HomeReal Estate & Condo‘เสนา’ ลุยเรียลดีมานด์ ยึดผู้นำตลาดกลาง-ล่าง ส่ง ‘เงินสดใจดี’ แก้โจทย์กู้ไม่ผ่าน จับเทรนด์ Gen Rent เน้นเช่า

‘เสนา’ ลุยเรียลดีมานด์ ยึดผู้นำตลาดกลาง-ล่าง ส่ง ‘เงินสดใจดี’ แก้โจทย์กู้ไม่ผ่าน จับเทรนด์ Gen Rent เน้นเช่า

แชร์ :

ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปีนี้ ยังเจอโจทย์ยากและท้าทาย จากปัจจัยเสี่ยงด้านเศรษฐกิจ และด้านอื่นๆ ทั้งปัญหาหนี้สินครัวเรือน ราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้น อัตราดอกเบี้ยปรับสูงขึ้นในรอบ 10 ปี ส่งผลให้สถาบันการเงินปฏิเสธการปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยสูงถึง 70% ราคาที่ดินปรับเพิ่มขึ้น 1.5% ทำให้ราคาที่อยู่อาศัยปรับเพิ่มขึ้นตามไปด้วยเฉลี่ย 5-10%  เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการและผู้บริโภคต้องปรับตัวตาม

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่าปีนี้ปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค ยังไม่มีแนวโน้มลดลง เสนาจึงวางแผนธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโต โดยร่วมมือกับกลุ่มธุรกิจในเครือ ทั้ง SENA Development, SENX และ SENA Green Energy เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการทำธุรกิจร่วมกัน ภายใต้ 3 กลยุทธ์หลัก 

1. โฟกัสกลุ่มเรียลดีมานด์ ที่อยู่อาศัยตลาดแมสราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาท 

– หากดูรายได้ประชากรกรุงเทพฯ และปริมณฑล กลุ่มใหญ่ที่สุด สัดส่วน 54% มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อเดือน สามารถซื้อที่อยู่อาศัยได้ที่ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ไปจนถึง 3.6 ล้านบาท หรือตลาดล่าง-กลาง 

–  เสนา เป็นผู้นำตลาดในกลุ่มที่อยู่อาศัย บ้านและคอนโดในกลุ่ม Affordable ราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาท ตอบโจทย์เรียลดีมานด์ในตลาดกลุ่มใหญ่

–  ปัจจุบันเสนามีโครงการพร้อมขาย 99 โครงการ หรือคิดเป็นมูลค่ารวมราว 116,396 ล้าน เป็นสัดส่วนของกลุ่ม Affordable 47 โครงการ มูลค่า 37,409 ล้านบาท

–  โดยครองส่วนแบ่งตลาดอันดับหนึ่งของกลุ่ม BOI คอนโด (ข้อบังคับของ BOI คอนโด ต้องมีราคาไม่เกิน 1.2 ล้านบาท และมีพื้นที่ 24 ตร.ม.ขึ้นไป)  ปัจจุบันเสนามีทั้งหมด 22 โครงการภายใต้แบรนด์ SENA KITH, COZI และ ECO TOWN รวม 9,785 ยูนิต หรือมูลค่ารวม 13,900 ล้านบาท

– ส่วนที่อยู่อาศัยตลาดบน อยู่ภายใต้บริษัทในเครืออย่าง SENX  ปีนี้เปิดโครงการบ้านเดี่ยว Luxury เพิ่มเติมในทำเลศักยภาพของกรุงเทพฯ  ราคาประมาณ 30 ล้านบาท มีจุดเด่นที่บริการส่วนตัวแบบ Elite Residences ที่ผ่านการอบรมจากกลุ่มพาร์ทเนอร์คือ ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ป (HHP) จากญี่ปุ่นด้วยมาตรฐานของโรงแรม

2. ให้บริการสินเชื่อ Non-Bank “เงินสดใจดี” แก้โจทย์แบงก์ปฏิเสธสินเชื่อ

– หนึ่งในปัญหาตลาดที่อยู่อาศัยปีนี้ คือ สถาบันการเงินปฏิเสธการปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (Rejection Rate) สูงถึง 70% จากปัญหาหนี้ครัวเรือนอยู่ในอัตราสูง ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท ขณะที่ลูกค้าของเสนามียอดปฏิเสธการปล่อยสินเชื่อ 50%

