อเมซอน เว็บ เซอร์วิส หรือ AWS โชว์ผลสำรวจ การมีทักษะด้าน AI ช่วยเพิ่มเงินเดือนได้ คาดอีก 5 ปีข้างหน้า 92% ของนายจ้างจะใช้วิธีแก้ปัญหาธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วย AI ขณะที่ต้นทุนในการเข้าถึง AI ของคนไทยอยู่ในราคาหลักพันบาทต่อคนต่อเดือน และอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มปรับใช้ AI เร็วที่สุดคือ การเงิน ภาคการผลิต และภาคการบริการ
การวิจัยดังกล่าวเป็นการทำงานร่วมกันกับ Access Partnership โดยเป็นการศึกษากลุ่มคนทำงานและนายจ้างทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (APAC) ในหัวข้อ “การยกระดับทักษะด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI): การเตรียมความพร้อมบุคลากรในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกสู่งานแห่งอนาคต” ซึ่งในประเทศไทยพบว่า ได้มีการสอบถามจากพนักงานกว่า 1,600 คน และนายจ้าง 500 ราย
ทั้งนี้ สิ่งที่รายงานดังกล่าวพบก็คือ
- บุคลากรในประเทศไทย 95% สนใจพัฒนาทักษะด้าน AI เพื่อความก้าวหน้าในอาชีพ
- 98% ของพนักงานในไทยคาดว่า การเพิ่มทักษะด้าน AI จะทำให้พวกเขามีโอกาสก้าวหน้าในหน้าที่การงานมากขึ้น
Gen X-Y-Z-Babyboomer สนใจพัฒนาทักษะ AI
รายงานดังกล่าวพบด้วยว่า เมื่อเจาะลึกลงไปในแต่ละช่วงวัย ต่างมีความสนใจพัฒนาทักษะ AI กันทั้งสิ้น โดยกลุ่ม BabyBoomer มีความสนใจสูงสุดถึง 97% (หากได้รับโอกาส) รองลงมาคือ Gen X และ Gen Y ที่ 95% ส่วน Gen Z อยู่ที่ 93%
นายจ้างคาด AI เพิ่มพลังให้องค์กร
ในมุมของนายจ้าง สิ่งที่ผลการศึกษานี้พบก็คือ มีความคาดหวังว่า การใช้ AI จะทำใหประสิทธิภาพขององค์กรเพิ่มขึ้น 58% ปรับงานซ้ำซ้อนให้เป็นระบบอัตโนมัติได้ 65% ส่วนในมุมพนักงานเชื่อว่า AI สามารถยกระดับประสิทธิภาพในการทำงานของตนเองได้มากถึง 56% เลยทีเดียว
สำหรับหน่วยงานที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการใช้ AI มากที่สุดในองค์กร ผลการศึกษาชี้ว่ามีดังต่อไปนี้
- ฝ่ายไอที 97%
- ฝ่ายวิจัยและพัฒนา 95%
- ฝ่ายการเงิน 95%
- ฝ่ายการดำเนินธุรกิจ 94%
- ฝ่ายขายและการตลาด 93%
- ฝ่ายทรัพยากรบุคคล 91%
- ฝ่ายกฎหมาย 90%
ทักษะด้าน AI อัปเงินเดือนคนทำงานอย่างไร
ในส่วนของการปรับเงินเดือน ผลการศึกษาพบว่า ประเทศที่มีรายได้ปานกลาง (เช่น ไทย อินโดนีเซีย อินเดีย) มีความคาดหวังเรื่องการขึ้นเงินเดือนมากที่สุด และคนทำงานมีความคาดหวังเชิงบวกต่อศักยภาพของ AI ในการเพิ่มค่าจ้างมากกว่าประเทศที่มีรายได้สูง (เช่น ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ และเกาหลีใต้) โดยคนทำงานในอินเดียอาจได้เงินเดือนขึ้นอย่างน้อย 54% รองลงมาคือประเทศไทยที่ 41%
ผลการศึกษาชี้ว่า เหตุที่คำตอบเป็นเช่นนั้น เนื่องจากประเทศที่มีรายได้ปานกลางมักมีข้อจำกัด หรือความท้าทายในการขยายการดำเนินงาน เทคโนโลยี AI จึงมีความน่าสนใจ เพราะสามารถช่วยเพิ่มผลิตภาพได้นั่นเอง
คุณวัตสัน ถิรภัทรพงศ์, Country Manager, AWS Thailand
