เอ้ก ดิจิทัล (Egg Digital) ผู้ให้บริการด้านวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ สื่อโฆษณา และการให้คำปรึกษาด้านการตลาดดิจิทัลสัญชาติไทย โชว์การใช้งาน Gen AI ช่วยวิเคราะห์ยอดขายธุรกิจค้าปลีก พร้อมเปิดกลยุทธ์ 2024 ขยายตลาดเพิ่มสู่สถาบันการเงิน – รถยนต์ เล็งบินไกลสู่ North Asia ปักธงสิ้นปี 2024 รายได้ทะลุ 2,700 ล้านบาท
เรียกว่าเป็นอีกหนึ่ง MarTech สัญชาติไทยที่ใช้ AI ขับเคลื่อนธุรกิจจนสามารถสร้างรายได้ทะลุ 2,200 ล้านบาทได้ในปี 2023 (เติบโตจากปีก่อนหน้า 32%) และปัจจุบันให้บริการแล้วในสองประเทศ นั่นคือ ประเทศไทย และมาเลเซีย โดยมีฐานลูกค้าราว 400 รายในทุกหมวดธุรกิจ
ส่วนการเติบโตของ Egg Digital ในปีนี้ ดร. ธีรเดช ดำรงค์พลาสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ้ก ดิจิทัล จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้ตั้งเป้าการเติบโตไว้ที่ 25% หรือการทำรายได้ทะลุ 2,700 ล้านบาท โดยจะมีการขยายตลาดไปยังประเทศในแถบ North Asia เพิ่มขึ้น
สำหรับธุรกิจที่จะเริ่มโฟกัสมากขึ้นในปีนี้ พบว่า เป็นกลุ่มสถาบันการเงิน ยานยนต์ (จากเดิมความเชี่ยวชาญหลักของ Egg Digital คือธุรกิจค้าปลีก โดยมีลูกค้ารายใหญ่คือ โลตัส) โดยจะเป็นการผสานกำลังของ 3 หน่วยธุรกิจ ได้แก่
- ธุรกิจ Analytics AI and Consultation หรือการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกด้วย AI แก่ธุรกิจต่าง ๆ
- ธุรกิจ Media Convergence การผสานสื่อต่าง ๆ เข้าด้วยกัน ทั้งสื่อออนไลน์ สื่อในห้างค้าปลีก สื่อนอกบ้าน และกิจกรรมส่งเสริมการขายในห้าง
- ธุรกิจ MarTech Solution เป็นการพัฒนาเทคโนโลยีมาช่วยธุรกิจเพิ่มประสิทธิภาพด้านการตลาด ผ่านช่องทางการสื่อสาร SMS และ LINE รวมถึงเชื่อมโยงกับโมบายแอปพลิเคชัน
โชว์เคส Gen AI วิเคราะห์ข้อมูลยอดขาย
คุณวรภัทร งามเจตวรกุล ผู้จัดการทั่วไป ธุรกิจ Analytics AI and Consultation บริษัท เอ้ก ดิจิทัล จำกัด กล่าวว่า “การใช้ข้อมูล จัดเก็บ และวิเคราะห์บิ๊กดาต้ายังคงเป็นเทรนด์ที่ภาคธุรกิจทั่วโลกให้ความสำคัญ Egg Digital จึงจับอินไซต์นี้มาช่วยธุรกิจค้าปลีก ทั้งในการให้คําแนะนํากลุ่มค้าปลีกที่ลงลึกและรวดเร็วขึ้น ในราคาที่เข้าถึงได้ และต่อยอดเทคโนโลยี AI ไปยังความสามารถใหม่ ๆ เช่น EGG AI Wrap ที่ใช้ AI และ LLM (Large Language Model) วิเคราะห์ข้อมูลออกมาเป็นบทสรุปเชิงลึกที่เข้าใจง่ายและนำไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว หรือ EGG AI Talk ที่สามารถป้อนคำถาม คำสั่ง ให้หาคำตอบในประเด็นต่างๆ ออกมาเป็นภาษาที่เฉพาะเจาะจงกับธุรกิจคู่ค้าได้อย่างตรงประเด็น เช่น การเช็คยอดขายรายกลุ่ม รายสินค้า ในช่วงเวลาต่าง ๆ ช่องทาง สาขา ไปจนถึงพฤติกรรมการจับจ่ายของลูกค้าสมาชิกที่สามารถจำแนกประเภทลูกค้าเป็นกลุ่มได้ โดยทั้งสองบริการมีแผนจะเปิดตัวภายในปีนี้”
