ปี 2566 บริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด (BNN) เจ้าของธุรกิจร้านอาหาร “สุกี้ตี๋น้อย” ที่ก่อตั้งโดย คุณเฟิร์น นัทธมน พิศาลกิจวนิช โชว์กำไรนิวไฮ 913 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54% จากปีก่อนหน้า ท่ามกลางการแข่งขันเดือดในตลาดสุกี้ชาบู
ร้านสุกี้ตี๋น้อยในปี 2566 มีสาขารวม 55 สาขา (ณ สิ้นเดือน ธันวาคม 2566) ในปีที่ผ่านมาได้เปิดสาขาเพิ่มขึ้น 13 สาขา โดยสาขาที่เปิดเพิ่มมีส่วนหนึ่งที่ได้เริ่มขยายออกไปต่างจังหวัด เช่น ชลบุรี สุพรรณบุรี นครราชสีมา เป็นต้น ซึ่งเป็นทำเลที่มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการค่อนข้างหนาแน่น จากแนวคิดให้บริการสุกี้ชาบู บุฟเฟต์ราคาคุ้มค่า 219 บาท ทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างดี
โดย บมจ.เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (JMART) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้น BNN (สุกี้ตี๋น้อย) ในสัดส่วน 30% รายงานผลกำไรสุทธิปี 2566 ของสุกี้ตี๋น้อย อยู่ที่ 913 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54% จากปี 2565 ที่ทำกำไร 591 ล้านบาท (โดยเป็นส่วนแบ่งกำไรให้ JMART 274 ล้านบาท จากการถือหุ้น 30%)
ย้อนดูรายได้และกำไรสุกี้ตี๋น้อย
– ปี 2562 รายได้ 499 ล้านบาท กำไร 15 ล้านบาท
– ปี 2563 รายได้ 1,223 ล้านบาท กำไร 140 ล้านบาท
– ปี 2564 รายได้ 1,572 ล้านบาท กำไร 148 ล้านบาท
– ปี 2565 รายได้ 3,976 ล้านบาท กำไร 591 ล้านบาท
ปี 2566 เป็นปีที่ธุรกิจสุกี้ตี๋น้อย มีความเคลื่อนไหวสำคัญ ทั้งการขยายสาขาสุกี้ตี๋น้อยไปต่างจังหวัด เปิดแบรนด์ใหม่ ร้าน “ข้าวแกง ตี๋น้อยปันสุข” ราคาเริ่มต้น 39 บาท เป็นโปรเจกต์ที่ทำขึ้นมาเพื่อบริหารวัตถุดิบในร้านสุกี้ตี๋น้อยให้เกิดประโยชน์สูงสุดและไม่ให้เกิด food waste
เปิดร้าน “ตี๋น้อย ป๊อปอัพ คาเฟ่” ร้านเครื่องดื่มและขนมหวาน ร้าน “ตี๋น้อย เอ็กซ์เพรส” (Teenoi Express) ร้านสุกี้พรีเมียม ราคาเดียว 439 บาท เพื่อเป็นอีกตัวเลือกให้ลูกค้าในกลุ่มพรีเมียม วัตถุดิบมีความหลากหลาย เนื้อนำเข้าจากต่างประเทศ แบบที่ไม่มีในร้านสุกี้ตี๋น้อย นอกจากนี้มีน้ำซุปและน้ำจิ้มมากขึ้น
โดยเป้าหมายต่อไปของ BNN (สุกี้ตี๋น้อย) คือการเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปี 2567
ติดตามพวกเราได้ที่ LINE
อ่านเพิ่มเติม