HomePR Newsบีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก เดินหน้ายกระดับ “การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ” เน้นกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน [PR]

บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก เดินหน้ายกระดับ “การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ” เน้นกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน [PR]

แชร์ :

การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) เป็นการท่องเที่ยวที่มุ่งเน้นการฟื้นฟูสุขภาพทั้งทางร่างกายและจิตใจ เพื่อเสริมสร้างสุขภาพและความเป็นอยู่ไปในทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นเทรนด์ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วไปทั่วโลก โดยประเทศไทยเป็นจุดหมายที่ได้รับความนิยมอันดับต้น ๆ ที่นักท่องเที่ยวอยากเดินทางมาใช้จ่ายเพื่อการส่งเสริมสุขภาพ จากการจัดอันดับของ Wellness Tourism Initiative 2020 ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 2 ของโลก ที่คนอยากมาท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ รองจากออสเตรเลีย

ปัจจัยที่ทำให้นักท่องเที่ยวเลือกมาประเทศไทย

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ประเทศไทยมีข้อได้เปรียบหลายอย่างที่สามารถดึงดูนักท่องเที่ยวที่ต้องการผ่อนคลายและฟื้นฟูสุขภาพในเวลาเดียวกัน ข้อได้เปรียบที่สำคัญ 5 ประการ ได้แก่

1. สถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม: ประเทศไทยมีธรรมชาติที่งดงามและน่าตื่นตาตื่นใจ เช่น ทะเล ภูเขา น้ำตก ที่สวยงาม และป่าที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถผ่อนคลายและฟื้นฟูสุขภาพในสภาพแวดล้อมที่งดงามได้อย่างเต็มที่

2. อาหาร: อาหารไทยมีชื่อเสียงเป็นอย่างมากเรื่องรสชาติและคุณค่าทางโภชนาการ เนื่องจากมีสมุนไพร เครื่องเทศต่าง ๆ เป็นส่วนประกอบ โดย Tasteatlas Awards 2024 ประกาศให้ ‘อาหารไทย’ ติดอันดับที่ 17 จาก 100 อันดับอาหารที่ดีที่สุดในโลก และเป็นอันดับ 5 อาหารที่ดีที่สุดในเอเชีย

3. วัฒนธรรม: ประเทศไทยมีเอกลักษณ์ที่บ่งบอกความเป็นชาติไทยได้อย่างชัดเจน เช่น ภาษา การแต่งการ ศิลปวัฒนธรรมและประเพณีท้องถิ่น รวมถึงการบริการและการต้อนรับที่ดีเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

4. ภูมิปัญญาท้องถิ่น: เช่น การนวด การทำสปาแบบไทยและสปาที่ใช้สมุนไพรท้องถิ่น

5. ศูนย์กลางทางการแพทย์และการรักษาโรค: ประเทศไทยมีชื่อเสียงด้านคุณภาพและมาตรฐานการรักษาระดับสากล โดยในปี 2021 Medical Tourism Association (MTA) จัดอันดับให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ของไทยติดอันดับ 5 ของโลก การติดอันดับนี้เป็นการยืนยันว่าประเทศไทยมีความพร้อมทางการแพทย์ที่สามารถสร้างความเชื่อมั่นและเป็นที่ยอมรับในสายตานักท่องเที่ยว

นายแพทย์ตนุพล วิรุฬหการุญ ประธานคณะผู้บริหาร บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก และ บีดีเอ็มเอส เวลเนส รีสอร์ท บริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการจำกัด (มหาชน)

BDMS รุกตลาดต่างชาติ นำร่องจับมือบริษัทจีน  

บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก ผู้นำด้านการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันชั้นนำของประเทศไทย ในฐานะเครือข่ายด้านการดูแลสุขภาพเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ลงนามสัญญาความร่วมมือ กับบริษัท FanHua Blue Plus Health Management (ฟ่านหัว บลูพลัส เฮล์ธ มาเนจเมนท์) ซึ่งเป็นโบรกเกอร์บริษัทประกันภัยและผู้ให้บริการจัดการด้านสุขภาพชั้นนำของสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อเป็นการยกระดับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและทางเลือกการรักษาสำหรับผู้รับบริการชาวจีนที่สนใจเดินทางมายังประเทศไทย

ปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวชาวจีนมากกว่า 4 ล้านคน ซึ่งคาดว่าจะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นตามนโยบายฟรีวีซ่า นอกจากนี้ จากข้อมูลของ Global Wellness Tourism Economy การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพก็ได้เติบโตเพิ่มขึ้นด้วย โดยขนาดตลาดทั่วโลกมีมูลค่าสูงถึง 9.19 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2022 และมีอัตราการเติบโตต่อปีที่ 7.5% ความร่วมมือครั้งนี้จึงเป็นโอกาสสำคัญที่จะทำให้ประเทศไทยกลายเป็นผู้นำด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพได้

ประโยชน์ความร่วมมือ MOU

ความร่วมมือดังกล่าวจะช่วยเพิ่มความตระหนักและการรับรู้ของแบรนด์บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก ให้กับผู้รับบริการชาวจีนอย่างมีนัยสำคัญ โดยจะได้รับประโยชน์จากชื่อเสียงที่กว้างขวางของ FanHua  Blue Plus Health Management นอกจากนี้ ประเทศไทยยังจะได้รับผลประโยชน์จากนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่หลั่งไหลเข้ามา ซึ่งถือเป็นการเปิดบทบาทใหม่ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ และความร่วมมือครั้งนี้จะแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์และการดูแลสุขภาพระดับโลกอีกด้วย

นำจุดแข็งต่อยอด เน้นป้องกันก่อนเกิดโรค

บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำของประเทศไทย ได้รวบรวมแนวทางการดูแลสุขภาพที่ทันสมัย โดยให้ความสำคัญกับการป้องกันมากกว่าการรักษา นำความเชี่ยวชาญในการตรวจหาและป้องกันโรคตั้งแต่เนิ่น ๆ แบบองค์รวม โดยใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ไม่เพียงแต่ในการคาดการณ์ด้านสุขภาพในอนาคตเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นทั้งกายและใจ

“จุดแข็งของเราคือ BDMS ทำเรื่องนี้มายาวนาน และรักษาคนป่วยเยอะมาก เราก็ใช้เทคโนโลยีชุดนี้ขยับมาตรวจคนไม่ป่วย เพื่อหาให้เจอตั้งแต่เนิ่น ๆ” 

นายแพทย์ตนุพลให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) และการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้คนตระหนักด้านการดูแลสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่มีอัตราการเสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง สูงถึง 77% คิดเป็น 380,400 คนต่อปี เฉลี่ย 44 คนต่อชั่วโมง จึงอยากรณรงค์ให้สนใจสุขภาพอย่างน้อย 5 ข้อ คือ 1.กินอาหารดีและอย่าอ้วน 2. อย่าอดนอน 3. ออกกำลังกาย 4.ไม่สูบบุหรี่ ดื่มสุรา 5. อารมณ์ดี ถ้าทำได้ครบแล้วก็จะเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย และหากต้องการดูแลสุขภาพส่วนไหนเพิ่มเติมก็สามารถดูแลในรายละเอียดที่ลงลึกต่อไป เช่น การตรวจพันธุกรรม (Genetic Testing), การตรวจอายุทางชีวภาพ (Biological age) เป็นต้น


แชร์ :

You may also like