–  แนวทางการแก้โจทย์เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงสินเชื่อและสร้างโอกาสการขายที่อยู่อาศัยให้เสนา จึงให้บริษัทในเครือพัฒนานวัตกรรมทางการเงิน ภายใต้ชื่อ “เงินสดใจดี” ด้วยการให้สินเชื่ออเนกประสงค์ (Non-Bank) โดยมีทีมที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญการวิเคราะห์การเงินคอยให้บริการ เพื่อบริหารจัดการเครดิต เพิ่มโอกาสการเข้าถึงสินเชื่อบ้าน รองรับลูกค้ากู้แบงก์ไม่ผ่าน  โดย “เงินสดใจดี” ปล่อยสินเชื่อสูงสุด 3 ปี เพื่อสร้างความพร้อมด้านการเงินก่อนขอสินเชื่อกับธนาคารอีกครั้ง

 3. พัฒนาโปรดักท์ใหม่ จับเทรนด์ Gen Rent เช่าที่อยู่อาศัย 

– สภาพตลาดที่อยู่อาศัยปัจจุบัน ราคาที่ดินปรับเพิ่มขึ้นทุกปีเฉลี่ย 1.5% ส่งผลให้ราคาที่อยู่อาศัยปรับเพิ่มขึ้นตามไปด้วยเฉลี่ย 5-10%  ทำให้ซื้อที่อยู่อาศัยได้ยากขึ้น ผู้บริโภคไม่กล้าตัดสินใจซื้อเพื่อก่อหนี้ระยะยาว 30 ปี  เสนาจึงเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ RENT TO OWN หรือ เช่าซื้อ มาให้บริการ เมื่อลูกค้ามีความพร้อมด้านการเงินสามารถเปลี่ยนเป็นเจ้าของได้

– ส่วนคนรุ่นใหม่กลุ่ม Gen Y และ Z  อีกกลุ่มกำลังซื้อสำคัญของที่อยู่อาศัย ปัจจุบันเป็นเจ้าของบ้านได้ยากขึ้นจากราคาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อีกทั้งคนรุ่นใหม่ในยุคอินเทอร์เน็ตเติบโตมากับบริการสมัครสมาชิกใช้บริการต่างๆ เช่น Netflix Spotify YouTube  จึงกลายเป็น Generation Rent ชอบเช่าที่อยู่อาศัยมากกว่าซื้อ เสนาจึงเตรียมเปิดกลุ่มธุรกิจนี้เพื่อตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายใหม่ ซึ่งเป็นการขยายฐานลูกค้าที่ไม่เคยมีมาก่อน  โดยจะเปิดตัวในเดือนมีนาคมนี้

– จากเทรนด์รักษ์โลกที่กำลังเติบโตในทุกกลุ่ม  เสนาจึงพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ในรูปแบบ Low-Carbon อาทิ บ้านพลังงานเป็นศูนย์ คอนโด Low-Carbon การติดตั้ง EV Ready ส่งเสริมการใช้รถสาธารณะโดย V Move หรือบริการรถรับส่งฟรี นอกจากนี้เตรียมเปิดตัวแคมเปญซื้อที่อยู่อาศัย Low-Carbon คู่กับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่จะทำร่วมกับพันธมิตรในเดือนมีนาคมนี้

สำหรับเป้าหมายธุรกิจปี 2567 กลุ่มธุรกิจที่อยู่อาศัยตั้งเป้าเปิดโครงการใหม่ 17 โครงการ มูลค่ารวม 28,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการบ้าน  5 โครงการ และคอนโด 12 โครงการ ขณะที่ยอด Pre sales ปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 17,500 ล้านบาท และเป้ายอดโอนที่ 12,700 ล้านบาท สำหรับธุรกิจบริหารโครงการและบริการ ตั้งเป้ารายได้ที่ 1,400 ล้านบาท ขณะที่ธุรกิจพลังงานสะอาดตั้งเป้ารายได้ 1,000 ล้านบาท

ติดตามพวกเราได้ที่ LINE


แชร์ :

You may also like