บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) เดินหน้าขยายธุรกิจพลังงานทดแทน ล่าสุดเข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่ง (offshore wind power plants) จำนวน 2 แห่ง โดยเข้าซื้อหุ้นใน Nakwol Wind และ Hanbit Wind ในสาธารณรัฐเกาหลี รวมกำลังผลิตติดตั้ง 740 เมกะวัตต์ เพื่อสานต่อการร่วมพัฒนาธุรกิจพลังงานทดแทนในสาธารณรัฐเกาหลี สอดคล้องกับกลยุทธ์การขยายธุรกิจพลังงานที่มั่นคงและยั่งยืนในภูมิภาคเอเชีย มุ่งสู่การปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ในอนาคต
ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า B.Grimm Power Korea Limited บริษัทย่อยที่ บี.กริม เพาเวอร์ ถือหุ้น 100% ได้เข้าลงทุนใน Nakwol Blueheart Co., Ltd. (“Nakwol Wind”) ในสัดส่วนรวมร้อยละ 49 โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวม 35,750,400 ดอลลาร์สหรัฐ
โดย Nakwol Wind เป็นเจ้าของและผู้พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่ง Yeonggwang Nakwol ซึ่งมีกำลังผลิตติดตั้งประมาณ 365 เมกะวัตต์ โดย Nakwol Wind ได้ทำสัญญาเชื่อมต่อระบบโครงข่ายไฟฟ้ากับ Korea Electric Power Corporation (“KEPCO”) และมีสัญญาซื้อขาย REC ระยะยาวจาก Korea Southern Power Co., Ltd. (KOSPO) ซึ่ง KEPCO ถือหุ้น 100% เป็นระยะเวลา 20 ปี นับจากวันที่เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มในเดือนธันวาคม 2568
นอกจากนี้ บี.กริม เพาเวอร์ ยังได้เข้าลงทุนใน Hanbit Wind Power Co., Ltd. (“Hanbit Wind”) ในสัดส่วนร้อยละ 49 โดยมีมูลค่าการซื้อขายที่ 25,284,000 ดอลลาร์สหรัฐ โดย Handbit Wind เป็นเจ้าของและเป็นผู้พัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมนอกชายฝั่ง Yeonggwang Hanbit ซึ่งมีกำลังผลิตติดตั้งประมาณ 375 เมกะวัตต์ ซึ่งได้ทำสัญญาการเชื่อมต่อระบบโครงข่ายไฟฟ้ากับ KEPCO แล้วและอยู่ระหว่างดำเนินการด้านใบอนุญาตจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ (“COD”) ในเดือนธันวาคม 2569
ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ กล่าวว่า บี.กริม เพาเวอร์ ได้เดินหน้าขยายการลงทุนในสาธารณรัฐเกาหลีอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีโครงการอาทิ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงงานแสงอาทิตย์หลายโครงการรวมกำลังการผลิต 122.49 เมกะวัตต์ ซึ่งได้เปิด COD เรียบร้อยแล้ว โดยปลายปี 2567 จะมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่จะเปิด COD เพิ่มเติมอีก 20 เมกะวัตต์ นอกจากนี้ ยังมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมอยู่ในระหว่างการพัฒนาอีกไม่ต่ำกว่า 1 กิกะวัตต์
ทั้งนี้ ความต้องการใช้ไฟฟ้าในสาธารณรัฐเกาหลีมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องตลอดหลายปีที่ผ่านมา จากการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศที่เติบโตตามเป้าหมาย ซึ่งทำให้ความมั่นคงทางพลังงานกลายเป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างความเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยสาธารณรัฐเกาหลีได้ดำเนินกลยุทธ์การปฏิรูปพลังงาน ด้วยเป้าหมายก้าวสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี พ.ศ. 2593 เดินหน้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ และการเติบโตสีเขียว โดยตั้งเป้าในการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานลมนอกชายฝั่งจำนวน 20 กิกะวัตต์ ภายในปี พ.ศ. 2573
บี.กริม เพาเวอร์ ซึ่งเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งกับ KEPCO ได้สร้างความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการพัฒนาโครงการพลังงานทดแทนที่โดดเด่นในสาธารณรัฐเกาหลี ทั้งพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมนอกชายฝั่ง พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนเป้าหมายของสาธารณรัฐเกาหลี ที่ต้องการเป็นหนึ่งในประเทศที่ผลิตพลังงานลมนอกชายฝั่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก