ภูมิทัศน์สื่อและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างมากในปัจจุบัน ทำให้ KOLs/Influencers กลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือหลักของนักการตลาดและสื่อสารการตลาด ที่ใช้เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคได้แบบ Full Funnel ตั้งแต่สร้างการรับรู้ – สร้างความสนใจ – ซื้อสินค้า – เมื่อประทับใจก็ซื้อซ้ำและแนะนำต่อ (ในขณะที่สื่ออื่นๆ ส่วนใหญ่ทำได้เพียงแค่บางส่วนของกระบวนการเท่านั้น)
ในยุคผู้บริโภคเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและใช้โซเชียลมีเดีย 90% ทำให้ KOLs/Influencers ถูกใช้เป็นเครื่องมือการตลาด ทำหน้าที่เป็น “นักป้ายยา” สร้างการรับรู้ไปถึง “ปิดการขาย” เพราะผู้บริโภคเชื่อรีวิวจากการใช้จริง ถือเป็นอีกจุดเปลี่ยนของ “ค้าปลีก” ในวันที่ KOLs/Influencers กลายร่างเป็นร้านสะดวก(ใจจะ)ซื้อ
เทรนด์แรง Affiliate Marketing
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา E-commerce ในประเทศไทยเติบโตก้าวกระโดดจากผู้บริโภคที่มีความรู้ด้านดิจิทัลมากขึ้น และพฤติกรรมการซื้อของที่เปลี่ยนไป โดยมีตัวเร่งจากวิกฤติโควิด ถือเป็นปัจจัยหลักผลักดันให้ KOLs/Influencers ถูกยกระดับจนกลายเป็นโมเดลธุรกิจแบบ The Affiliate หรือนายหน้าออนไลน์ขายสินค้ามากขึ้น
จากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของผู้ใช้ Social Media และ Marketplace สนับสนุนให้การทำ Affiliate Marketing ซึ่งจริงๆ มีมานานแล้วและไม่ใช่เรื่องใหม่ ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้นระหว่างเจ้าของสินค้า และ KOLs/Influencers
โดยมีการพัฒนาระบบต่างๆ ที่เอื้อต่อการทำ Affiliate Model ของทั้ง 2 ฝ่าย คือเจ้าของสินค้า และ Affiliators (KOLs/Influencers) ในโมเดลธุรกิจที่พึงพอใจด้วยกันทุกฝ่าย โดยมีการตกลงผลตอบแทนที่ชัดเจน (ค่า commission) เช่น
– แบ่งตามจำนวนสินค้าที่ขายได้ (Pay Per Sale)
– แบ่งตาม Action ของลูกค้าที่เกิดขึ้นตามที่ได้ตกลงกันไว้ (Pay Per Click, Pay Per Visit, Pay Per Lead )
Affiliate Marketing เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ ที่จะทำให้ภูมิทัศน์ค้าปลีกเปลี่ยนไป มีตัวเลขอ้างอิงที่น่าสนใจของตลาดในต่างประเทศ ที่เริ่มเห็นการการเปลี่ยนแปลง
- 54% ของนักการตลาดและสื่อสารทางการตลาด ให้ความสำคัญกับ Affiliate Marketing เป็น ท็อป 3 ของช่องทางหลักในการขาย
- 59% ของเจ้าของสินค้าหรือแบรนด์ใช้ KOLs/ Influencers ในการทำ Affiliate Marketing
- 88% ของลูกค้าที่ซื้อสินค้าไปแล้ว ยอมรับว่าตัดสินใจซื้อจากการโน้มน้าวและป้ายยาโดย KOLs/ Influencers ที่ตนชื่นชอบ
คุณภวัต เรืองเดชวรชัย ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทมีเดีย อินเทลลิเจนซ์ จำกัด หรือ MI GROUP มองว่าเทรนด์ Affiliate Marketing เป็นสิ่งที่น่าสนใจและมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคตมีการพัฒนาเทคโนยีที่สามารถวัดผลและจ่ายค่าตอบแทนได้โปร่งใสและแม่นยำมากขึ้น หรือมีแคมเปญที่ดึงดูดใจมากขึ้นจากทั้งฝั่งแบรนด์และแพลตฟอร์ม ที่จะช่วยดึงดูด KOLs/ Influencers เบอร์ใหญ่เข้ามาทำได้ จะเห็นแบรนด์ต่างๆ ทั้งแบรนด์เล็กและแบรนด์ใหญ่ใช้กลยุทธ์การตลาดแบบ Affiliate Marketing เข้มข้นมากขึ้น ส่งผลต่อภูมิทัศน์ค้าปลีกและสื่อสารการตลาดที่จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
