HomeSponsoredห่างไกลโรค เคล็ด(ไม่)ลับวิธีเปลี่ยน “น้ำประปา” ให้เป็น “น้ำสะอาด” เพื่อสุขภาพที่ดี

ห่างไกลโรค เคล็ด(ไม่)ลับวิธีเปลี่ยน “น้ำประปา” ให้เป็น “น้ำสะอาด” เพื่อสุขภาพที่ดี

แชร์ :

ปัจจุบัน แม้น้ำประปาจะมาจากแหล่งธรรมชาติ ผ่านกรรมวิธีฆ่าเชื้อและทำความสะอาดเบื้องต้นมาแล้ว แต่ทราบหรือไม่ว่าในระหว่างทางที่น้ำเดินทางมาสู่บ้านเรือนนั้น น้ำประปาก็ยังเสี่ยงที่จะปนเปื้อนสิ่งอันตราย หากเข้าสู่ร่างกายผ่านการดื่มและกิน ผ่านหลายท่อน้ำ หลายวัสดุ ก่อนจะออกมาจากก๊อกให้เราได้ใช้ สิ่งปนเปื้อนอันตรายเหล่านี้ มีทั้งแบคทีเรีย เชื้อโรค สิ่งสกปรก ตะกอน รวมถึง ‘ไมโครพลาสติก’ ที่มีขนาดเล็กมากๆ จนไม่สามารถสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่า หลายคนอาจสงสัยและเคยคิดว่า น้ำประปากินได้ไหม คำตอบก็คือ ‘ไม่ควร’ อย่างแน่นอน

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

แต่ก็ไม่ใช่ว่าเราไม่สามารถใช้น้ำประปามาดื่ม หรือประกอบอาหารได้เลยซะทีเดียว เพียงแค่ว่าอาจต้องควบคุมคุณภาพ หรือเลือก ‘วิธี’ ที่ถูกต้องในการปรับเปลี่ยนน้ำประปาให้กลายเป็นน้ำสะอาดจริง ๆ แล้ววิธีที่ถูกต้อง มั่นใจได้ว่าน้ำสะอาดคืออะไรนะ? วันนี้เครื่องกรองน้ำ eSpring™ ได้รวบรวมวิธีเหล่านั้นมาแชร์ พร้อมวิธีเช็กลักษณะของที่น้ำสะอาด ช่วยให้ผู้บริโภคไร้กังวลต่ออันตรายด้านสุขภาพ ตามมาดูพร้อมกันเลย!

แชร์วิธีการทำให้น้ำประปาดื่มได้อย่างปลอดภัย

ก่อนไปถึงวิธีการเปลี่ยนน้ำประปาให้กลายเป็นน้ำสะอาดนั้น มาดูอันตรายหรือโทษของการดื่มน้ำประปาจากก๊อกน้ำโดยไม่กรองฆ่าเชื้อหรือต้มก่อน ซึ่งบอกได้เลยว่าส่งผลเสียต่อสุขภาพของเราและครอบครัวมากกว่าที่คิด เพราะเหล่าเชื้อโรค สิ่งสกปรกที่เจือปนอยู่ในน้ำประปานั้น อาจเป็นตัวการทำให้เรามีปัญหาสุขภาพหลาย ๆ อย่าง เช่น ผื่นขึ้น ปวดท้อง อาเจียน ท้องเสีย มีปัญหาเกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์ ที่อาจสร้างความผิดปกติของพัฒนาการในวัยเด็ก รวมถึงโรคมะเร็ง นอกจากนี้ในกลุ่มเด็ก ทารก หญิงตั้งครรภ์ และบุคคลที่ป่วยเป็นโรคประจำตัวอยู่ จะมีความเสี่ยงมากกว่าคนทั่ว ๆ ไป ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องเฝ้าระวังอย่างมาก และควรใส่ใจกับการเลือกดื่มน้ำสะอาดเป็นพิเศษ

การที่จะทำให้น้ำประปาดื่มได้นั้น มีอยู่ 2 วิธีหลัก ๆ ที่จะเป็นการฆ่าเชื้อโรค กรองตะกอน และสิ่งสกปรกต่าง ๆ ออกจากน้ำประปาได้ค่อนข้างมีประสิทธิภาพ มั่นใจว่าสามารถดื่มหรือนำน้ำประปาไปประกอบอาหารได้โดยไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยมีวิธีดังต่อไปนี้

การต้มน้ำให้เดือดทุก ๆ ครั้งก่อนดื่มหรือนำไปประกอบอาหาร

โดยทั่วไป น้ำประปาจะผ่านการฆ่าเชื้อด้วยคลอรีนในระดับหนึ่งอยู่แล้ว แต่การต้มน้ำให้เดือดเป็นวิธีที่ปลอดภัยมากกว่าและมีประสิทธิภาพในการกำจัดเชื้อโรคที่อาจหลงเหลืออยู่ อย่างแบคทีเรีย เช่น Salmonella และ E. coli สำหรับวิธีการต้มน้ำประปาให้เดือดเพื่อฆ่าเชื้อโรค สามารถทำได้ดังนี้

1. ใส่น้ำประปาลงในกาต้มน้ำ หรือภาชนะที่สะอาด

2. นำกาต้มน้ำหรือภาชนะนั้น ๆ ขึ้นตั้งไฟและต้มจนน้ำเดือดในระดับ 100 องศาเซลเซียสขึ้นไป หรือสูงกว่านั้น

3. หลังจากที่น้ำเดือดแล้ว ให้ปล่อยน้ำประปาทิ้งไว้ให้เดือดต่ออีกอย่างน้อย 20 นาที เพื่อให้แน่ใจว่าเชื้อโรคทั้งหมดถูกกำจัด หรือลดน้อยลงแล้ว

