HomePR NewsGREYnJ UNITED ส่ง 2 ธุรกิจใหม่ Black&White/ Immersive Experience Studio เสริมบริการยุค Immersive Marketing

GREYnJ UNITED ส่ง 2 ธุรกิจใหม่ Black&White/ Immersive Experience Studio เสริมบริการยุค Immersive Marketing

แชร์ :

GREYnJ UNITED เปิดตัว 2 หน่วยธุรกิจใหม่ Black&White และ Immersive Experience Studio บริการใหม่ที่ปลดล็อกขีดจำกัด Creativity เปิดเกมกลยุทธ์ Human First ชูจุดแข็ง Consumer Insight ผ่านแพลตฟอร์มและเทคโนโลยี AI เพิ่มประสิทธิภาพคอนเทนต์ 360° พร้อมสร้างประสบการณ์ใหม่ผ่านรูปแบบ Hyper Personalization ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าและเทรนด์การตลาดยุค Immersive Marketing

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

กนกกร สีหพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ GREYnJ UNITED เปิดเผยว่า ปัจจุบัน โลกโฆษณากำลังเข้าสู่ยุคแห่งการสร้างประสบการณ์เหนือระดับ (Immersive Marketing) กล่าวคือ แบรนด์และผู้บริโภคมีความผูกพันทางอารมณ์ (Emotional Connection) ที่ลึกซึ้งและยาวนานขึ้น ผู้บริโภคมีความคาดหวังต่อแบรนด์สินค้ามากขึ้น ขณะเดียวกัน สินค้าและบริการก็มีบทบาทต่อชีวิตผู้บริโภคมากขึ้นเช่นกัน

 

กนกกร สีหพันธุ์

กนกกร สีหพันธุ์

 

ทั้งนี้ โลกสื่อสารการตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงไปมากในปัจจุบัน ซึ่งเป็นผลมาจาก

  • การแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นและนโยบายอัลกอริธึ่มของแพลทฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ
  • ความก้าวหน้าและการเข้าถึงเทคโนโลยี ทำให้ใครก็สามารถผลิตคอนเทนท์ได้ (Content Democratization) บทบาทผู้บริโภคจึงเป็นทั้งผู้รับสารสู่ผู้ส่งสารด้วย
  • การกำหนดขึ้นและอำนาจการชี้นำของอินฟลูเอนเซอร์ที่สูงขึ้นมาก
  • รวมถึงองค์ประกอบที่เปลี่ยนแปลงไปในอีโคซิสเต็มการสื่อสารการตลาด

ดังนั้น การสื่อสารแบรนด์ผ่านคอนเทนต์หรือ Content Marketing จึงยังคงเป็นเทรนด์การตลาดที่มาแรงในอีกอย่างน้อย 5 ปีข้างหน้า ด้วยเหตุนี้ การสร้างแบรนด์ในยุค Immersive Marketing จึงจำเป็นต้องอาศัยคอนเทนต์ที่โดนใจผู้บริโภคในทุก touchpoint ผสานความแม่นยำและความเฉพาะตัวจากเทคโนโลยีเข้ากับความเป็นมนุษย์ เพื่อให้แบรนด์เข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภคผ่านโมเมนต์ที่น่าจดจำและความสัมพันธ์อันลึกซึ้ง สัมผัสและรับรู้ได้ถึงคุณค่าและความเชื่อของแบรนด์  นำไปสู่ “ปฏิสัมพันธ์” ระหว่างกันในระดับที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นผ่าน “ประสบการณ์” ที่ไม่เพียงสนุก แต่ยังมีความหมาย (Meaningful) ซึ่งนี่คือ กลยุทธ์แบบ Human First

 

Black&White มอบบริการตอบโจทย์เฉพาะตัว

ธันยพร ธีระประภา ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจ Black&White กล่าวว่า ในยุค Immersive Marketing ส่งผลให้บทบาทและความสัมพันธ์ของแบรนด์ต่อผู้บริโภคมีมากขึ้น ทำให้ได้มาซึ่งมาตรวัดทางการตลาด (Key Metrics) ต่างๆ  เช่น Engagement, Conversion Rates และ Customer Lifetime Value เป็นต้น “ข้อมูล” เหล่านี้มีความสำคัญอย่างมากต่อการสร้างมูลค่าทางธุรกิจในระยะยาวจาก Customer Loyalty

 

 

ด้วยเหตุนี้ Black&White จึงก่อตั้งขึ้น โดยมีพันธกิจเพื่อพาแบรนด์เข้าสู่ภูมิทัศน์ทางดิจิทัล พร้อมก้าวล้ำคู่แข่ง โดยวางโพสิชั่นนิ่งเป็น “Digi-Human Agency” ชูจุดแข็งความเชี่ยวชาญในแพลตฟอร์มดิจิทัล ผสานความเข้าใจในพฤติกรรม/ทัศนคติผู้บริโภค เพื่อความสำเร็จของธุรกิจเฉพาะตัว พร้อมเสริมแกร่งด้วยเทคโนโลยี AI จากทีมผู้เชี่ยวชาญภายในและพาร์ตเนอร์ โดยมีบริการครอบคลุมตั้งแต่วางแผนกลยุทธ์การสื่อสารดิจิทัล กลยุทธ์แพลตฟอร์ม ออกแบบประสบการณ์ลูกค้า วิเคราะห์ข้อมูล การบริหารจัดการ KOL ที่มาพร้อมกับ Creative Idea และ Effectiveness, Media Optimization, Performance Marketing และ Marketing Automation เรียกได้ว่าเป็น One Stop Service สำหรับนักการตลาด ที่มองหาพาร์ตเนอร์ที่จะทำงานในระยะยาวไปด้วยกัน

