HomeSponsoredABLE Bangkok เอเยนซี่ที่เชื่อในพลัง Design Impact สู่การเชื่อมแบรนด์-ผู้บริโภคด้วย Experience แบบไม่ธรรมดา

ABLE Bangkok เอเยนซี่ที่เชื่อในพลัง Design Impact สู่การเชื่อมแบรนด์-ผู้บริโภคด้วย Experience แบบไม่ธรรมดา

แชร์ :

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พอพูดถึงเรื่องของดีไซน์ (Design) คนส่วนใหญ่มักจะคิดถึงการทำกราฟฟิกดีไซน์เพียงอย่างเดียว แต่ในยุคปัจจุบัน ดีไซน์ถูกนำมาใช้พัฒนางานโฆษณาในหลากหลายรูปแบบมากขึ้น เพราะดีไซน์ไม่เพียงช่วยสร้างสินค้าให้โดดเด่น ทว่ายังเข้ามาช่วยแบรนด์แก้ปัญหา และส่งต่อประสบการณ์ที่ดีระหว่างแบรนด์และลูกค้าด้วย

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ส่งผลให้หลายปีมานี้เราจึงเห็นการเติบโตของดีไซน์เอเยนซี่มากขึ้น หนึ่งในนั้นคือ บริษัท เอเบิล แบงค็อก จำกัด หรือ ABLE Bangkok เอเยนซี่น้องใหม่ที่ก้าวสู่ปีที่ 3 โดยวางจุดยืนชัดเจนว่าเป็นเอเยนซี่ที่มีจุดเด่นในเรื่อง Design ที่สร้าง Impact จนหลายๆ แบรนด์ไว้วางใจให้สร้างสรรค์ผลงานออกอย่างน่าสนใจมากมาย ทำไม ABLE Bangkok ถึงเลือก “Design Impact” มาเป็นหลักในการคิดงานโฆษณา และการพัฒนาไอเดียแต่ละชิ้นให้ทัชใจแบรนด์และผู้คนเป็นอย่างไร Brand Buffet ชวนมาคุยกับ คุณน้ำมนต์-คเชนทร์ สดศิริ Managing Director และ คุณมาร์ช-จิวายุทธ จิวาลักษณางกูร Creative Director & Co-Founder เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น

จากความเชื่อในพลัง “ดีไซน์” สู่เอเยนซี่ที่นำ Design Impact มาเล่าเรื่อง

ABLE Bangkok  เป็นเอเยนซี่ที่เกิดจากความตั้งใจของคุณจิวายุทธ  ครีเอทีฟรุ่นใหม่ที่มีประสบการณ์ในแวดวงงานอาร์ตและโฆษณามาเกือบ 10 ปี  โดยอยากจะ Explore วิธีการทำงานโฆษณาใหม่ๆ แบบไม่ได้จำกัดเฉพาะแค่แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่างเดียว เพราะก่อนหน้านี้เขาเคยทำงานเป็น Creative Lead ของแผนก Social ที่ Ogilvy Thailand จึงอยากนำความถนัดมาต่อยอดการสร้างสรรค์งานที่มากกว่าคอนเทนต์หรือโฆษณาทั่วไป

คุณมาร์ช-จิวายุทธ จิวาลักษณางกูร Creative Director & Co-Founder บริษัท เอเบิล แบงค็อก จำกัด

โดยวิธีการทำงานใหม่ที่คุณจิวายุทธพูดถึงก็คือ การนำ “Design Impact” มาสร้างสรรค์โฆษณาให้แตกต่าง จึงเอาไอเดียมาปรึกษากับ “คุณเก้ง-ศราวุฒ ธูปะวิโรจน์” ผู้ก่อตั้ง KAN Bangkok และด้วยความเชื่อเหมือนกันจึงได้ก่อตั้ง “ABLE Bangkok” ขึ้นในปี 2565 และมีจุดขายชัดเจนที่แตกต่างจากเอเยนซี่ในตลาด โดยวางโพสิชันเป็นเอเยนซี่ที่มีวิธีคิดงานแบบ Design Impact หรือพูดง่ายๆ คือ การสื่อสารแบรนด์ผ่านการนำดีไซน์มาเป็นองค์ประกอบในการเล่าเรื่องและสร้างสรรค์งานโฆษณาในทุกรูปแบบนั่นเอง

“ดีไซน์” ที่ไม่ใช่แค่ “กราฟฟิกดีไซน์”

คุณคเชนทร์ มองว่าที่ ABLE Bangkok เราทำให้ดีไซน์ไปได้ไกลกว่าเดิม อยู่ในทุก Customer Touchpoint และทุกช่องทางการเข้าถึงสินค้า ไม่ว่าจะเป็นหนังโฆษณา Print Ads สื่อนอกบ้าน Street Ads ไปจนถึงสื่อออนไลน์ และอินฟลูเอนเซอร์ ทุกรูปแบบสามารถนำดีไซน์ไป Apply ในการเล่าไอเดียที่หลากหลายให้คนเกิดภาพจำ เติมเต็ม Brand Experience ที่ดีกับผู้บริโภคเพื่อตอบทุกความท้าทายทางธุรกิจของลูกค้าได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เอเยนซี่แห่งนี้เลือก Design Impact มาเป็นปรัชญาในการคิดงานโฆษณา

