1 Breeze Azure ที่สะท้อนได้ถึงความสะอาด สดชื่นเต็มปอด เมืองที่มองเห็นท้องฟ้าสดใส ไร้มลพิษ
อันดับที่ 2 Emerald Eco เขียวชอุ่ม เย็นตา เย็นใจ เมืองแห่งสายอีโค่ แคร์ธรรมชาติ รักษ์ป่า รักษ์โลก
อันดับที่ 3 Art & Culture Amber ที่สะท้อนถึงความเรืองรองของศิลปะและวัฒนธรรม เมืองที่เหลืองทองอร่ามไม่เสื่อมคลาย
แต่ทั้งนี้ จากการประมวลภาพรวมทั้งหมดยังพบด้วยว่า สีสันที่ถูกเลือกทั้งหมดอยู่ในระดับสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน ดังนั้นหากตีความจากผลสรุปทั้งหมดก็อาจจะพอสรุปในอีกมุมหนึ่งว่า กรุงเทพฯ เป็นเมืองแห่งการผสมผสาน คละเคล้ากันอย่างกลมกลืนในมิติที่หลากหลาย สิ่งนี้อาจจะความน่าสนใจและความน่าอยู่ของกรุงเทพฯ ในอีกรูปแบบหนึ่ง
ทั้งนี้ ถ้ามองย้อนกลับมาถึงความสำเร็จของนิทรรศการที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ของกรุงศรี ก็ต้องยอมรับว่ากรุงศรีฉีกขนบของการเป็นธนาคารที่มักจะพูดในมิติเรื่องการเงิน และกระโดดเข้าสู่เรื่องของการใช้ชีวิต เข้าใกล้มุมมองและไลฟ์สไตล์ของผู้คนมากขึ้น ในมุมแบรนด์ก็ถือว่าใส่ความคิดสร้างสรรค์ คิดนอกกรอบ และพร้อมที่จะปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยใหม่อยู่ตลอดเวลา โดยนำความคิดสร้างสรรค์นั้น มาสร้างเป็นนิทรรศการที่ก่อให้เกิดแรงบรรดาลใจกับคนทุกคน โดยเฉพาะกลุ่มคนเจเนอเรชั่นใหม่ เพราะการมีชีวิตที่ง่ายขึ้นได้ทุกวัน ครอบคลุมตั้งแต่เรื่องการเงิน ทัศนคติ ความคิด และการใช้ชีวิต
ดังนั้น การจุดประกายให้ทุกคนได้ออกแบบกรุงเทพฯ ให้เป็นสี ในเฉดที่อยากให้เป็น เป็นอีกหนึ่งมิติที่สื่อว่า แบรนด์กรุงศรีสนับสนุนทุกความคิดที่แตกต่างและหลากหลาย พร้อมจะอยู่เคียงข้างทุกๆ คน และเติบโตไปด้วยกัน
ติดตามเรื่องราว และกิจกรรมดีๆ จากกรุงศรี ที่จะส่งมอบ “ชีวิตง่ายได้ทุกวัน” ให้กับทุกๆ คน ได้ที่ https://www.facebook.com/KrungsriSimple