ใกล้เข้ามาทุกขณะแล้วสำหรับการเปิดให้บริการ “เกษรอัมรินทร์” Gaysorn Amarin หลังเปิดรีโนเวตไปนานกว่า 1 ปี กับงบประมาณมากกว่า 1,000 ล้านบาท กับพื้นที่ทั้ง 5 ชั้นกว่า 37,000 ตร.ม. เพื่อขยายพื้นที่ของแต่ละส่วน (Component) ให้มีความพิเศษและยิ่งใหญ่มากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการต่อยอดอาณาจักรค้าปลีกหรูกลางกรุงฯ ของ กลุ่มเกษร พร็อพเพอร์ตี้ กับ 3 อาคาร ได้แก่ เกษรทาวเวอร์ เกษรเซ็นเตอร์ โครงการ เกษรวิลเลจ และ เกษรอัมรินทร์
สำหรับโฉมใหม่ของ “เกษรอัมรินทร์” มาพร้อมรูปลักษณ์ใหม่จากการดีไซน์มุมมองใหม่ด้านหน้าอาคาร (Façade) เป็นแนวคิดสถาปัตยกรรมที่เรียกว่า “เกษร โคคูน” (Gaysorn Cocoon) ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากรังไหม อันเป็นสัญลักษณ์ของการเจริญเติบโตงอกงามอย่างสวยงาม พร้อมการผสมผสานไปกับเสาโรมัน ที่เป็นสัญลักษณ์ของความรอบรู้ และภูมิปัญญาอย่างยั่งยืน
“LV The Place Bangkok” สาขาแรกในประเทศไทย ครบทั้งแฟชั่น-คาเฟ่-ร้านอาหาร-นิทรรศการ
โครงการดังกล่าวนอกจากจะมีร้านค้าชั้นนำมากมากมายแล้ว มีไฮไลท์สำคัญที่น่าสนในคือ “LV The Place Bangkok” โดยตั้งเด่นตระหง่านอยู่บริเวณด้านหน้าโฉมใหม่ของ Gaysorn Amarin ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ใหม่ครั้งแรกของทางค่าย ที่มาพร้อมการตกแต่งด้วยลวดลายโมโนแกรม กระจก และตัวเรือนแก้วโดยรอบ
นอกจากการเป็น Louis Vuitton สาขาลำดับที่ 7 ในประเทศไทยแล้ว ความพิเศษของแฟลกชิปแห่งนี้คือ การเปิดตัวสาขาเต็มรูปแบบที่ประกอบด้วย 4 ส่วนหลักได้แก่
- ร้านแฟชั่น Louis Vuitton
- ร้านอาหาร Gaggan at Louis Vuitton ในรูปแบบ Louis Vuitton Restaurant ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นการคอลแลบกันระหว่างร้าน Gagganและ Louis Vuitton สนนราคา มื้อกลางวัน 8 คอร์ส ราคา 4,000++บาท บวกกับ Wine Journey 3,500++บาท และมื้อเย็นจะเป็น 17 คอร์ส ราคา 8,000++บาท บวกกับ Wine Journey 6,000++บาท
- Le Cafe Louis Vuitton แห่งที่สองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถัดจากสิงคโปร์ที่เพิ่งเปิดให้บริการที่ ร้าน Louis Vuitton Island Store ใน Marina Bay Sands ไปเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ 2024 ที่ผ่านมา ซึ่งมีทั้งเมนูเครื่องดื่ม เบเกอรี่ ราคาเร่ิมต้นที่ 250 บาท ไปจนถึง 550 บาท
- นิทรรศการ Louis Vuitton Visionary Journeys
โดยการเดินหน้าขยายสาขา Louis Vuitton ในรูปแบบร้านอาหารและคาเฟ่ ถือเป็นการสานต่อนโยบายในการมองหาโอกาสทางการเติบโตใหม่ๆให้แก่ธุรกิจที่ไม่ใช่แค่แฟชั่น กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า และเครื่องประดับอีกต่อ หากแต่คือการใช้จุดแข็งของแบรนด์ที่มีอยู่แล้วมาต่อยอดให้มากที่สุด
สอดคล้องกับคำให้สัมภาษณ์ของ Bernard Arnault ซีอีโอของ LVMH (Louis Vuitton Moet Hennessy) ที่เคยกล่าวไว้ในงาน Mayfair เมื่อปี 2562 ก่อนที่จะมีการเปิดคอนเซ็ปต์คาเฟ่ครั้งแรกในโลกที่ประเทศญี่ปุ่นว่า อนาคตของแบรนด์ลักชัวรี่ จะไม่หยุดอยู่แค่การผลิตสินค้าแต่เพียงอย่างเดียวอีกต่อไป