คุณน้ำมนต์-คเชนทร์ สดศิริ Managing Director บริษัท เอเบิล แบงค็อก จำกัด

“พอเราตีความว่าดีไซน์ไม่ใช่แค่กราฟฟิกดีไซน์ และไม่ได้จำกัดอยู่แค่งานสื่อสารแบรนด์ ไม่ว่าโจทย์ของแบรนด์จะมาแบบไหน Design Impact ก็สามารถเข้ามาช่วยแบรนด์แก้ปัญหาได้หมด เช่น บางแบรนด์มีเพียงโปรดักต์มาให้ เราก็สามารถถ่ายทอด Message ผ่านงานดีไซน์ต่างๆ ให้คนเข้าใจและจดจำได้” คุณคเชนทร์ ย้ำถึงเสน่ห์ของการคิดงานแบบ Design Impact

MERIDIAN Brandy ใช้พลังดีไซน์ ส่งต่อประสบการณ์ระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค

คุณจิวายุทธ จึงยกตัวอย่างแบรนด์แอลกอฮอล์ “MERIDIAN Brandy” ซึ่งเป็นผลงานของ ABLE Bangkok มาอธิบายให้ทุกคนได้เห็นภาพมากขึ้น โดยโจทย์ในครั้งนี้ MERIDIAN Brandy ต้องการสร้างแบรนด์ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น และสร้างประสบการณ์ผ่านงานดีไซน์ที่แปลกใหม่

ทีมงานจึงตั้งต้นจากการหาเอกลักษณ์ที่แตกต่างของแบรนด์ผ่านการทำ Consumer Research จึงเป็นที่มาของไอเดีย Cruise Smoothly มาใช้ในการสื่อสาร

คุณจิวายุทธ จึงเลือกถ่ายทอดเรื่องราว Cruise Smoothly ผ่านอิเวนต์ MERIDIAN’s Smooth Night ที่จะสร้างประสบการณ์ความนุ่มทุกโมเมนต์ และความแปลกใหม่ในการ Pairing โดยหยิบวิธีการกินคอนยัคกับช็อกโกแลตในฝรั่งเศส มาดีไซน์ใหม่จนกลายเป็น Surrogate Brand ในชื่อ MERIDIAN CHOCOLAT เพื่อดึงคนเข้ามาสัมผัสประสบการณ์กับแบรนด์มากขึ้น

ไม่เพียงแค่นั้น ใน Exclusive Set นี้ยังมาพร้อมกับแก้วรุ่นใหม่ชื่อ PLAINUM 360 ซึ่งเป็นแก้วที่หมุนได้ทุกองศา เพื่อสร้างความกลมกล่อมเวลาดื่มบรั่นดี รวมถึงออกแบบโลโก้ แพคเกจจิ้ง พร้อมกับโปรโมตผ่านสื่อในบ้านและนอกบ้าน เมื่อแคมเปญนี้เปิดตัว ผลลัพธ์ที่ออกมาจึงประสบความสำเร็จทั้งในแง่แบรนด์และยอดขายอย่างมาก โดยสินค้าขายหมดภายใน 2 สัปดาห์ และทำให้คน Engage กับแบรนด์ได้มากขึ้น

The MUVE ดีไซน์แบรนด์คอนโดให้เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่

อีกหนึ่งผลงานที่น่าพูดถึงคือ คอนโด The MUVE ของแสนสิริ เพราะเป็นแคมเปญที่ประสบความสำเร็จมากหลังจากเปิดตัวคอนโดทำเลแรกที่ย่านเกษตร จนมีหลากหลายโลเคชัน โดยโจทย์ของลูกค้าคือ ต้องการสร้างแบรนด์คอนโดมิเนียมใหม่ในราคา Affordable เพื่อเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งในการสื่อสารแบรนด์ถือเป็นโจทย์หิน เพราะที่ผ่านมาแบรนด์แสนสิริมีจุดแข็งชัดเจนในการเป็นคอนโด Luxury ดังนั้น ทีมจึงเริ่มจากการ Define นิยาม “คนรุ่นใหม่” ของแสนสิริให้ชัดก่อนว่าเป็นคนแบบไหน

“ตอนที่เราทำโปรเจ็คนี้ อยู่ในช่วงโควิดเวฟสอง เราจึงเห็นคนที่เริ่มปรับตัวได้เพื่อให้ตัวเองก้าวไปข้างหน้า โดยจะเห็นหลายคนเริ่มทำอาหารในคอนโดและส่งเดลิเวอรี่ หรือขายผ่านออนไลน์ ซึ่งเรามองว่าคนกลุ่มนี้เป็นเจนเนอเรชั่นที่ไม่มีรอยต่อของการทำงานและการใช้ชีวิต รวมทั้งมองเห็นโอกาสอยู่เสมอ และคนกลุ่มนี้แหละคือ คนที่แบรนด์อยากคุยด้วย”