4. ปล่อยให้ระดับน้ำเย็นลงกลายเป็นอุณภูมิปกติ ก่อนนำไปดื่มหรือใช้ประกอบอาหาร

ข้อควรระวัง: แม้การต้มน้ำให้เดือดจะช่วยกำจัดเชื้อโรคและแบคทีเรียได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่ควรต้มน้ำนานจนเกินไป เพราะอาจทำให้น้ำสูญเสียออกซิเจนและรสชาติไป ที่สำคัญหากน้ำมีกลิ่นหรือรสชาติแปลกๆ ไม่ควรดื่มเด็ดขาด ให้เทน้ำทิ้งได้เลย

การติดตั้งเครื่องกรองน้ำ

วิธีถัดมา คือวิธีที่เราแนะนำ และเป็นวิธีที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลว่า สามารถเปลี่ยนน้ำประปาให้กลายเป็นน้ำดื่มสะอาดได้มีประสิทธิภาพมากกว่าการนำน้ำไปต้มให้เดือดหลายเท่า ไม่ทำให้น้ำสูญเสียรสชาติ และออกซิเจนไป แถมการติดเครื่องกรองน้ำไว้กับก๊อกน้ำเลย ก็เป็นวิธีที่สะดวก รวดเร็ว เพราะสามารถกรองเชื้อโรค สิ่งสกปรกออกจากน้ำประปาได้ทันทีเลย โดยไม่ต้องนำไปต้ม หรือกรองแยกเองหลายขั้นตอน

นอกจากนี้ ควรเลือกเครื่องกรองน้ำที่สามารถกรองไมโครพลาสติกได้ อย่าง eSpring™ ด้วยเทคโนโลยีชุดไส้กรองคาร์บอน e3 ที่สามารถกรองไมโครพลาสติก สิ่งปนเปื้อนกว่า 170 ชนิด กรอง PFOA และ PFOS และกำจัดเชื้อโรค ไวรัส แบคทีเรียได้ถึง 99.99% ด้วย นวัตกรรม UV-C LED รายแรกที่ได้รับรองจาก NSF/ANSI ที่ 55 เพื่อน้ำดื่มสะอาด ปลอดภัย ได้คุณประโยชน์จากแร่ธาตุที่จำเป็น และมีรสชาติที่ดี อีกทั้งยังสามารถใช้งานได้นานต่อเนื่อง 10 ปี หรือ 500 ชั่วโมง ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เมื่อเทียบกับการที่ต้องซื้อน้ำดื่มเป็นรายสัปดาห์ หรือรายเดือน

ลักษณะของน้ำสะอาด ปลอดภัย พร้อมดื่ม

แล้วเราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าน้ำประปาที่ผ่านการกรองน้ำมานั้น ได้สะอาดและปลอดภัยแล้ว? อาจสังเกตด้วยลักษณะของสีน้ำและกลิ่นของน้ำง่าย ๆ ดังนี้ได้เลย

– สีใส: น้ำที่สะอาด ดื่มได้ควรต้องมีลักษณะที่ใสและโปร่งใส ไม่มีสิ่งผสม เช่น ตะกอน ดิน หรือสารละลายอื่นๆ ซึ่งอาจทำให้น้ำมีสีหรือขุ่น

– ไม่มีกลิ่นหรือรสชาติแปลกปลอม: น้ำที่สะอาด ดื่มได้ ไม่ควรมีกลิ่นหรือรสที่แปลกปลอม เช่น รู้สึกรสชาติฝาดมากกว่าปกติ รวมถึงมี Texture อื่น ๆ เจือปนมา

– ปราศจากสารตกตะกอน: น้ำดื่มที่มีคุณภาพดี สะอาดไม่ควรมีสารตกตะกอนใด ๆ หลงเหลืออยู่เลย เช่น โลหะหนัก สารตะกั่ว ซึ่งเป็นสิ่งที่อันตราย หากเข้าไปสะสมอยู่ในร่างกาย

สรุปแล้วน้ำประปากินได้ไหม? แม้ในน้ำประปาจะมีคลอรีน ซึ่งเป็นสารที่ใช้ฆ่าเชื้อและทำความสะอาดน้ำประปา แต่เมื่อมีคลอรีนมากเกินไป ไหนจะสารเคมี เชื้อโรค ไมโครพลาสติกที่ปนเปื้อนมาโดยที่เราไม่รู้ตัวอีก ทำให้น้ำที่เราดื่มอาจเกิดการสะสมและส่งผลอันตรายต่อสุขภาพได้ ดังนั้น น้ำประปาจะสามารถดื่มได้ ก็ต่อเมื่อผ่านกระบวนการกรองและฆ่าเชื้อตามมาตรฐานของกรมอนามัยแล้ว อย่างการต้มน้ำให้เดือดนานอย่างน้อย 20 นาที วิธีนี้จะฆ่าเชื้อโรคและสิ่งปนเปื้อนได้ค่อนข้างมีประสิทธิภาพ หรืออีกวิธีที่สะดวก ทันสมัย และที่ใช้กันอย่างแพร่หลายเกือบทุกครัวเรือนในปัจจุบัน  และได้รับการยอมรับในระดับสากลอย่างการติดตั้งเครื่องกรองน้ำที่ได้รับการรับรองโดย NSF มาตรฐาน NSF/ANSI ที่ 55 สามารถกรองไมโครพลาสติก สิ่งสกปรก เชื้อโรค และสารปนเปื้อนอื่น ๆ ออกจากน้ำได้ ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี สามารถตอบโจทย์สุขภาพและคุณภาพชีวิตของคนภายในบ้านได้อย่างยั่งยืน

 


แชร์ :

You may also like