หากแต่เป็นการขยับไปสู่การสร้างประสบการณ์ให้ลูกค้าได้สัมผัส ซึ่ง LVMH ก็เป็นผู้หนึ่งที่ต้องการประสบความสำเร็จในทั้งสองเซกเมนต์นี้ และนอกจากภัตตาคารร้านอาหารแล้วยังมีแผนในการขยายโรงแรมระดับลักชัวรี่อยู่ในแผนด้วย
“Lawry’s The Prime Rib” ร้านเนื้ออบชื่อดังจากอเมริกา กับคอนเซ็ปต์พิเศษสาขาแรกในประเทศไทย
ต่อกันที่ร้านเนื้ออบชื่อดังอายุกว่า 80 ปี จากสหรัฐอเมริกา Lawry’s The Prime Rib สาขาแรกในประเทศไทย ที่นำเข้าโดย “ฟลุค เกริกพล” ควักเงินลงทุนกว่า 90 ล้านบาท ซื้อไลเซ่นส์เข้ามาขยายสาขาในไทย โดยคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการได้ในช่วงเดือนมิถุนายนนี้
มีเมนูขึ้นชื่อคือสเต็ก ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายเมนู เนื้อหลายแบบ โดยเฉพาะ Prime Rib ซึ่งเป็นซิกเนเจอร์เมนู ที่มาพร้อมกับเครื่องเคียงมากมาย เช่น สลัด ซึ่งที่นี่มี signature คือ ให้พนักงานมามิกซ์สลัดให้ถึงโต๊ะ โดยใช้ชามสลัดที่หมุนๆอยู่บนน้ำแข็ง ซึ่งให้ความรู้สึกสดใหม่พรีเมี่ยมแก่ลูกค้า ซึ่งราคาเริ่มต้นน่าจะต่ำกว่า 2,000 บาท นอกจากนี้ยังมีเซ็ตเมนูราคาเริ่มต้นกว่า 3,000 บาท ครบทั้งเมนูหลักสเต๊ก ของหวาน เครื่องเคียง เป็นต้น
อีกหนึ่งความพิเศษของที่ประเทศไทยคือการทำคอนเซ็ปต์บาร์เมนูพิเศษ ที่มีซีฟู้ด จำหน่ายในร้าน โดยจะมีการทำเป็น Seafood Tank อาหารทะเลจากนานาประเทศ และยังมีที่กดไวน์กว่า 20 หัวให้ลูกค้าได้เลือกสรร ซึ่งราคาตั้งแต่หลักบาทไปจนถึงหลักแสนบาท
Copper Beyond Buffet ร้านบุฟเฟต์เกรดพรีเมี่ยมชื่อดังที่จะมาปักหมุดกลางกรุงฯ
และสุดท้ายกับบุฟเฟต์พรีเมี่ยมชื่อดัง Copper ร้านบุฟเฟต์เกรดพรีเมี่ยมชื่อดังย่านปิ่นเกล้าที่จะมาปักหมุกแห่งแรกกลางกรุงกับคอนเซ็ปต์ใหม่ที่การันตีความพรีเมี่ยมยิ่งกว่าเดิม Copper Beyond Buffet ที่จะหรูหราอลังการขึ้นอย่างแน่นอน มาพร้อมเมนูชื่อดังแบบครบไลน์ และเมนูพิเศษอีกมากมาย บริเวณชั้น 3 ของศูนย์ฯ ที่พร้อมจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้
การกลับมาของ “แมคโดนัลด์” สาขาแรก
นอกจากแม็กเน็ตใหม่ทั้ง 3 แห่งแล้วอีกหนึ่งร้านที่ลูกค้าต่างตั้งตารอการกลับมาไม่แพ้กันคือ “แมคโดนัลด์” สาขาแรกที่เคยตั้งเด่นอยู่บริเวณด้านหน้าอันเป็นเอกลักษณ์ว่าจะกลับมาหรือไม่ เพราะในปี 2565 หรือเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ก่อนจะปิดตัวสาขาดังกล่าวเพื่อรีโนเวตอย่างเป็นทางการ ทางแมคโดนัลด์ ได้ประกาศทิ้งท้ายว่า แล้วเจอกันใหม่ในอีก 2 ปี นั่นก็แปลว่ามีโอกาสสูง ที่เราจะได้เห็นโฉมใหม่ของแมคโดนัลด์ สาขาแรกในประเทศไทย ที่จะกลับมาพร้อมโฉมใหม่บนทำเลทองแห่งนี้
แม้จะยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนของการกลับมาของแบรนด์ดัง แต่เชื่อว่าแฟนพันธุ์แท้แมคโดนัลด์หลายคนคงอยากเห็นการกลับมาอีกครั้งอย่างแน่นอน
ติดตามพวกเราได้ที่ LINE