HomeBrand Move !!หาดทิพย์ เตรียมถก ไทยน้ำทิพย์-โคคา โคล่า บริษัทแม่ นำเข้า “Jack Daniel’s Cola” ค็อกเทลพร้อมดื่ม ชิมลางตลาดแอลกอฮอล์เมืองไทย

หาดทิพย์ เตรียมถก ไทยน้ำทิพย์-โคคา โคล่า บริษัทแม่ นำเข้า “Jack Daniel’s Cola” ค็อกเทลพร้อมดื่ม ชิมลางตลาดแอลกอฮอล์เมืองไทย

แชร์ :

HTCหากเอ่ยถึงโคคา โคล่า ในประเทศไทย หลายคนคงคุ้นชื่อของ “ไทยน้ำทิพย์” ของตระกูลดัง “สารสิน-เคียงสิริ-บุญสูง” ที่ได้สิทธิ์ในการจัดจำหน่ายในประเทศไทยมายาวนานทั้งในเขตเหนือ อีสาน กลาง และสปป.ลาว

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

แต่เมื่อโฟกัสมาที่ตลาดใน “ภาคใต้” โคคา โคล่า ยังมี บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) หรือ HTC ของตระกูล “รัตตกุล” เป็นผู้รับลิขสิทธิ์การผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในเครือโคคา-โคล่าในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ ที่ประสบความสำเร็จมาต่อเนื่องยาวนาน โดยในปี 2566 ที่ผ่านมา “หาดทิพย์” สามารถสร้างยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 5 ปี 

มียอดขายรวม 7,806 ล้านบาท โตขึ้น 13.6%  ส่งผลให้มีกำไรสุทธิรวม 598 ล้านบาท เติบโต 38.8% โดยกลยุทธ์ที่ทำให้ “หาดทิพย์” เติบโตมาอย่างต่อเนื่องนั่นคือความแข็งแกร่งและความหลากหลายและการเติบโตทางธุรกิจ  ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจเครื่องดื่ม อสังหาริมทรัพย์ ตัวแทนจำหน่าย เป็นต้น ทำให้หาดทิพย์คืออีกหนึ่งยักษ์ใหญ่ในแดนใต้ที่มีความแข็งแกร่งในตลาดเป็นอย่างมาก

พลตรี พัชร รัตตกุล เปิดเผยว่า “ในปี 2566 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว จากข้อมูลของกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา พบว่าประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมากถึงกว่า 28 ล้านคน หรือเติบโตจากปี 2565 ถึง 154% โดยถ้าดูจากสถิติจากธนาคารแห่งประเทศไทยเกี่ยวกับการเข้าพักในโรงแรมและที่พักต่างๆ แล้ว จะพบว่ามีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในเขตพื้นที่ภาคใต้สูงกว่าภูมิภาคอื่นๆ

จึงทำให้ในปี 2567  “หาดทิพย์” ได้เปิดยุทธศาสตร์อย่างรอบด้านในกลุ่มเครื่องดื่มกับไลน์สินค้าใหม่ๆมากมาย เพื่อเดินหน้าสู่เป้าหมายในปี 2575 ด้วยการวางเป้าหมายยอดขาย 15,000 ล้านบาท และมีมูลค่าส่วนแบ่งการตลาดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮล์อย่างน้อย 35% ใน 14 จังหวัดภาคใต้  แต่อย่างไรก็ตามหากภาพรวมเศรษฐกิจยังไปได้ดี โอกาสที่ไปถึงอาจจะถึงตัวเลขดังกล่าวอาจจะอยู่แค่ 5-6 ปี

เตรียมถก “ไทยน้ำทิพย์-โคคา โคล่า บ.แม่ฯ” นำเข้า Jack & Coke  ค็อกเทลพร้อมดื่ม ชิมลางตลาดแอลกอฮอล์เมืองไทย

อีกหนึ่งทิศทางที่น่าสนใจคือการเดินหน้ารุกตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นครั้งแรกของ “โคคา-โคล่า” ในประเทศไทย โดย “พลตรี พัชร รัตตกุล” กล่าวว่า นอกจากสินค้าในกลุ่มเครื่องดื่มอัดลม และเครื่องดื่มทั่วไปแล้ว  บริษัทยังมีแผนบุกตลาดเครื่องดื่มแอลอฮอล์เข้ามาทำตลาดในไทย ด้วยการนำเข้าสินค้าแอลกอฮอล์ของทางกลุ่มโคคา โคล่า เข้ามาทำตลาดเพิ่มเติม เบื้องต้นขณะนี้ยังเป็นการศึกษาตลาด พฤติกรรมผู้บริโภค และยังต้องมีการเจรจาร่วมกันระหว่าง บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด และโคคา โคล่า บริษัทแม่เพื่อหาข้อตกลงร่วมกกัน

อย่างไรก็ตามสำหรับ Jack & Coke หรือ Jack Daniel’s Tennessee Whiskey and Coca-Cola ออกมาทำตลาดแล้วครั้งแรกเมื่อปลายปี 2022 ในหลายประเทศ  โดยในทวีปเอเชียมีการเข้าทำตลาดแล้วทั้งในญี่ปุ่น ฟิลลิปปินส์ และมาเลเซีย ได้มีการนำเข้ามาทำตลาดก่อนหน้าแล้ว ซึ่งก็สนใจนำเข้ามาทำตลาด เบื้องต้นขณะนี้กำลังศึกษาตลาดอยู่ 

 

HAADTHIP

 

