ทรูออนไลน์เผยภาพรวมเน็ตบ้าน ชี้เป็นตลาดขาขึ้น และยังมีช่องว่างให้เติบโต โดยพบโอกาสจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ปัจจุบันมีโครงการบ้านจัดสรรใหม่เพิ่มสูง ส่วนในมุมการแข่งขันในธุรกิจบรอดแบนด์ ผู้บริหารชี้ว่า เป็นการแข่งขันที่ก้าวข้ามเรื่องความเร็วอินเทอร์เน็ตไปแล้ว แต่จะเน้นที่การเพิ่มความคุ้มค่าให้ลูกค้าผ่านแพกเกจต่าง ๆ แทน พร้อมตั้งเป้าสิ้นปี รายได้เพิ่ม – ฐานลูกค้าเติบโตแตะ 4 ล้านราย จากปัจจุบัน 3.8 ล้านราย
ทั้งนี้ หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงของตลาดอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ในมุมของทรูออนไลน์พบว่า มีการใช้อุปกรณ์สมาร์ทโฮมและระบบบ้านอัจฉริยะเพิ่มขึ้น โดยมีการอ้างอิงจากรายงานของ Statista เกี่ยวกับผู้ใช้งานอุปกรณ์สมาร์ทโฮมในประเทศไทยที่ปัจจุบันพบว่ามีประมาณ 10.8 ล้านราย และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 18.7 ล้านรายในอีก 3 ปี ข้างหน้า ส่วนอุปกรณ์สมาร์ทโฮมที่ตอบโจทย์การใช้งานของคนไทย 3 อันดับแรก คือ อุปกรณ์ด้านความปลอดภัย (เช่น กล้องวงจรปิด) ความสะดวกสบาย และความบันเทิง
จากความเปลี่ยนแปลงด้านการใช้งานอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ดังกล่าว ทำให้กลยุทธ์ในการบุกตลาดบรอดแบนด์ปี 2024 ของทรูออนไลน์มีการปรับเปลี่ยนไปพอสมควร โดยคุณฐานพล มานะวุฒิเวช หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการตลาด บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น เผยว่า ทรูออนไลน์มีการออกแบบแพกเกจให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคแทนการลงไปแข่งขันด้านราคา พร้อมยกตัวอย่างแพกเกจของทรูออนไลน์ที่มีการจับมือกับพาร์ทเนอร์ด้านโซลาร์เซลล์เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในกลุ่มที่ซื้อบ้านจัดสรร
หรือในส่วนของระบบรักษาความปลอดภัย ที่มีการเพิ่มกล้องวงจรปิดในแพกเกจราคา 650 บาทต่อเดือน ตลอดจนการเปลี่ยนเราเตอร์ที่รองรับอินเทอร์เน็ตได้ที่ความเร็วสูงสุด 2Gbps ซึ่งคุณฐานพล กล่าวว่า เป็นการเพิ่มความสะดวกสบายให้ลูกค้า หากต้องการปรับเปลี่ยนความเร็วของแพกเกจ เนื่องจากสามารถอัปเดตได้จากระบบโดยตรง ไม่ต้องส่งช่างเข้าไปเปลี่ยนอุปกรณ์อีกต่อไป
ผนึก AI เพิ่มศักยภาพบรอดแบนด์
ส่วนการนำ AI เข้ามาใช้งานนั้น พบว่ามีการใช้งานในหลายส่วน ทั้งการดูแลระบบเน็ตเวิร์ก เช่น การใช้ AI จัดสรรปริมาณการใช้งานอินเทอร์เน็ต และสามารถกำหนดลำดับความสำคัญในการใช้งานให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ได้ หรือการใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลการใช้งานและช่วยลดความหน่วง ทำให้ค่าปิงลดลงกว่าเดิม 40% ซึ่งสามารถตอบโจทย์คอเกม ผู้ที่ต้องการไลฟ์สตรีมมิ่ง และผู้ที่ต้องเข้าประชุมออนไลน์ได้
นอกจากนั้น ผู้บริหารทรูออนไลน์ยังมองว่า เทคโนโลยี Fiber to the Room (FTTR) ที่ช่วยให้เน็ตบ้านมีความเร็ว 1 Gbps เท่ากันทุกห้องผ่านเครือข่ายไฟเบอร์โปร่งใสก็เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่ทรูออนไลน์ให้บริการด้วย (เริ่มเปิดตัวเมื่อปลายปีที่แล้ว)
เพิ่มสิทธิพิเศษเจาะกลุ่มอสังหาฯ
ด้านคุณสกลพร หาญชาญเลิศ หัวหน้าสายงานออนไลน์คอนเวอร์เจนซ์ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของทรูออนไลน์ยังมีสิทธิพิเศษที่เพิ่มเข้ามา เช่น กรณีการให้บริการฟรีอินเทอร์เน็ตมือถือ 10GB นาน 3 วัน ในกรณีเกิดเหตุขัดข้องชั่วคราว เช่น ภัยพิบัติต่าง ๆ เป็นต้น หรือการให้บริการ CCTV และสามารถดูภาพบันทึกย้อนหลังผ่าน Cloud ได้จากแอปพลิเคชัน TrueX โดยมองว่าเป็นหนึ่งในอินไซต์ที่พบจากพฤติกรรมการใช้งานของลูกค้า และเป็นความต้องการที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่เช่นกัน
นอกจากนี้ยังมีบริการอื่น ๆ เช่น บริการล้างแอร์ จาก Home Service by HomePro ประกันภัยที่อยู่อาศัยจาก FWD หรือส่วนค่าบริการรายเดือนสูงสุด 3,600 บาท จากแพกเกจ Solar Cell รวมถึงมีอุปกรณ์ Power Optimizer ให้กับบ้านที่เลือกแพกเกจดังกล่าวด้วย
ทั้งนี้ คุณฐานพลคาดว่า ภายในสิ้นปี 2024 ตัวเลขผู้ใช้บริการทรูออนไลน์อาจเติบโตไปอยู่ที่ 4 ล้านราย หากการมองหาตลาดใหม่ ๆ อย่างธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นไปด้วยดี