LG คาดการณ์ตลาดเครื่องปรับอากาศ 2024 โต 20% แตะที่มูลค่า 34,327 ล้านบาท และมีกลุ่ม Inverter ครองส่วนแบ่งกว่า 70% ด้านผู้บริหารวิเคราะห์ เครื่องปรับอากาศกลุ่มราคา 14,000 – 15,000 บาทจะเป็นรุ่นที่ขายดีที่สุด เล็งเจาะตลาดต่างจังหวัดเพิ่ม
ตลาดเครื่องปรับอากาศ 2024 เริ่มส่งสัญญาณร้อนแรง โดยค่าย LG เผย 4 ปัจจัยดันตลาดโต ได้แก่ ปรากฏการณ์เอลนีโญ ที่ส่งผลให้อากาศในปีนี้อาจร้อนสูงสุดได้ถึง 45.5 องศาเซลเซียส, การกลับมาของภาคการท่องเที่ยวที่ทำให้ธุรกิจมีการลงทุนมากขึ้น, การซื้อซ้ำ และการปรับราคาค่าไฟฟ้า ซึ่งผู้บริหาร LG มองว่า เครื่องปรับอากาศที่มีการใช้ AI ช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายจะกลายเป็น “ทางเลือกใหม่” ของตลาดระดับกลาง – บน (ราคา 19,000 บาทขึ้นไป)
ส่วนเครื่องปรับอากาศที่มีแนวโน้มเติบโตได้ดีในตลาดต่างจังหวัดคือกลุ่มสินค้าระดับกลาง-ล่าง (ช่วงราคา 14,000 – 15,000 บาท)
ด้านคุณอำนาจ สิงหจันทร์ หัวหน้าฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงกลยุทธ์ของ LG ในธุรกิจเครื่องปรับอากาศในปีนี้ว่า จะให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีมากขึ้น และมีการเปิดตัวเครื่องปรับอากาศที่มีการใช้ AI ช่วยควบคุมค่าไฟ (kW Manager by ThinQ) ได้ผ่านสมาร์ทโฟน เช่น รุ่น Dual Cool Elite (ขนาด 13000 BTU ราคา 39,900 บาท)
เพิ่มฟิลเตอร์เครื่องฟอก เจาะตลาดคนรักสัตว์
นอกจากนั้น LG ยังมีการเปิดตัวเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ และเครื่องฟอกอากาศ รวมถึงฟิลเตอร์รูปแบบต่าง ๆ เพื่อจับกลุ่มธุรกิจ และคอนซูเมอร์ที่กังวลเรื่องปัญหามลภาวะ และฝุ่น PM 2.5 ด้วย โดยเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ที่มีการเปิดตัวในปีนี้พบว่า มีทั้งแบบฝังฝ้า, แขวนใต้ฝ้า, ตู้ตั้งพื้น และแบบท่อลมซ่อนใต้ฝ้า ซึ่งเน้นในเรื่องดีไซน์มากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ธุรกิจที่ต้องการเครื่องปรับอากาศที่มีดีไซน์สวยงาม และใช้ตกแต่งร้านได้นั่นเอง
ขณะที่ฟิลเตอร์เครื่องฟอกอากาศก็พบว่ามีหลากหลาย เช่น ฟิลเตอร์เครื่องฟอกอากาศสำหรับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง, ฟิลเตอร์สำหรับบ้านที่เพิ่งตกแต่งเสร็จใหม่ ๆ (กรณีนี้บ้านอาจมีกลิ่นสีที่เป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ), ฟิลเตอร์สำหรับบ้านที่อยู่ติดถนน (อาจมีปัญหาด้านฝุ่นควันจากรถยนต์) เป็นต้น
นอกจากนี้ ผู้บริหาร LG ยังได้เผยถึงช่วงที่ขายดี ซึ่งก็คือฤดูร้อน (ยอดขาย 70% ของปีเกิดขึ้นในฤดูดังกล่าว) โดยบริษัทได้ตั้งงบการตลาดเอาไว้ที่ 200 ล้านบาท และมองว่า จะไม่เน้นแข่งขันด้านราคา แต่มองว่าผู้บริโภคยุคใหม่ยอมจ่ายเพิ่มขึ้น หากมีเทคโนโลยีที่ช่วยประหยัดไฟ และสินค้ามีคุณภาพที่ดี