TikTok เปิดกลยุทธ์ 2024 บุกตลาด Long Form Content ประกาศเป็นแหล่งรวมความบันเทิง หรือ Entertainment Hub ภายในไตรมาส 1 พร้อมชูแนวคิด “TikTok For All” สนับสนุน Ecosystem ไทย
TikTok แพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ที่มีผู้ใช้งาน 325 ล้านคนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Monthly Active Users) เผยทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2024 โดยจะให้ความสำคัญกับ Long Form Content หรือคอนเทนต์ที่มีความยาวมากกว่า 1 นาทีมากขึ้น หลังพบความสนใจของผู้ใช้งานเติบโตอย่างต่อเนื่อง
จากสถิติของ TikTok ยังพบด้วยว่า 50% ของผู้ใช้งานใช้เวลา 50% ของตนเองไปกับคอนเทนต์ที่มีความยาวมากกว่าหนึ่งนาที ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ผู้ใช้งาน TikTok ไม่จำกัดตัวเองอยู่กับคอนเทนต์สั้น ๆ อีกต่อไป
นอกจากนี้ ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ครีเอเตอร์ที่สร้างคอนเทนต์แบบยาวกว่าหนึ่งนาที มีผู้ติดตามเพิ่มขึ้น 5 เท่า เมื่อเทียบกับครีเอเตอร์ที่โพสต์แต่คอนเทนต์แบบสั้น และยอดการรับชมคอนเทนต์แบบยาวก็เพิ่มขึ้นถึง 41% หรือสูงกว่าการรับชมคอนเทนต์วิดีโอแบบสั้นถึง 7 เท่าเลยทีเดียว
ทั้งนี้ ในภาพรวม การรับชมคอนเทนต์ที่มีความยาวกว่า 1 นาทีบน TikTok มีการเติบโตขึ้น 31%
ส่วนในมุมของเทรนด์การพัฒนาคอนเทนต์บน TikTok ในปี 2024 คุณพิสุทธิ์ โรจน์เลิศจรรยา Head of Operations – Thailand เผยว่า ประกอบด้วยเทรนด์หลัก ๆ 4 หัวข้อ ได้แก้
- Fun & Joyful เน้นความสนุกเป็นหลัก
- Authentic & Inspire เนื้อหาสร้างแรงบันดาลใจ
- New Rising creators ครีเอเตอร์หน้าใหม่
- Top Categories คอนเทนต์ในหมวด Top Categorise เช่น ความบันเทิง การท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ อาหาร ความงาม แฟชั่น และการศึกษา – หนังสือที่น่าสนใจ
ก้าวสู่การเป็น Entertainment Hub
คุณพิสุทธิ์ยังได้กล่าวถึงมุมของ Publisher ในภูมิภาค และเผยว่า TikTok ต้องการเป็นแพลตฟอร์มที่สนับสนุน Publisher เหล่านั้น โดยจะเปิดตัว Entertainment Hub เพื่อเป็นแหล่งรวมของคอนเทนต์ต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ใช้งาน TikTok เข้ามารับชมได้จากแพลตฟอร์ม
ทั้งนี้ ความชัดเจนของการเป็น Entertainment Hub ของ TikTok จะมีการให้รายละเอียดเพิ่มเติมภายในไตรมาส 1 ของปีนี้
สร้างตลาดอีคอมเมิร์ซที่เชื่อถือได้
ส่วนในมุมของการเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ข้อมูลจาก TikTok ระบุว่า ปัจจุบัน TikTok ให้การสนับสนุนผู้ขายมากกว่า 2.4 ล้านราย โดย 99% เป็นผู้ขายในประเทศ ซึ่งคุณกรณิการ์ นิวัติศัยวงศ์ Head of FMCG, E-Commerce – Thailand เผยถึงจุดเด่นของแพลตฟอร์มว่า เป็นประสบการณ์การช้อปปิ้งแบบ infinity loop โดยทำให้ผู้ใช้สามารถค้นพบสินค้า – ไปจนถึงการตัดสินใจซื้อ รีวิว แล้วกลับไปสู่การค้นพบอีกครั้งได้เลยทีเดียว
นอกจากนั้น ผลการสำรวจของ Boston Consulting Group ร่วมกับ TikTok ในการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคใน APAC ยังชี้ว่า 71% ของคอนเทนต์ที่มีการรับชมบน TikTok ยังสามารถสร้างแรงจูงใจในการซื้อได้ด้วย
ส่วนทิศทางของการสนับสนุน Ecosystem ดังกล่าวในปีนี้ก็คือการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแพลตฟอร์มมากขึ้น โดยคุณกรณิการ์ได้ยกตัวอย่างการแบนผู้ขายที่ละเมิดนโยบายของ TikTok Shop เช่น ขายสินค้าไม่ตรงกับความเป็นจริง การขายสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ฯลฯ เป็นต้น โดยในปี 2024 TikTok ตั้งเป้าที่จะขับเคลื่อนการเติบโตในกลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค (CPG) คอมเมิร์ซ อาหารและเครื่องดื่ม (F&B) ยานยนต์ การเงิน และแอปพลิเคชัน ให้เข้มข้นขึ้น