พอได้นิยามคนรุ่นใหม่มาแล้ว ต่อมาคือ การเบลนด์คอนเซ็ปท์ของคอนโดกับกลุ่มเป้าหมายให้แมชกัน เพื่อให้คนเข้าใจเมสเสจที่แบรนด์ต้องการสื่อสาร จากคอนเซ็ปท์คอนโด ทางทีม ABLE Bangkok ได้ออกแบบชื่อและโลโก้ The MUVE โดยการปรับเปลี่ยนตัวอักษร จาก O ในคำว่า MOVE เป็น U และมี “เส้น” ที่ขีดใต้ตัว U สะท้อนถึงการ Push ให้กลุ่มเป้าหมายก้าวไปสู่การเติบโตขึ้น เพราะมองว่าคนรุ่นใหม่มีการใช้ชีวิตแบบยึดหยุ่นตามสถานการณ์ต่างๆ มีความแข็งแกร่งเพื่อผลักดันเพื่อให้ตัวเองไปถึงเป้าหมาย จากนั้นได้หยิบสมการทางคณิตศาสตร์มาดีไซน์ใหม่ โดยมองว่าสามารถสื่อสารฟังก์ชันคอนโดออกมาได้ง่ายและชัดเจน จนกลายมาเป็น สมการชีวิตของคนรุ่นใหม่ บวก ลบ คูณ หาร (+)บวกของที่จำเป็น (-)ลบสิ่งที่ไม่จำเป็น (x)คูณความชอบที่หลากหลาย (÷)และหารเวลาและพลังงานไปทำสิ่งที่ชอบได้อย่างเต็มที่ ผ่านโลเคชันที่อยู่กลางชุมชน มีตลาด มีสตรีตฟู้ด มีคาเฟ่ ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

รวมทั้งสร้างแคมเปญสื่อสารแบรนด์ผ่าน Music Marketing ในรูปแบบหนัง โดยใช้คนรุ่นใหม่มาเล่าเรื่อง และโปรโมตผ่านไอเดีย My First MUVE โดยใช้ KOL ที่เปลี่ยน Passion ของตัวเองมาเป็นอาชีพ เช่น Creator นักร้อง นักเล่นเกมเพื่อถ่ายทอดมูฟแรกที่เริ่มทำงานเป็นอย่างไร และอินสไปร์คนให้เห็นว่าทุกคนก็สามารถมูฟชีวิตไปข้างหน้าได้เช่นกัน

“ทีม” หัวใจการสร้างงานให้ทัชใจแบรนด์และคน

ด้วยความมุ่งมั่นในการนำ Design Impact มาสร้างสรรค์ผลงานให้มีความแตกต่าง บวกกับการ Define นิยามของดีไซน์ใหม่ให้ชัดขึ้น ทำให้ตอนนี้แบรนด์เริ่มเข้าใจมากขึ้นว่าดีไซน์สามารถเข้าไปทำงานโฆษณาอย่างอื่นได้ และเข้ามาปรึกษาพร้อมมอบโจทย์ที่แตกต่างกันมากขึ้น ซึ่งทางบริษัทมีเป้าหมายในการขยายกลุ่มลูกค้าทั้งจากฐานลูกค้าปัจจุบันในกลุ่มอสังหา และ FMCG รวมถึงอุตสาหกรรมใหม่ๆ เพิ่มขึ้นด้วย

“เรามองที่ความสำเร็จของลูกค้าทั้งการสร้างแบรนด์และธุรกิจ ควบคู่ไปกับการสร้างสรรค์งานที่แตกต่าง เราอยากให้งานออกมาดีมากขึ้นและลูกค้ารักในสิ่งที่เราสร้างไปด้วยกัน”

คุณจิวายุทธ ย้ำถึงความสำเร็จในวันนี้และเป้าหมายของ ABLE Bangkok ที่จะก้าวเดินต่อไป พร้อมกับเชื่อว่าวิธีคิดและการทำงานแบบนี้ จะเพิ่มมุมมองใหม่ในการทำงานของลูกค้า และสร้างผลลัพธ์ที่ทรงพลังให้กับแบรนด์มากขึ้นอย่างแน่นอน

ดังนั้น ถ้าจะให้อธิบายว่าทำไมเอเยนซี่ที่ก่อตั้งได้เพียง 3 ปี ถึงทำงานออกมาได้ทัชใจแบรนด์และคนดู คงต้องบอกว่า นอกจากไอเดียการคิดงานที่ไม่เหมือนใคร อีกส่วนที่มีความสำคัญยังมาจาก “ทีม” และ “วัฒนธรรมองค์กร” ที่ Culture การทำงานจะเปิดรับความคิดเห็นของทุกคน และมีความยืดหยุ่นในการทำงานสูง จึงทำให้ครีเอทีฟสนุกกับการทำงาน ซึ่งส่งผลให้ชิ้นงานออกมามีความแปลกใหม่ และเข้าถึงคนนั่นเอง


แชร์ :

You may also like