7-Eleven เปิดโมเดล Affiliate ให้ทุกคนเป็นนายหน้าออนไลน์สร้างรายได้
กระแสแรงของโมเดล Affiliate ทำให้เครือข่ายร้านสะดวกซื้อเบอร์หนึ่งของประเทศไทย 7-Eleven ที่มีสาขาทั่วประเทศในปี 2566 จำนวน 14,545 สาขา ได้ใช้โมเดล Affiliate มาช่วยขายเช่นกัน
โดยทำผ่านแพลตฟอร์ม All Online ที่เปิดโมเดล Affiliate โปรแกรมช่วยสร้างรายได้ให้กับ KOLs/ Influencers รวมทั้งคนทั่วไป ขายของให้ร้านเซเว่นฯ บนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ
ด้วยการสมัครเป็นสมาชิก All Online Affiliate จากนั้นเลือกสินค้าที่ต้องการโปรโมตแชร์ Link หรือ ส่งต่อ QR code ของสินค้านั้นๆ ไปยังช่องทางออนไลน์ต่างๆ ของตัวเอง เช่น Fackbook, TikTok, Instagram, X, YouTube
เมื่อมีการสั่งซื้อสินค้าผ่าน Link หรือ QR Code ของผู้สมัคร Affiliate ทุกยอดขายและทุกคำสั่งซื้อจะได้รับค่าคอมมิชชันจากการขายสินค้าตามที่ All Online กำหนด
วิธีสมัคร All Online Affiliate
1. กดปุ่มเพื่อสมัคร All Online Affiliate
2. กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน เพื่อร่วมเป็น All Online Affiliate
3. กดยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไขในการเข้าร่วม All Online Affiliate เสร็จสิ้นการสมัครสมาชิก
ขั้นตอนโปรโมตสินค้า
1. เข้าสู่ระบบ (Log in) All Online Affiliate
2. เลือกสินค้าที่ต้องการโปรโมต จากนั้นกดปุ่ม Get Link และเลือกช่องทางการโปรโมตผ่าน Tracking Name
3. เมื่อกดสร้าง (Generate) QR Code หรือ Link เรียบร้อยแล้ว สามารถนำไปโปรโมตตามช่องทางที่เลือกไว้ได้ทันที
สินค้ากว่า 1 แสนรายการ ค่าคอมฯสูงสุด 5%
โมเดล Affiliate ของร้านเซเว่นฯ มีสินค้ากว่า 100,000 รายการทุกหมวดหมู่สินค้า ให้เลือกนำไปโปรโมตและได้ค่าคอมมิชชันดังนี้
- สินค้าซูเปอร์มาร์เก็ต ค่าคอมมิชชัน 1%
- มือถือและแกดเจ็ต ค่าคอมมิชชัน 1%
- สินค้าแม่และเด็ก ค่าคอมมิชชัน 3.60%
- เครื่องใช้ไฟฟ้า ค่าคอมมิชชัน 3.60%
- ไอที กล้อง ค่าคอมมิชชัน 3.60%
- สัตว์เลี้ยง ค่าคอมมิชชัน 3.60%
- แฟชั่น ค่าคอมมิชชัน 5%
- หนังสือและเครื่องเขียน 3.60%
- สินค้าสุขภาพ ค่าคอมมิชชัน 5%
- สินค้าบ้านและสวน ค่าคอมมิชชัน 5%
- สินค้าความงาม ค่าคอมมิชชัน 5%
โดยเป็นสินค้าจากแบรนด์ชั้นนำทั้งหมด ข้อดีของ โมเดล Affiliate คือนายหน้าออนไลน์ ไม่ต้องสต็อกสินค้า ร้านเซเว่นฯ จะเป็นผู้ดูแลบริการแพ็กจัดส่ง ด้วยทีมงานจาก All Online ส่งฟรีที่ร้าน 7-Eleven ทั่วประเทศ
– ผู้สมัคร Affiliate สามารถสั่งซื้อสินค้า จากลิงก์ หรือ QR ของตัวเองได้เช่นกัน โดยจะได้รับค่าคอมมิชชัน เหมือนลูกค้าทั่วไป
– ผู้สมัคร All Online Affiliate จะได้รับเงินตัดรอบทุกวันที่ 1 และวันที่ 16 ได้รับเงินภายใน 15 วันทำการ (หากตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์ จะจ่ายเงินในวันถัดไป