Black&White มองว่า ปัจจัยสำคัญที่นำพาความสำเร็จมายังธุรกิจท่ามกลางโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว คือ ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งทั้งมิติความเป็นมนุษย์ของผู้บริโภคและแพลตฟอร์มที่มี AI อยู่เบื้องหลัง ซี่งหากแบรนด์ตีโจทย์ 2 ประการนี้ได้อย่างทะลุปรุโปร่งแล้ว แบรนด์ก็จะสามารถสร้างประสบการณ์ในรูปแบบ Personalized และ Engaged มากขึ้น ซึ่งนี่ถือเป็นจุดเด่นของ Black&White ด้วยการสร้าง Pop Culture ของวิถีแห่ง Digital Marketing ทำให้แบรนด์ไม่เพียงตอบโจทย์ในแง่ Performance เท่านั้น แต่ยังตอบสนองธรรมชาติของความเป็นมนุษย์ สร้างพื้นที่ในใจของคอนซูเมอร์

“การเปลี่ยนผ่านของโลกดิจิทัลในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคที่รวดเร็ว ส่งผลให้แพลตฟอร์มเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของความสำเร็จในการทำแคมเปญ ซึ่งต้องมาพร้อมกับวิถีการทำงานที่ไหลลื่นและยืดหยุ่น (Fluidity and Flexibility) เพราะในโลกดิจิทัล ไม่มีการรอ และไม่มีสูตรสำเร็จที่ตายตัวอีกต่อไป แต่ต้องอาศัยโซลูชันที่ได้รับการออกแบบเฉพาะตัวที่ตอบโจทย์ ‘ช่องว่างทางการตลาด’ ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วให้ได้ ถึงจะนำมาซึ่งโอกาสทางธุรกิจของแบรนด์ที่เป็นลูกค้าของเราในยุคดิจิทัลได้อย่างแท้จริง” ธันยพร กล่าว

 

Content Creation Framework

กรี  มั่งคั่ง ผู้อำนวยการ Immersive Experience Studio กล่าวเสริมว่า สำหรับ Immersive Experience Studio นี้ ได้รับการพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด One Stop Service for Disruptive Creativity เพื่อผลิต Creative Assets ให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็น TikTok, Facebook, Instagram, X และ Google Display Network (GDN) ซึ่งมีพลวัต (Dynamic) มีผู้ใช้งานจำนวนมาก (Scaled) และมีความหลากหลายสูง (Diverse)

 

กรี  มั่งคั่ง

กรี  มั่งคั่ง

 

เมื่อ 3 ลักษณะสำคัญดังกล่าวของแพลตฟอร์มมีอิทธิพลต่อประสบการณ์ระหว่างแบรนด์และผู้บริโภคอย่างมาก การคิดแคมเปญโฆษณาจึงต้องคิดอย่างรอบด้าน 360° เพื่อให้แบรนด์สามารถเข้าถึง สื่อสาร และมีปฏิสัมพันธ์กับผู้บริโภคได้อย่างลึกซึ้งและแน่นแฟ้นมากขึ้นในทุก Touchpoint ผ่าน “คอนเทนต์” ที่ “ว้าว” ขึ้น กับรูปแบบใหม่ๆ อย่าง Hyper Realistic Ads และ Hyper-personalization

“โฆษณาภายใต้อิทธิพลของแพลตฟอร์ม คอนเทนต์ถือเป็น Backbone ของการทำ Digital Marketing ให้ประสบความสำเร็จ” กรี อธิบาย

ขณะเดียวกัน Immersive Experience Studio ยังได้พัฒนา Famously Effective Content Framework เพื่อเป็นแนวทางพัฒนาคอนเทนต์ให้โดนใจผู้บริโภคมากขึ้น โดยประเมินจาก 3 องค์ประกอบ ได้แก่ 1. กระแสบนโซเชียลมีเดียผ่าน Creative Center 2.ลักษณะของกลุ่มเป้าหมาย และ 3. Brand Proposition

พร้อมกันนี้ GREYnJ UNITED ได้ประกาศแต่งตั้งอีก 2 ตำแหน่งสำคัญ เพื่อเสริมทัพการทำงานให้มีประสิทธิภาพ ได้แก่ คุณนวินดา กิตติทรัพย์กุล เป็น Deputy Chief Strategy Officer และ คุณจิรเดช เพ่งเล็งผล เป็น Executive Creative Director

“การก่อตั้ง Black&White และ Immersive Experience Studio รวมถึงการปรับทัพด้านบุคคลากร ซึ่งเป็นหัวใจของงานโฆษณาในครั้งนี้ จะเข้ามาช่วยเติมเต็มศักยภาพ GREYnJ UNITED ในภาพรวมให้แข็งแกร่งในยุคที่การแข่งขันรุนแรงและไร้พรมแดนมากขึ้น” กนกกร กล่าว

ติดตามพวกเราได้ที่ LINE


แชร์ :

You may also like