Media Convergence ในยุค Phygital
ด้านคุณชัชพล องนิธิวัฒน์ ผู้จัดการทั่วไป ธุรกิจ Media Convergence บริษัท เอ้ก ดิจิทัล จำกัด กล่าวว่า “เรากำลังอยู่ในยุค PHYGITAL ที่ผู้บริโภคใช้ชีวิตแบบผสมผสานระหว่างโลกดิจิทัลและโลกจริง มีพฤติกรรมหลากหลายและซับซ้อนมากขึ้น
นอกจากนั้น ผู้บริโภคยุคนี้ยังมองหา Third Place เพื่อพบปะสังคมและได้รับประสบการณ์จริงจากการซื้อสินค้าที่หน้าร้าน การทำ Media Convergence ของ Egg Digital จึงรวมตั้งแต่
- การใช้ First Party Data ข้อมูลขนาดใหญ่ที่รวบรวมพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าจากพันธมิตรห้างค้าปลีกที่มีฐานสมาชิกกว่า 15 ล้านคน และข้อมูล Third Party Data มาวิเคราะห์ และใช้ในการวางแผนการตลาด
- การใช้สื่อ O4 (Online, Out-of-Home, On-Premise, and On-Ground Activation) พร้อมแนะนำสัดส่วนที่เหมาะสม
คุณชัชพลกล่าวด้วยว่า แบรนด์ที่ใช้บริการ Media Convergence แบบครบวงจร สามารถเพิ่มอัตราผู้ซื้อ (Customer Conversion Rate) ได้สูงขึ้น 7.15 เท่า รวมถึงลูกค้าที่ซื้อสินค้าหน้าร้านใช้เงินสูงขึ้นกว่า 30% เมื่อเทียบกับการใช้สื่อเพียงสื่อใดสื่อหนึ่ง
เปิดตัว E-LON ดึงไลน์เพิ่มความน่าเชื่อถือ
สุดท้ายกับคุณรัฐธีร์ เจริญรัตน์วรกุล ผู้จัดการทั่วไป ธุรกิจ MarTech Solution บริษัท เอ้ก ดิจิทัล จำกัด กล่าวว่า “ในปี 2024 คาดการณ์ว่า องค์กรต่างๆ จะใช้งบลงทุนด้าน MarTech โดยเฉลี่ย 46% ของงบการตลาดขององค์กร (อ้างอิงจาก ContentShifu) สะท้อนให้เห็นว่า MarTech ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการทำการตลาดยุค Data-Driven ถือเป็นโอกาสทางธุรกิจที่น่าสนใจ ซึ่งเราจะรุกตลาดด้วย 2 แนวทาง ได้แก่
- เพิ่มศักยภาพบริการด้วย AI, เทคโนโลยีขั้นสูง และฐานข้อมูลของลูกค้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการวางกลยุทธ์และแผนการตลาดดิจิทัลให้คู่ค้า เพราะจาก Use Case ที่ประสบความสำเร็จในการใช้ AI และ Loyalty Platform สร้างแคมเปญการตลาดและให้ความรู้เรื่องผลิตภัณฑ์ ผลลัพธ์คือเราสามารถเพิ่มยอดขายให้กับแบรนด์ได้ 100% เปิดช่องทางการสื่อสารใหม่ และเพิ่มจำนวนสมาชิก Social Media ของแบรนด์ได้ถึง 30%
- เปิดตัวบริการใหม่ E-LON (EGG LINE Official Notification) โซลูชันส่งข้อความทางเบอร์โทรศัพท์ผ่าน SMS และ LINE ซึ่งจุดเด่นที่แตกต่างของบริการนี้อยู่ที่การนำดาต้าของคู่ค้ามาต่อยอดวิเคราะห์ด้วย AI ทำให้การส่งข้อความมีประสิทธิภาพและตรงกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น และยังสามารถยืนยันตัวตนผู้ส่งได้ ช่วยลดปัญหาข้อความจากมิจฉาชีพ ได้อีกทางหนึ่ง
ทั้งนี้ ดร. ธีรเดช กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า สำหรับปีนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายผลักดันรายได้เติบโตเพิ่มขึ้น 25% และขยายฐานลูกค้าได้เพิ่มขึ้น 15% เลยทีเดียว