คุณวัตสัน ถิรภัทรพงศ์ Country Manager ประจำ AWS ประเทศไทย กล่าวว่า “Generative AI มอบโอกาสพลิกโฉมธุรกิจในประเทศไทยแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน และผลการศึกษาในครั้งนี้ตอกย้ำให้เห็นถึงความสำคัญในอนาคตด้านทักษะ AI สำหรับพนักงานอย่างชัดเจน อุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้ปรับตัวใช้ AI อย่างรวดเร็ว ตั้งแต่บริการทางการเงินไปจนถึงการก่อสร้าง การค้าปลีก หรือแม้แต่ภาครัฐที่มุ่งเน้นพัฒนานโยบายด้านการส่งเสริม AI จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมพนักงานที่มีทักษะด้าน AI ถึงมีความสำคัญในการเสริมสร้างวัฒนธรรมการสร้างสรรค์นวัตกรรมและขับเคลื่อนประสิทธิภาพการทำงานในประเทศไทย”
ปัญหาใหญ่โลกเทคโนโลยี “ขาดคนเชี่ยวชาญ”
หากเรายังจำกันได้ เมื่อ 7 – 10 ปีก่อน วงการเทคโนโลยีก็เคยสร้างความตื่นตัวเรื่องการขาดแคลนแรงงานด้าน Data Science จนทำให้เกิดการพัฒนาบุคลากรในสายอาชีพ Data Scientist กันเป็นจำนวนมาก มาวันนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ก็เป็นอีกหนึ่งกระแสที่กำลังเป็นที่ต้องการเช่นกัน โดยผลการศึกษานี้พบว่า สิ่งหนึ่งที่ประเทศไทยขาดแคลนคือบุคลากรที่มีทักษะด้าน AI การจ้างบุคลากรที่มีความพร้อมในทักษะ AI ถือเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้น ๆ ในกลุ่มนายจ้างไทย (94%) โดย 64% ในนี้ระบุว่าไม่สามารถหาบุคลากรที่มีทักษะ AI ตามที่พวกเขาต้องการได้
นอกจากนี้ ผลการศึกษายังเผยให้เห็นถึงช่องว่างด้านการฝึกอบรม โดย 89% ของนายจ้างระบุว่าพวกเขาไม่รู้วิธีการดำเนินโครงการฝึกอบรมบุคลากรด้าน AI และพนักงานอีก 81% กล่าวว่าพวกเขาไม่แน่ใจว่าทักษะด้าน AI จะเป็นประโยชน์แก่สายอาชีพใดได้บ้าง
โดยในมุมของ Amazon พบว่ามีการเปิดตัวโครงการ AI Ready เพื่อฝึกอบรมด้าน AI และ Generative AI แบบไม่เสียค่าใช้จ่าย รวมถึงยังมีหลักสูตรอบรมและเนื้อหาการเรียนการสอนด้าน AI แมชชีนเลิร์นนิง (Machine Learning : ML) และ Generative AI อีกกว่า 100 รายการจาก AWS Skills Builder และ AWS Educate (ศูนย์การเรียนรู้ออนไลน์ของ AWS)
92% นายจ้างเตรียมใช้ AI แก้ปัญหาธุรกิจ
สิ่งที่น่าสนใจประการหนึ่งคือผลการศึกษาชิ้นนี้ชี้ว่า AI จะเปลี่ยนโฉมหน้าการทำงานอย่างรวดเร็วในอีก 5 ปีข้างหน้าจากนี้ โดย 92% ของนายจ้างในภูมิภาคที่เข้าร่วมการสำรวจคาดการณ์ว่า จะใช้วิธีแก้ปัญหาที่ขับเคลื่อนด้วย AI หรือใช้ AI เป็นเครื่องมือภายในปี 2028 เลยทีเดียว เช่น แชทบอทที่สามารถช่วยแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้อย่างทันท่วงที
พร้อมกันนี้ นายจ้าง 95% ยังระบุด้วยว่า AI จะส่งผลบวกต่อองค์กร โดยนายจ้างจากประเทศอินโดนีเซียและอินเดียเป็นประเทศที่มีความคาดหวังสูงสุด
(การสำรวจดังกล่าวมีผู้เข้าร่วมตอบแบบสอบถามเกือบ 15,000 คนและองค์กรประมาณ 5,000 แห่งจากประเทศไทย ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย อินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ และเกาหลีใต้)
Photo Credit : NUMBER 24 – Authorized Shutterstock Partner in Thailand
เป็นเพื่อนกับเราได้ที่ LINE