นอกจากจะเป็นการเพิ่ม Occassion ในการดื่มของลูกค้าแล้ว ยังต้องการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ต้องการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบบเบาๆ ชิลๆ ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ราว  5% ซึ่งเกิดจากการจับมือกันอย่างเป็นทางการระหว่าง Jack Daniels และ Coke ในการบุกตลาดแอลกอฮอล์ ในรูปของเครื่องดื่มค็อกเทลแบบ Ready to Drink (กระป๋อง) เป็นการนำเอาความคลาสสิกของ Amarican Icon มาสร้างประสบการณ์ให้กับผู้บริโภค ด้วยความสะดวก พกพาได้

 

“เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตัวนี้ได้รับการเปิดตัวไปแล้วที่ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย ซึ่งเรามีแผนนำเข้ามาทำตลาดในไทย ส่วนจะเป็นรูปแบบไหน อย่างไรนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบตลาด”

 

นอกจากการนำเข้าผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อเติมความแข็งแกร่งของพอร์ตโฟลิโอสินค้าในเครือบริษัทแล้ว ในส่วนของธุรกิจหลักอย่าง “น้ำอัดลม” ปีนี้ยังมีแผนเปิดตัวสินค้าเครื่องดื่มในกลุ่มน้ำตาลน้อย และน้ำอัดลม ชา ต่างๆเข้ามาทำตลาดเพิ่ม จากปัจจุบันที่ “หาดทิพย์” วางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของโคคา โคล่า แล้วทั้งสิ้น 12 แบรนด์ จากทั้งหมด 500 แบรนด์ในเครือฯ 

นอกจากนี้ในยังจะโฟกัสผลิตภัณฑ์ขวดแก้วชนิดคืนขวด ซึ่งเป็นบรรจุภัณฑ์ที่หาดทิพย์มีความสามารถในการแข่งขันสูงกว่าคู่แข่ง นอกจากสามารถนำกลับมาวนใช้ ต้นทุนต่ำ เป็นผลดีต่อการบริหารต้นทุนบรรจุภัณฑ์ในระยะยาว และเป็นผลดีกับธุรกิจโรงแรม ภัตตาคาร ร้านอาหาร ยังช่วยลดขยะที่จะเกิดขึ้นหลังการบริโภคด้วย สอดคล้องกับเป้าหมายด้านความยั่งยืน บริษัทตั้งเป้าผลักดันยอดขายขวดแก้วให้ไปถึง 4.5%   จากปัจจุบันที่ 3%  หรือมีการเติบโตมากกว่า 13%

 

coke

 

ทุ่มอีกกว่า 800 ล้านบาท เพิ่มสายการผลิตโรงงานขวดแก้ว รับดีมานด์ตลาดภาคใต้

นอกจากนี้ส่วนหนึ่งของการเติบโตคือช่องวางทางการตลาดในการบริโภคน้ำอัดลมของผู้บริโภคในเขตภาคใต้ คนไทยบริโภค 150 ขวดต่อคนต่อปี นับว่าไม่มากเมื่อเทียบเม็กซิโก ที่บริโภค 400 ขวดต่อคนต่อปี (ภูมิอากาศแบบไทย) นับว่าเป็นอีกโอกาสทางการเติบโตอยู่สูงมากในการรุกตลาดในเขตภาคใต้ของไทย

ทั้งนี้เพื่อเป็นการรองรับเทรนด์ดังกล่าว “หาดทิพย์” ยังได้มีการลงทุนรวมอีกประมาณ 800 ล้านบาท เพื่อเพิ่มสายการผลิตของผลิตภัณฑ์ในบรรจุภัณฑ์ชนิดขวดแก้ว ที่โรงงานพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยคาดว่าจะเปิดสายการผลิตได้ก่อนไตรมาส 4 ปีนี้ และจะปิดโรงงานผลิตที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

 

HTC Factory

 

ทั้งนี้ เพื่อตอบสนองการเติบโตของยอดขายในช่องทางโรงแรม ภัตตาคาร และร้านอาหาร โดยจะกระจายผ่านจุดบริการทั้ง 20 แห่ง (ในพื้นที่ 14 จังหวัด) ซึ่งบริษัทฯ มองว่านอกจากจะเป็นการช่วยลดความเสี่ยงเรื่องต้นทุนบรรจุภัณฑ์ในระยะยาวแล้ว ยังเป็นการดำเนินการที่สอดคล้องกับเป้าหมายด้านความยั่งยืนของบริษัทฯ อีกด้วย โดยแผนจากนี้บริษัทจะใช้กลยุทธ์สร้างการเติบโตของรายได้ ผ่านการกำหนดขนาด รูปแบบผลิตภัณฑ์และช่องทางการจำหน่ายที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป

โดยเฉพาะในช่องทางธุรกิจ โรงแรม ร้านอาหาร และร้านสะดวกซื้อที่มีการเติบโตของยอดขายสูงจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังปรับราคาขายขึ้นเล็กน้อย พร้อมทั้งเร่งเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตควบคู่กันไป ส่งผลให้กำไรสุทธิเติบโต 38.8% ทั้งนี้มีเป้าหมายครองความเป็นผู้นำในตลาดน้ำอัดลมไปอีก 10 ปีข้างหน้า และมีแผนเติบโตในตลาดเครื่องดื่มทุกประเภทที่เข้าไปทำตลาด โดยในสิ้นปีนี้วางเป้าหมายการเติบโตไว้ที่ 6-8%

ติดตามพวกเราได้ที่ LINE

 


แชร์ :

You may also like