โมเดลร้านค้าแบบขายสินค้าเฉพาะคืออีกหนึ่งกลุ่มธุรกิจที่ได้รับความนิยมตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมาในประเทศไทย ทำให้มีแบรนด์จำหน่ายสินค้าเฉพาะทางเกิดขึ้นมากมายทั้งไทย จีน เกาหลี ญี่ปุ่น แต่หนึ่งในแบรนด์ที่น่าจับตาคือ มิสเตอร์.ดี.ไอ.วาย. (MR. D.I.Y.) ร้านค้าปลีกเฉพาะทางจากประเทศมาเลเซีย ได้เริ่มต้นดำเนินธุรกิจมาตั้งแต่ปี 2005 ก่อนจะเข้ามาทำธุรกิจในเมืองไทยเมื่อปี 2016
กว่า 8 ปีที่ มิสเตอร์.ดี.ไอ.วาย. ( MR. D.I.Y.) ค้าปลีกสินค้าซ่อมแซมและตกแต่งบ้านชื่อดังจากมาเลเซียเข้ามาทำตลาดที่ไทย มีสาขาทั้งสิ้น 770 สาขา ใน 73 จังหวัด กับจำนวนสินค้า 15,000 รายการ และเกิดการจ้างงานไปแล้วกว่า 9,000 คน เหล่านี้สะท้อนอัตราการเติบโตในกลุ่มธุรกิจร้านอุปกรณ์สำหรับซ่อมแซมและตกแต่งบ้านได้เป็นอย่างดี
ด้วยนโยบายที่ต้องการสร้าง D.I.Y. ให้เป็นร้านค้าปลีกที่เหมาะกับทุกช่วงอายุ ทำให้ทางร้านเลือกใช้กลยุทธ์ สินค้าที่หลากหลาย แต่ละมุม แต่ละโซน เพื่อตอบโจทย์ทุกๆคน ผ่ายยุทธศาสตร์ในการดำเนินงานในไทยอย่างรอบด้าน และครอบคลุมมากที่สุด
“ปีที่ผ่านมา คนไทยซื้อสินค้า ของ มิสเตอร์.ดี.ไอ.วาย. แล้ว 77 ล้านครั้ง หรือหากคิดเป็นสัดส่วนเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรไทย แล้วคนไทยซื้อสินค้าของทางร้านเฉลี่ยคนละ 1 ครั้ง นั่นทำให้ปีนี้เราลงเดินหน้าลงทุนเพื่อขยายสาขาในประเทศไทยเพิ่มเติม” คุณแอนดี้ ชิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. ประเทศไทย
กลยุทธ์ปี 2567: สร้างการเติบโตและการมีส่วนร่วมของลูกค้า
สำหรับคีย์เวิร์ดสำคัญที่ทางแบรนด์เลือกใช้ในการเติบโตของ มิสเตอร์.ดี.ไอ.วาย. ในปีนี้ยังคงโฟกัสอยู่ที่การขยายสาขาใหม่ ควบคู่กับความมุ่งมั่นในการนำเสนอสินค้าในราคาที่คุ้มค่า และการตอบสนองความพึงพอใจของลูกค้า
โดยมีแผนขยายสาขาเพิ่มเติมทั้งสิ้น 195 สาขา ซึ่งจะทำให้มีสาขาทั้งสิ้น 934 สาขาเงินลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาท โดย 80% จะเป็นแสตนอะโลนที่มีพื้นที่เฉลี่ย 600-800 ตร.ม.ขึ้นไป และในห้างสรรพสินค้า แหล่งชุมชน โรงเรียนอีก 20% นอกจากนี้ยังทำให้เกิดการจ้างงานมากกว่า 2,000 ตำแหน่ง จากปัจจุบัน 9,000 ตำแหน่งแล้ว
ส่วนในปี 2025 จะมีร้านของ มิสเตอร์.ดี.ไอ.วาย. ในไทย 1,100 สาขา ครอบคลุมใน 77 จังหวัดทั่วไทย เน้นภาคกลาง อีสาน ใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ใหญ่ที่ มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย ตั้งสาขาอยู่มีและศักยภาพการเติบโตสูง
ขณะเดียวกันยังมีแผนเปิดตัวแคมเปญสื่อสารภาพลักษณ์ใหม่ในชื่อ “ช้อปเกินครบ คุ้มเกินคาด” ในเดือนเมษายน 2567 เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์และคงให้แบรนด์มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. เป็นที่จดจำของลูกค้าต่อเนื่อง นอกจากนี้ มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. ยังมุ่งมั่นสร้างสรรค์ประสบการณ์กับลูกค้าผ่านหลากหลายกิจกรรมของแบรนด์ตลอดทั้งปี โดยจะมีการจัดกิจกรรมทางการตลาดและโปรโมชันตามเทศกาลต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
โดยปัจจุบันยอดจับจ่ายของลูกค้าอยู่ที่ 180-200 บาทต่อบิลและซื้อครั้งละ 4-5 ประเภทสินค้า แบ่งเป็นการจับจ่ายเครื่องครัว 36% อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ รวมถึงอาหาร-เครื่องดื่ม 19 % และฮาร์ดแวร์ (Hardware) 16% เป็นต้น
เปิดตัวช่องทางขายออนไลน์ใหม่ 2 ช่องทาง ได้แก่ LazMall -TikTok Shop บุกออนไลน์ครั้งแรก
อีกหนึ่งกลยุทธ์คือการจับมือกับ Tik Tok ในการสร้างการรับรู้ผ่านคอนเทนต์ต่าง ๆ เพราะโอกาสของ Tik Tok ในไทย มีอยู่จำนวนมาก จากความนิยมของคนไทยที่เพิ่มสูงขึ้น ควบคู่กับการเปิดตัวช่องทางขายออนไลน์ใหม่ 2 ช่องทาง ได้แก่ LazMall และ TikTok Shop เพื่อมอบความสะดวกสบายและช่องทางการเข้าถึงสินค้าที่หลากหลายยิ่งขึ้นให้กับลูกค้า อีกทั้งยังนำเสนอคอนเทนต์ดึงดูดใจ สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการตกแต่งบ้านที่ง่ายและสนุกสนาน โดยได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้วในเดือนมีนาคม 2567
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมด้านความยั่งยืน (ESG) ร่วมรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. จึงมีแผนการขยายการใช้รถไฟฟ้าในการดำเนินกิจการ รวมถึงการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาสาขาต่างๆ เพื่อผลิตพลังงานหมุนเวียนและลดการใช้แหล่งพลังงานจากฟอสซิล นอกจากนี้ มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. ยังคงให้ความสำคัญกับความยั่งยืนทางสังคม ด้วยการสร้างโอกาสทางการจ้างงาน เพื่อส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจและสร้างพลังให้ชุมชนท้องถิ่นอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
มิสเตอร์.ดี.ไอ. มีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 35% ในตลาดรวมค้าปลีกสินค้าตกแต่งบ้านและซ่อมแซมบ้าน ซึ่งจากการขยายสาขาในไทยอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ประเทศไทยกลายเป็นตลาดสำคัญอันดับต้นๆ ของบริษัทและยังเป็นประเทศที่มีจำนวนสาขามากที่สุดในต่างประเทศ รองเพียงประเทศมาเลเซียที่มีสาขาอยู่ประมาณ 1,200 แห่ง
ติดตามพวกเราได้ที่ LINE