– ค่าคอมมิชชัน จะอัพเดทในระบบหลังบ้านภายใน 24-48 ชั่วโมง ระบบจะใช้ราคาสินค้ามาคำนวณค่าคอมมิชชัน (ไม่ใช่ยอดจ่ายสุทธิของลูกค้า) แม้คำสั่งซื้อจะมีการใช้โค้ดหรือคูปองส่วนลด
– เงื่อนไขการรับค่าคอมมิชชัน
1. ค่าคอมมิชชัน จะจ่ายเฉพาะธุรกรรมที่เกิน 1,000 บาทขึ้นไป
2. ยอดที่ยังไม่ถึง 1,000 บาท จะถูกสะสมยอดได้ 2 ปี
3. ไม่รวมรายการยกเลิกในภายหลัง ค่าคอมมิชชันจ่ายเฉพาะกลุ่มสินค้า หรือสินค้าที่เข้าร่วมโปรแกรมจ่ายค่าคอมมิชชันเท่านั้น
โมเดล Affiliate โอกาส 7-Eleven เพิ่มยอดขายอีคอมเมิร์ซ
หากดูภาพรวมธุรกิจค้าปลีกปี 2566 มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 4 ล้านล้านบาท เติบโต 9-10% โดยค้าปลีกแบบออฟไลน์ (สโตร์) เติบโต 7% ส่วนค้าปลีกรูปแบบอีคอมเมิร์ซ เติบโต 20% โดยมีสัดส่วนต่อค้าปลีกภาพรวม 19% (ข้อมูลศูนย์วิจัยกสิกรไทยและยูโรมอนิเตอร์)
ในปี 2566 มีร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศจำนวน 21,481 สาขา โดยเป็นร้าน 7-Eleven 14,545 สาขา หรือมีส่วนแบ่งการตลาด 68% รองลงมาได้แก่ โลตัส โก เฟรช 8% และมินิ บิ๊กซี 7%
แม้เป็นเชนร้านสะดวกซื้อเบอร์หนึ่ง ร้าน 7-Eleven ได้ขยายแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อเข้าถึงลูกค้ามากขึ้น ทั้งแอปพลิเคชัน 7-Eleven แพลตฟอร์มสั่งสินค้าจากร้าน 7-Eleven ใกล้บ้านผ่านบริการ 7Delivery รับสินค้าภายใน 30-40 นาที
บริการ All Online “ห้างใกล้บ้าน” สั่งซื้อสินค้าได้หลากหลาย ทั้งของกิน ของใช้ในบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้า เครื่องสำอาง อีกมากมาย โดยสั่งซื้อสินค้าล่วงหน้าและเลือกมารับสินค้าได้ด้วยตัวเองที่ร้าน 7-Eleven ใกล้บ้านตลอด 24 ชั่วโมง หรือเลือกให้ส่งสินค้าที่บ้าน
ปัจจุบันร้าน 7-Eleven มีฐานสมาชิก All Member กว่า 18 ล้านราย ลูกค้าใช้บริการทั้งร้านและออนไลน์เฉลี่ย 13 ล้านคนต่อวัน พบว่าสมาชิก All Member เป็นกลุ่มลูกค้าที่มียอดการจับจ่ายซื้อสินค้าและความถี่ใช้บริการสูงกว่าลูกค้าทั่วไป
ปี 2566 ร้าน 7-Eleven มีรายได้ 399,558 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.6% พบว่าเป็นสัดส่วนจากช่องทางอีคอมเมิร์ซทั้ง 7Delivery และ All Online 11% ซึ่งมีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นทุกปีและมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ดังนั้นการเปิดตัวโมเดล Affiliate ของ All Online ในปีนี้ จึงเป็นโอกาสเพิ่มสัดส่วนรายได้จากอีคอมเมิร์ซให้เพิ่มขึ้นอีก (ภาพรวมรวมค้าปลีกอีคอมเมิร์ซมีสัดส่วนแล้ว 19%)
สอดคล้องกับเทรนด์ธุรกิจค้าปลีก ปี 2567 ที่คาดว่าจะขยายตัวไม่ต่ำกว่า 5% (หากรวมมาตรการกระตุ้นภาครัฐ คาดว่าการขยายตัวน่าจะสูงขึ้นอยู่ที่ 7-8% ข้อมูลศูนย์วิจัยกสิกรไทยและยูโรมอนิเตอร์) โดยกลุ่มค้าปลีกที่คาดว่าจะยังขยายตัวได้ดีเมื่อเทียบกับค้าปลีกเซกเมนต์อื่น ได้แก่ ห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ ค้าปลีกรูปแบบอีคอมเมิร์ซ
สมัคร All Online Affiliate คลิก LINK
ติดตามพวกเราได้ที่ LINE
อ่านเพิ่มเติม