HomeFinancial‘ระเฑียร ศรีมงคล’ นำทัพ XSpring ชู 6 ธุรกิจบริการการเงินยุคใหม่ ปั้นรายได้ 1,000 ล้าน 

‘ระเฑียร ศรีมงคล’ นำทัพ XSpring ชู 6 ธุรกิจบริการการเงินยุคใหม่ ปั้นรายได้ 1,000 ล้าน 

แชร์ :

หลังจาก “คุณระเฑียร ศรีมงคล” จบภารกิจแม่ทัพ บมจ.บัตรกรุงไทย หรือ KTC ที่กุมบังเหียนมา 11 ปี กับผลงานอำลาตำแหน่งซีอีโอ ปิดปี 2566 ด้วยกำไรนิวไฮ  7,295 ล้านบาท จากนั้นก้าวเข้ามานำทัพ บมจ.เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล หรือ XPG ในตำแหน่งซีอีโอ เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

พร้อมประกาศแผน “ทรานส์ฟอร์ม” องค์กร 50 ปี สู่การเป็นผู้ให้บริการทางการเงินครบวงจร วางบทบาทเป็น “ตัวกลาง” ให้ภาคธุรกิจที่ต้องการเงินทุนและนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทน  ไม่ได้โฟกัสแค่ธุรกิจดิจิทัลโทเคนที่โดดเด่นเท่านั้น แต่มีไฮไลต์ 6 ธุรกิจบริการทางการเงิน  วางเป้าหมายปี 2567 รายได้ 1,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47%

ย้อนประวัติ บมจ.เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล ภายใต้การนำทัพของ คุณระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร XSpring เป็นองค์กรที่มีอายุ 50 ปี เริ่มในปี 2517 และมีการเปลี่ยนแปลงสำคัญดังนี้

– ปี 2517 ก่อตั้งบริษัทโอเวอร์ซีส์ ซิคิวริตี้ส์  แอนด์ อินดัสเตรียล คอนเซาท์แทนท์ จำกัด ให้บริการนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ กิจการค้าหลักทรัพย์และกิจการที่ปรึกษาการลงทุน

– ปี 2538  เปลี่ยนชื่อเป็น หลักทรัพย์ ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน) และจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

– ปี 2550  ก่อตั้งบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม ซีมิโก้ จำกัด และได้รับใบอนุญาต จาก ก.ล.ต. ให้บริการบริหารจัดการการลงทุนในกองทุน XSpring AM

– ปี 2551  ร่วมทุนกับ บมจ.ธนาคารกรุงไทย ในบริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย ซีมิโก้ จำกัด (Krungthai XSpring) บริการนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ (วณิชธนกิจ IB)

– ปี 2561  ขอใบอนุญาตให้บริการระบบการเงินดิจิทัลครบวงจร (XSpring Digital)

– ปี 2564  เปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจโดยมีผู้ถือหุ้นใหญ่ ได้แก่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) และบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) และได้เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) และเสนอขายโทเคนดิจิทัล (ICO) เพื่อการลงทุนเหรียญแรกในประเทศไทย “สิริฮับ” (SiriHub Token)

ปัจจุบัน XSpring เป็นผู้ให้บริการทางการเงินครบวงจร ครอบคลุม 6 ธุรกิจ แยกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้ 

1. บริการทางการเงินสำหรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการเงินทุน มี 2 ธุรกิจ

– บริการด้านวาณิชธนกิจ (Investment Banking) ให้บริการที่ปรึกษาทางการเงินการลงทุนครบวงจรด้วยความเชี่ยวชาญ ครอบคลุมการควบรวมกิจการ การฟื้นฟูและปรับโครงสร้างกิจการ การออกตราสารหนี้ การระดมทุนทั้งในรูปแบบการเสนอขายหุ้นใหม่แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) และการระดมทุนแบบดิจิทัลด้วยการเสนอขายโทเคนดิจิทัลผ่านระบบบล็อกเชนต่อสาธารณชน (ICO)  สถานการณ์เศรษฐกิจปีนี้คาดว่าธุรกิจวาณิชธนกิจจะเติบโตสูง เพราะบริษัทต่างๆ มีความต้องการระดมทุน

– ธุรกิจสินเชื่อ (Debt Financing) ส่งเสริมและสนับสนุนด้านการเงินให้กับบริษัทที่มีศักยภาพสูง ต่อยอดและพัฒนาให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ด้วยการปล่อยกู้ตรงจากบริษัทฯ และการปล่อยกู้ผ่านตราสารหนี้ (หุ้นกู้ ตั๋วแลกเงิน และตั๋วสัญญาใช้เงิน) และตราสารหนี้นอกตลาด (Private Credit) ที่จะเป็นบริการไฮไลต์ในปีนี้

2. บริการทางการเงินสำหรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการลงทุน มี 2 ธุรกิจ

– ธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) ให้บริการสินค้าด้านการลงทุนที่หลากหลายให้ลูกค้าเลือกแบบครบวงจร ทั้งจากพันธมิตร บลจ. รวม 16 แห่ง และกองทุนต่างๆ ที่เป็นผลิตภัณฑ์จากบริษัทฯ เช่น กองทุนส่วนบุคคลประเภท Private Equity Real Estate  ปีที่ผ่านมาทำร่วมกับ “แสนสิริ”  5 โครงการ รวมมูลค่า 6,500 ล้านบาท  ปีนี้จะทำต่อเนื่องกับบริษัทอสังหาฯ ต่างๆ

– ธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์และสินทรัพย์ดิจิทัล (Brokerage) ให้บริการนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์และสินทรัพย์ดิจิทัล (คริปโต) ซื้อขายหุ้นทั้งตลาดไทยและต่างประเทศ

3. ธุรกิจภายใต้กลุ่มบริษัทเอ็กซ์สปริง มี 2 ธุรกิจ  

– ธุรกิจการลงทุน (Investment) มุ่งเน้นลงทุนในธุรกิจ ที่มีศักยภาพทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อผลตอบแทนสูงสุด โดยแบ่งการลงทุนใน 3 ประเภท ได้แก่ ธุรกิจเทคโนโลยีทางการเงิน (Fintech) ธุรกิจที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค (Customer Centric) ธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม (ESG) โดยปัจจุบัน XSpring ได้เข้าไปถือหุ้นในสตาร์ทอัพที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องกับความยั่งยืน เช่น บริษัท ชาร์จ แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้ให้บริการสถานีชาร์จภายใต้แบรนด์ REVERSHARGER และบริษัท ไอออน เอนเนอร์ยี่ จำกัด ธุรกิจพลังงานสะอาดโดยกลุ่มคนรุ่นใหม่ เป็นต้น

– ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (Distressed Asset Management) หรือการบริหารหนี้เสีย อีกหนึ่งธุรกิจของกลุ่ม XSpring ที่ได้ดึงจุดแข็งจากการมีประสบการณ์ในธุรกิจอสังหาฯ ของกลุ่มผู้ถือหุ้นและผู้บริหารสร้างความได้เปรียบในการวางกลยุทธ์การคัดเลือกทรัพย์คุณภาพ โดยปีที่ผ่านมา XSpring บริหารพอร์ตหนี้แล้วกว่า 4,000 ล้านบาท ทั้งหนี้สินเชื่อทั่วไปแบบมีหลักประกัน และไม่มีหลักประกัน รวมทั้งสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ โดยจับมือกับ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้นำด้านบริการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรในการเป็นพันธมิตรจัดการขายทรัพย์สินรอการขาย (NPA)

ในปี 2566  XSpring  มีรายได้รวม 681 ล้านบาท มาจากรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผล 522  ล้านบาท (สัดส่วน 77%) ค่าธรรมเนียมและบริการ 100 ล้านบาท (สัดส่วน 14%) และเงินลงทุน 59 ล้านบาท (สัดส่วน 9%)  มีกำไรสุทธิ 106 ล้านบาท

ปี 2567 ได้ตั้งเป้าหมายรายได้รวม 1,000 ล้านบาท เติบโตจากปี 2566 กว่า 47%  โดยสัดส่วนรายได้เปลี่ยนไป มาจากดอกเบี้ยและเงินปันผล 600 ล้านบาท (สัดส่วน 60%) ค่าธรรมเนียมและบริการ 300 ล้านบาท (สัดส่วน 30%) เนื่องจากปีนี้มีบริการเพิ่มขึ้น และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมทุน 100 ล้านบาท (สัดส่วน 10%) 

คุณระเฑียร กล่าวว่า XSpring เป็นผู้เล่นรายหนึ่งในตลาดการเงิน เป็นบริษัทขนาดเล็กเมื่อเทียบกับสถาบันการเงินทั่วไป การทำธุรกิจจึงไม่ได้มองการแข่งขันกับรายใหญ่ แต่วางเป้าหมายให้เป็น “ผู้นำ” ในโลกการเงินยุคใหม่  โดยจะทำหน้าที่เชื่อมระหว่างคนที่ต้องการเงินทุนและคนที่มีเงินทุน  ซึ่งเป็นตลาดที่ยังมีโอกาสเติบโตได้ เพราะสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน มีบริษัทจำนวนมากที่มีปัญหาไม่สามารถหาแหล่งเงินทุนได้ จึงเป็นโอกาสของ XSpring

โดยมีจุดแข็งด้านวาณิชธนกิจ มีทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญในการวางแผนหาทุน ปรับโครงสร้างธุรกิจและโครงการสร้างการเงิน เพื่อให้บริษัทที่มาใช้บริการบรรลุวัตถุประสงค์ตามแผนงานที่วางไว้  โดยเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าบริษัทระดับกลางใน Set100 และตลาด mai ในการช่วยหาแหล่งทุนในรูบแบบต่างๆ  ไม่เฉพาะ IPO หรือหุ้นกู้  แต่มีบริการทางการเงินที่จะทำให้ลูกค้าที่มีปัญหาด้านเงินทุนสามารถไปต่อและเติบโตได้ในอนาคต

ปัจจุบัน XSpring มีแหล่งเงินทุน 10,000 ล้านบาท ที่จะสนับสนุนธุรกิจที่ต้องการหาแหล่งเงินทุนจากบริการต่างๆ

“แม้ตัวเลขกำไร 100 ล้านบาทในปีที่ผ่านมายังไม่น่าพอใจ แต่เชื่อว่ากำไรจะดีขึ้น จากการขยายบริการทั้ง 6 ธุรกิจ แต่ตัวเลขคงไม่ก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว” 

ติดตามพวกเราได้ที่ LINE


แชร์ :

You may also like