AWS ประกาศลงทุนในธุรกิจคลาวด์ ผ่าน “AWS Region” จำนวน 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในไทย (หรือประมาณ 1.9 แสนล้านบาท) โดยถือเป็น Region ทื่สี่ของ AWS ที่เปิดตัวในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งประกอบไปด้วยสิงคโปร์ อินโดนีเซีย และมาเลเซีย คาดพร้อมให้บริการต้นปี 2568
คุณวัตสัน ถิรภัทรพงศ์ Country Manager ประจำประเทศไทยของ AWS กล่าวว่า “ลูกค้าของเราในประเทศไทย เช่น บางกอกแอร์เวย์ส บริษัท ซีพี ออลล์ จํากัด (มหาชน) บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (PTTGC) และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ได้ใช้งานบนระบบคลาวด์ของ AWS เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรม เพิ่มประสิทธิภาพ และส่งเสริมความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และการเปิดตัว AWS Thailand Region ภายในต้นปี 2568 นี้ จะยิ่งช่วยผลักดันให้ประเทศไทยกลายเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีภายในภูมิภาค โดยเรามีความยินดีอย่างยิ่งในการส่งเสริมอนาคตที่รุ่งเรืองสำหรับลูกค้าและพาร์ตเนอร์ของเราทุกราย”
ด้านคุณเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการลงทุนดังกล่าวว่า “ยินดีต้อนรับการลงทุน 5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ของ AWS ในการสร้าง AWS Thailand Region แห่งใหม่ ซึ่งจะช่วยผลักดันให้การเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลของประเทศไทยก้าวไปอีกขั้น การลงทุนครั้งนี้ช่วยเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ เพิ่มโอกาส และความสามารถในการแข่งขันของไทย และส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจ ผู้ประกอบการ และสตาร์ทอัพไทยนับพันราย ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของนโยบาย Cloud First ที่สนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เชื่อว่า AWS Thailand Region จะสนับสนุนโอกาสทางเศรษฐกิจ เสริมสร้างทักษะดิจิทัลให้แก่บุคลากรของเรา รวมถึงขับเคลื่อนนวัตกรรม รัฐบาลพร้อมที่จะร่วมมือกับ AWS เพื่อดึงศักยภาพและสร้างประโยชน์สูงสุดจากการพัฒนาครั้งนี้ไปสู่ประชาชนชาวไทยทุกคน ซึ่งถือเป็นการวางรากฐานที่สำคัญ ผลักดันให้ไทยก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านเศรษฐกิจดิจิทัล และความสามารถในการแข่งขันบนเวทีโลก”
อย่างไรก็ดี งบการลงทุนดังกล่าวเป็นงบต่อเนื่องที่จะใช้ไปจนถึงปี 2580
สำหรับประโยชน์ที่ภาคธุรกิจไทยจะได้รับคือเรื่องของการเก็บข้อมูลไว้ในประเทศไทย และช่วยลดความหน่วงของการรับส่งข้อมูลได้มากยิ่งขึ้น รวมถึงสามารถตอบสนองความต้องการในการใช้คลาวด์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้อีกทางหนึ่ง โดยปัจจุบันผู้ใช้บริการและพาร์ตเนอร์ของ AWS มีหลายกลุ่ม เช่น 2C2P, Accenture, aCommerce, Amity, Ascend Money, AXONS, บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ, DailiTech, G-Able, กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคิน, บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน), MONIX, NocNoc, ปตท., บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SiS, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน), KBTG, ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และโตโยต้า เป็นต้น
อัปสกิล AI ให้คนไทย
นอกจากประกาศลงทุน AWS Region แล้ว อีกหนึ่งประเด็นที่มีการให้ความสำคัญคือการอัปสกิลด้าน AI ให้กับประเทศไทย โดยมีผลการสำรวจจาก Access Partnership และ AWS พบว่า 64% ของนายจ้างในประเทศไทยไม่สามารถหาบุคลากรที่มีทักษะ AI ตามที่ต้องการได้ (จากการศึกษาในหัวข้อ “การยกระดับทักษะด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI): การเตรียมความพร้อมบุคลากรในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกสู่งานแห่งอนาคต”) ทาง AWS จึงมีการแนะนำโครงการ ‘AI Ready’ ของทาง Amazon ในการฝึกอบรมด้าน AI และ Generative AI แบบไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยปัจจุบัน มีนักศึกษาจาก 26 สถาบันในประเทศไทย เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สามารถเข้าถึงหลักสูตรนี้ได้แล้ว
นอกจากนี้ AWS ยังได้เปิดตัวโปรแกรมฝึกอบรมและการรับรองมาตรฐานอื่น ๆ ร่วมด้วย เพื่อให้ผู้เรียนได้มีทักษะด้านดิจิทัลที่จำเป็นและช่วยให้ประสบความสำเร็จในสายงานด้านดิจิทัลได้ เช่น AWS Skill Builder ซึ่งเป็นการเรียนรู้ในรูปแบบดิจิทัลที่มีหลักสูตรออนไลน์ด้านทักษะคลาวด์ฟรีมากกว่า 600 หลักสูตร รวมถึง 62 หลักสูตรที่เป็นภาษาไทย นอกจากนี้ยังมีศูนย์การเรียนรู้ออนไลน์ใหม่ที่ช่วยให้สามารถสร้างทักษะด้าน AWS Cloud ได้ง่ายขึ้น และการฝึกอบรมดิจิทัลแบบเรียนด้วยตนเองตามความสะดวกของแต่ละบุคคลด้วย